ความรู้สึกดีๆ ที่ผมได้รับจากคุณตาคนหนึ่ง ณ ตึกกรอส


ดูยาวซักหน่อยนะครับ แต่รับรองว่า น้ำใจในคนไทย จะไม่มีวันหายไปอย่างเเน่นอน

        สวัสดีครับ ผมกลับมาแล้วครับบบบบบ หลังจากที่หายไปจาก ฉบับที่เเล้ว ถึง 2 สัปดาห์ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี่แบบว่า ชีวิตทรหดมาก ผมเรียนแทบไม่รู้เรื่องเลยครับพี่น้อง และถึงเเม้จะรู้เรื่อง ผมก็จำไม่ค่อยจะได้้้ แต่ก็ ถูๆ ไถ แสบๆ คันๆ ไปครับ ช่วงนี้ผมเลยต้องอ่านหนังสือเยอะขึ้นหน่อย ซึ่งมันขัดกับชีวิตผมตอนปี 1 มาก เพราะปี 1 นี่แบบว่า ชิว ชิว มากจริงๆ แบบ มากถึงมากที่สุดครับ เเต่ผมก็ได้ค้นพบ เเละพอจะเข้าใจตัวเองว่า ผมเกียจ และเบื่อ เเละไม่ชอบปี 1 มาก ถึงเเม้ว่าจะมีเวลาว่างๆ เยอะได้ไปดูหนังบ่อยๆ ซึ่งขัดกับความรู้สึกของเพื่อนผมหลายๆคน  เพราะผมคิดว่า ปี 1 เนี่ย เป็นปีที่เรียนเเล้วไม่ค่อยได้นำความรู้ไปใช้อาไรในปี อื่นๆ เลยซักเท่าไร หรือใช้จริง ก็มีบางวิชา ที่มั่นใจว่าแทบไม่ได้ใช้เเน่ๆ เช่น วิชาแคลคูลัส ที่เนื้อหาเเบบว่าไม่เหมือนของ ม 6 เลยนะครับ เเละก็วิชาฟิสิกส์ยกตัวอย่างง่ายๆ เรืองนึงคือ เรื่อง อะไรซักอย่างเกี่ยวกับ สมการการถดถอยของเวลาของ Einstein ที่สามารถ ยืด หรือ ย้องเวลาได้ ถ้าเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร็วเข้าใกล้เเสง ซึงผมคิดว่าต่อให้ผมโตขึ้นจนอายุ 70 80 ก็ไม่ได้ใช้ ต่างกับปี 2 โดยสิ้นเชิง ถึงเเม้จะเรียนหนักมาก เเต่ผมก็มีความสุขครับ ผมคิดว่าผมรักชีวิตปี 2 เป็นต้นไป อย่างเเน่นอน ทุกวันนี้ผมอยู่หอครับ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็เลยเริ่มอ่านหนังสือ ไปอ่านที่ห้องอ่านหนังสือ หอพักของผม ที่ชั้น 11 จะมีห้องให้อ่านหนังสือ ห้องคอม มีห้องสมุดประจำหอ (เเต่ยังไม่มีสมุดมาวางเลย 555+ ) มีห้อง ฟิตเนต (เเต่ยังไม่มีเครื่องเล่นมาวางเลยเช่นกัน พอดีพึ่งสร้างหอเสร็จปีเเรก ) มีลานโล่งไว้ทำกิจกรรมที่ชั้น 11

