ย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว...ฤดูกาลแห่งการเข้าพรรษากำลังจะเวียนมาถึงอีกครั้ง ประเพณีที่สืบเนื่องมาแต่ครั้งโบราณของสังคมไทยคือ การศึกษาและฝึกฝนอบรมตนเอง ให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ด้วยการอุปสมบทเป็นพระภิกษุของชายไทยในช่วงเข้าพรรษา ซึ่งสำหรับในปี ๒๕๕๓ นี้ ได้มีการจัดอุปสมบทหมู่ครั้งยิ่งใหญ่ภายใต้โครงการ “บวชพระ ๑๐๐,๐๐๐ รูป เข้าพรรษา”
ขอนำข้อความและเนื้อหาในเอกสารของโครงการดังกล่าวมาถ่ายทอดและเผยแพร่ไว้ ณ ที่นี้ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ค่ะ
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชาย ต้องบวชให้ได้อย่างน้อย ๑ พรรษา
ถนนสายลูกผู้ชาย....ถนนสายนี้คือถนนแห่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกผู้ชายทุกคน
เราปรารถนาให้คุณมาร่วมเดินบนถนนแห่งความดี
การบวช...เป็นช่วงชีวิตที่จะมาทำให้ตัวเองบริสุทธิ์
มาลด ละ เลิก ในสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อความดี
"บวช" มาจากคำว่า ปะวะชะ แปลว่า เว้นจากการกระทำแบบคฤหัสถ์ งดเว้นจากสิ่งไม่ดี สิ่งที่ทำให้ใจเราต่ำ สิ่งที่ขัดขวางความก้าวหน้าในชีวิต ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ชีวิตพระเป็นชีวิตที่มีคุณค่า ยิ่งกว่า เพศภาวะใดๆในโลก เป็นชีวิตที่มีเกียรติภูมิอันสูงสุด
การบวช...เป็นการแสดงถึงความเป็นผู้กล้าที่จะเอาชนะกิเลสตามเยี่ยงอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราต้องกล้าให้โอกาสตัวเองได้ศึกษาธรรมะ เพื่อการหลุดพ้น เพราะเพศภาวะของคนธรรมดา ๆ นั้น ยากที่จะปฏิบัติตามพระธรรมวินัยให้สมบูรณ์และบริสุทธิ์ได้
วันเวลาของมนุษย์มีน้อยนัก เมื่อเทียบกับอายุของโลกและจักรวาลอันยิ่งใหญ่แล้ว ชีวิตมนุษย์ช่างเล็กน้อยเสียเหลือเกิน แต่หากมนุษย์ต้องการให้วันเวลาที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยของตนนั้น ยิ่งใหญ่...ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แค่รู้จักเปลี่ยนแปลงวันเวลาเหล่านั้นให้มีคุณค่าอย่างแท้จริง ให้ทุกวันที่ผ่านไปเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่ตนเองและมวลมนุษยชาติ อย่ารอให้วันเวลาของชีวิตโบยบินจากไปอย่างไร้ค่า เราจะไม่เหลือความภาคภูมิใจอะไรเลย นอกจากความสำนึก เสียใจอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งเดินไปสุดปลายทางของชีวิตอย่างไร้ความหมาย
บัดนี้...ช่วงเวลาอันทรงคุณค่าเพื่อสร้างเกียรติยศของลูกผู้ชายได้มาถึงแล้ว
คณะสงฆ์ทั้งแผ่นดินร่วมกับคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดให้มี “โครงการบวชพระ ๑๐๐,๐๐๐ รูป เข้าพรรษา” ในระหว่างวันที่ ๙ กรกฎาคม จนถึง วันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นประธานที่ปรึกษาโครงการ รวมทั้งยังมีพระเถระผู้ทรงภูมิรู้ภูมิธรรมทั่วสังฆมณฑลเมตตามาแสดงธรรมและให้การอบรมตลอดทั้งโครงการ
ผู้สมัครบวชทุกท่านไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ สถานที่อบรมได้แก่ วัดที่เป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอกว่า ๗๖๐ แห่ง ทั่วประเทศ และวัดพระธรรมกาย
....วันที่พ่อแม่เฝ้ารอ
บวช ๑ พรรษาทดแทนคุณ.....
"อานิสงส์" ของการบวชครั้งประวัติศาสตร์ มีดังนี้
๑.ผู้บวชย่อมได้โอกาสในการสั่งสมเนกขัมมบารมี (คือบารมีที่เกิดจากการออกบวช) ตามรอยบาทพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒.ผู้บวชย่อมได้บุญใหญ่ที่จะช่วยปิดอบาย เปิดหนทางสวรรค์และพระนิพพานติดตัวไปยาวนาน ถึง ๖๔ กัป
๓.ผู้บวชและผู้สนับสนุนการบวชย่อมได้อานิสงส์ (ผลที่ได้จากการทำความดี) คือเป็นผู้มีปัญญา มีสัมมาทิฐิ สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์และอริยทรัพย์ และได้เกิดในดินแดนที่พระพุทธศาสนารุ่งเรืองไปนับภพนับชาติไม่ถ้วน
๔.สังคมและประเทศชาติเกิดความสงบสุข ร่มเย็น ผ่านพ้นปัญหาไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้อย่างเป็นอัศจรรย์
๕.สร้างผู้นำทางศีลธรรมให้เกิดขึ้นทั่วแผ่นดินไทย จะได้ช่วยกันสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา ให้อยู่คู่ชาติไทยและโลกใบนี้ไปตราบนานเท่านาน
๖.สร้างความสมัครสมานสามัคคีให้เกิดขึ้นแก่พุทธบริษัท ๔ ทั้งแผ่นดิน เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีบทบาทในการฟื้นฟูศีลธรรม และพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืนสืบไป
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถแจ้งความจำนงเข้ารับการอบรมโครงการอุปสมบทครั้งนี้ได้ที่วัดซึ่งเป็นศูนย์อบรมประจำอำเภอทั่วประเทศ หรือสมัครผ่านระบบอินเทอร์เน็ต www.dmycenter.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานโครงการบวชพระ ๑๐๐,๐๐๐ รูปเข้าพรรษา โทร ๐๒-๘๓๑-๑๒๓๔ หรือ ๐๘๗-๗๐๗-๗๗๗๑ ถึง ๓
......
“ชีวิตเพียงวันเดียวของผู้มีศีล มีสมาธิ
ยังประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปีของผู้ทุศีล ไร้สมาธิ”
......
ไม่มีความเห็น