ขับขี่ปลอดภัยใส่ใจตัวเราและคนอื่น........ถึงจุดหมายปลายทางอย่างมีความสุข

ความปลอดภัยในการขับขี่การนั่งที่ถูกต้องในการขับรถ...การวางมือบนพวงมาลัยเทคนิค...การขับอย่างปลอดภัย...การควบคุมรถขณะยางระเบิด

            ขับขี่ปลอดภัยใส่ใจตัวเราและคนอื่น........ถึงจุดหมายปลายทางอย่างมีความสุข

ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนในแต่ละวันต้องเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยตลอดเวลา  เพราะภัยอาจจะเกิดขึ้นทุกวินาที ถ้าหากเราไม่มีความระมัดระวัง  ถือได้ว่ากำลังประมาท  โดยเฉพาะการใช้รถใช้ถนนซึ่งทุกคนต้องไปเกี่ยวข้องอันเนื่องจากเป็นวิถีชีวิตประจำวัน   การที่มีรถคันใดคันหนึ่งไม่ได้วิ่งอยู่บนถนนด้วยความปกติอันเนื่องมาจากสาเหตุใด ๆ ก็ตาม  สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น  ก็จะเต็มไปด้วยการสูญเสีย ทั้งต่อชีวิต ทรัพย์สิน และเวลา

             ฉะนั้นผู้ขับขี่รถหรือผู้รับผิดชอบจำเป็นจะต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ตั้งแต่การเตรียมพร้อมรถ ตำแหน่งการนั่งขับ การบังคับรถ ตลอดจนเทคนิคการขับขี่ และกฎระเบียบในการใช้ถนนต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดสถานการณ์อันตรายที่คาดไม่ถึง ทั้งจากสภาพแวดล้อมเกิดจากธรรมชาติ หรือเกิดจากเพื่อนร่วมท้องถนน กฏจราจร  สายตาที่มองตรงไปทางด้านหน้า  มองกระจกซ้ายขวา เป็นเรื่องที่จะต้องปฏิบัติตลอดเวลา  จะทำให้เรามีความพร้อมในการแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงทีหากมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น  แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อแนะนำสำหรับผู้ขับขี่เพิมเติมที่อยากจะแบ่งปัน  ให้การเดินทางของทุกท่านไปถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย  ดังนี้
               การนั่งที่ถูกต้องในการขับรถ ไม่ควรให้ตัวผู้ขับขี่อยู่ใกล้หรือไกลพวงมาลัยเกินไป ข้อศอกงอเล็กน้อยเมื่อวางมือบนพวงมาลัย หัวเข่างอเล็กน้อย และควรอยู่สูงกว่าสะโพก ปรับเอนพนักพิงให้พอเหมาะ โดยแผ่นหลังต้องแนบกับพนักพิงตลอดเวลา

               การวางมือบนพวงมาลัย ต้องวางมือซ้ายที่ 9 หรือ 10 นาฬิกา และวางมือขวาไว้ที่ 3 หรือ 2 นาฬิกา ที่สำคัญควรจับพวงมาลัยทั้งสองมือตลอดเวลา ส่วน การเก็บสิ่งของในรถ ก็ไม่ควรปฏิบัติ เพราะขณะเก็บสิ่งของอาจจะเป็นช่วงทางโค้ง เราะสายตามาเก็บของเสี้ยววินาที่เดียว ก็หลุดลอยออกจากโค้งได้ในทันที    แต่ถ้ามีความจำเป็นจริง ๆ  ที่จะต้องใช้  ตำแหน่งที่ดีคือการวางของบริเวณที่นั่งด้านคนขับ เนื่องจากหยิบใช้ได้สะดวก และไม่ควรเก็บสิ่งของมีคม เช่น กรรไกร หรือมีดคัทเตอร์ไว้ในรถ 

              เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย เริ่มจากเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้เหมาะสม หรือทำตามกฎ 2 วินาที ที่เป็นหลักสากลที่ใช้กันทั่วโลก หมั่นมองกระจกหลัง และกระจกข้าง อย่างน้อยทุก ๆ 5-10 วินาที เพิ่มทัศนวิสัยด้วยการมองข้ามรถคันหน้าไปให้ไกล แล้วปรับกระจกมองข้างออกจากตัวรถให้มากที่สุด เพื่อให้เห็นพื้นที่ด้านข้างตัวรถมากขึ้นและที่สำคัญที่จะช่วยสำรองความปลอดภัยอีกประการหนึ่งก็คือต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่ก่อนเคลื่อนรถออกจากสถานที่จอดทุกครั้งด้วย

              การควบคุมรถในกรณีที่ยางระเบิด ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก ผู้ขับขี่ควรตั้งสติให้พร้อม ถอนคันเร่งทันที สองมือควบคุมพวงมาลัยให้รถวิ่งอยู่บนถนน ค่อย ๆ กดแป้นเบรกด้วยน้ำหนักพอเหมาะ ลดความเร็วลง พร้อมกับมองกระจกรอบด้านดูว่ามีรถตามมาหรือไม่ จากนั้นค่อย ๆ จอดรถข้างทาง ส่วนกรณีเมื่อยางระเบิดแล้วรถพลิกคว่ำแสดงว่าขับขี่มาด้วยความเร็วสูง

              การขับขี่รถให้ปลอดภัยมีหลาย ๆวิธี ผู้ขับขี่เองต้องหมั่นศึกษาหาความรู้อย่างสม่ำเสมอจะเป็นการดีมาก    ก็เลยจะนำวิธีจากผู้รู้ได้สรุปไว้ชื่อว่า 10 วิธีปฏิบัติ “ขับรถเป็น ขับรถปลอดภัย” ซึ่งปฏิบัติได้ไม่ยาก    ขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่เห็นความสำคัญของตนเองมากน้อยแค่ไหนเท่านั้น   แต่เห็นว่ามีความจำเป็นมากที่จะต้องได้รู้ได้ทราบและจะได้นำไปปฏิบัติ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยาก  อันได้แก่

                  1. ตรวจเช็ครถให้พร้อมก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์

                  2. ร่างกายผู้ขับขี่ต้องพร้อมเช่นเดียวกัน

                  3. กำหนดเส้นทางขับอย่างชัดเจน

                  4. ลดความเร็วในสภาพการขับขี่ที่ทัศนวิสัยไม่ดี

                  5. ขจัดสิ่งรบกวน อาทิ ไม่โทรศัพท์ หรือกระทำสิ่งอื่นขณะขับรถ

                  6. ใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสม

                  7. หลีกเลี่ยงการขับรถติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

                  8. หลีกเลี่ยงการขับรถในช่วงกลางดึก

                  9. ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

                10. มีสติ ตระหนักอยู่เสมอว่า อุบัติเหตุเกิดได้ทุกเวลา
   
                   การขับขี่รถผู้ขับขี่ต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น  ตนเอง   ตัวรถ  ผู้โดยสาร   ผู้คนที่เราไปมีปัญหากับเขา ถึงแม้ไม่ไดอยู่บนรถที่เราขับขี่ แต่เราประมาทไปชนเขา   หรือยางระเบิดรถเสียหลักไปปะทะกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  สิ่งนั้นก็ย่อมอยู่ในความรับผิดชอบของเราทั้งสิ้น   การมีความพร้อมในทุกด้านก่อและหลังการขับขี่รวมทั้งการขับขี่อย่างไม่ประมาทจึงเป็นความจำเป็นที่ผุขับขี่มองข้ามไม่ได้

..............................................................................................................

          แหล่งอ้างอิงที่มา.....เดลินิวส์ออนไลน์   29  มิถุนายน  2553