                                     ส่วนหนึ่งของห้องอ่านหนังสือครับ

                              เงียบด้วย แอร์เย็นดี ประหยัดไฟห้องตัวเอง

                                            Anatomical snuff box


          ครับ เเละก็มาถึงเรื่องที่ผม อยากจะเล่า เเละก็ภูมิใจที่จะเล่าให้ทุกๆคน ได้รับฟัง ...
วันนี้ก็เป็นวันจันทร์นะครับในตารางสอนวันนี้เรียนเลิกเที่ยง เพราะตรงกับ SDL ซึ่งนานๆ จะเจอซักที (อย่างที่เคยบอกไปว่าตารางสอนของผมมันเป็นรายปี มันไม่ใช่รายสัปดาห์ เลยไม่มีวันไหนเรียนเหมือนกัน) วันนี้ตอนเช้าก็ตื่นนอนปกตินั่นเเหละครับ คือ ตื่น 7 โมงเช้า เเล้วก็อาบน้ำ ทายาสิว ออกไปอุ่นข้าว Ezy Go ในตู้เย็นกิน นั่งดูเรื่องเล่าเช้านี้ เเละก็เก็บของลงไปขึ้นรถตู้ ซึ่งจะพาผมและเพื่อนผู้ชายในคณะกว่า 150 คน ไปส่งที่ รพ ครับ วันนี้ก็ไปเรียนทันครับ ไปไม่ค่อยสายสักเท่าไร ไปถึงก็ 8 โมง 3 นาที เเละก็เข้าไปเรียน Physiology เรื่อง smooth muscle ซึ่ง รศ ดร นพ .... ท่านเป็นคนสอน หลังจากนั้นคาบต่อไปก็เป็นวิชา GrossAnatomy ก็นั่งฟัง talk lab วันนี้เรียนเรื่อง ทุกอย่างบนมือครับ ผ่าบริเวณฝ่ามือ หลังจากนั้นก็ไปเรียนที่ตึกกรอส ก็เรื่อยๆครับ ผ่าไปมันไป สนุกดี ได้ความรู้ด้วย หลังจากนั้นก็ทำเสร็จ เวลาประมาณ บ่าย 2 กว่า (ทำเลยเวลามา 2 ชม กว่า) เเล้วผมก็ลงมาจากห้องครับ เเยกย้ายกับเพื่อน กะว่าจะไปกดตัง เเละก็กลับหอ ระหว่างนั้น ผมก็เจอลุงคนนึงเเก่ ๆ คนนึง เดินผ่านตำรวจ เเละก็ข้ามถนนมา ผมก็เอ้ ลุงเข้าจะไปไหน ทีเเรกผมเห็นลุงเค้าคุยกับ ตำรวจ เเละก็ดูงง งง หลังจากนั้นลุงเค้าก็เดินเข้าตึกกรอส ไป ผมก็เเอบเดินตามเข้าไป ห่างๆ ทำทีไปเดินดู museum ผมเห็นลุงเค้าคุยกับ จนท เเปบเดียว ก็เดินออกจากห้องไป ดูเเปบเดียวก็รู้ทันทีว่าลุงน่าจะไม่ใช่คน กรุงเทพครับ ดูจากการพูดที่ดู เกรงใจ บ้านนอก ๆ กับการเเต่งตัว ที่ดู เรียบร้อย เเต่ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ หลังจากที่ลุงเดินออกไปนั้น ผมก็เเอบเดินตามลุงเค้าไปครับ ลุกเค้าก็เดินไปเรื่อย ๆ จนจะถึงท่าน้ำอยู่เเล้วครับท่าน ดู งง งง สับสน มากจังหวะนั้น taxi ขับตัดหน้าลุงเค้าพอดี ผมเลยได้จังหวะเข้าไปบอกว่า "ลุงระวังนะครับ" เเล้วก็ถามว่า "ลุงจะไปไหนเนี่ย" ลุงเค้าก็บอกว่า "อ่อ จะไปขึ้นรถ ผ่านสถานี รถไฟ" ผมก็เลยบอกว่าเด๋วผมพาไป เเละเราก็เดินไปด้วยกัน ผมถามลุงเค้าว่า "ลุงมาทำอารายยยย ที่ รพ หรอ" ลุงบอกว่า "อ่อ ลุงมาทำบัตรใหม่ บัตรบริจาคร่างกาย เก่าของลุงลุงทำหาย" เเล้วเราก็เดินต่อไปกันเรื่อยๆ "เเล้วลุงได้บัตรใหม่รึปล่าวครับ" ลุงบอกว่า " ลุงไม่ได้เอารูปมา รูปเก่าที่มีอยู่ลืมไว้ที่บ้าน ไม่เป็นไร เด๋ววันหลังลุงมาใหม่" ผมถามกลับไปว่า "ลุงครับ บ้านลุงอยู่ที่ไหนหรอครับ" ลุงบอกผมว่า "อยู่ กาญจนบุรี" ผมถึงกับอึ้ง ว่าลุงเเกจะกลับบ้านเพราะลืมรูปเเล้ววันหลังค่อยมาใหม่ ผมก็เลยบอกลุงว่า "เด๋วผมพาไปถ่ายรูปใหม่นะครับ เเถว ๆ ข้าง รพ เนี่ย มีร้านถ่ายรูป" ลุงเเกก็ดูลังเล ทีเเรกก็ไม่ค่อยอยากไป บอกว่า "เด๋ว ลุงมาใหม่วันหลัง" แต่ผมก็โน้มน้าวเต็มที เเล้วลุงก็เดินย้อนกลับไปกับผม ผมก็สังเกตว่า ลุงเเกดูกังวล ๆ  เดินไปซักพัก ผมก็เลยถามว่า "เเล้วรูปมีอยู่เเต่ไม่ได้เอามาหรอครับ" ลุงก็บอกว่า "ใช่ อยู่ที่บ้าน ลุงลืมเอามา" ผมสังเกตว่าลุงเเกดูกังวลใจ เสียดายเพราะรูปเดิมมีอยู่เเล้ว รึปล่าว อาไรประมาณนี้ ผมก็ไม่ค่อย เข้าใจเท่าไร สุดท้าย ผมก็เลยบอกลุงไปว่า "รึ ลุงจะใช้รูปเก่า" ลุงเเกก็ตัดสินใจหันหลังเเละก็เดินจับเเขนผมกลับไปขึ้นรถอย่างเดิม ดูลักษณะสบายใจ ขึ้น เดินไป ก็ถามลุงไปว่าเเล้วลุงไม่เหนื่อยหรอครับ ถ้าลุงมาใหม่ทีหลัง ลุงบอกว่า "ไม่หรอก ในหลวงท่านเหนื่อยกว่าลุงมากมาย อยู่ รพ นี้ ลุงบอกว่า ลุงอายุ 84 เเล้ว ผมก็อึ้งอีก" เป็นครั้งที่ 2 ไม่น่าเชื่อ เพราะยังเดินได้คล่องเเคล่ว กระฉับกระเฉง มีเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ ดูชรามากก็คือ ดวงตา ที่ จะใส แบบ แปลกๆ เหมือนเป็นต้อ รึ ยังไงก็บอกไม่ถูก ผมก็เลยต้องเปลี่ยนมาเรียกคุณตาแทน คุณตาเเกบอกว่า เมื่อก่อนเคยทำงานอยู่ที่ กระทรวงกลาโหม เลยพอจะรู้ เส้นทาง เเต่ลาออกมาทำ ไร ทำสวน อยู่กาญจนบุรี นานเเล้ว 40 กว่าปีเเล้วผมก็ถามไปว่า "ตาจะกลับเลยหรอครับ" คุณตาบอกว่า โอ้ ยังหนู คืนนี้จะไปนอนที่ตลาด ไหน ซักแห่งเนี่ยเเหละ ผมจำไม่ได้ เเล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับบ้าน คุณตาบอกว่า คุณตาอยากบริจาคร่างกายทั้งหมด หลังจากตายไปเเล้ว อาไรที่เป็นประโยชน์ เเล้วตาทำได้ ตาก็อยากจะทำ ตายไปเฉย ๆ มันก็จบ เเต่ถ้าตายไปเเล้ว ได้สร้างความรู้นั้น อย่างน้อยศพที่ดูไร้ค่า ก็จะสามารถสร้างประโยชน์ ให้กับ สังคมได้ เพราะผมคิดว่า คุณตา จะสื่อว่า 1 ศพ อาจจะช่วยเหลือคนได้อีกนับพัน ผมน้ำตาแทบตก รู้สึกซึ้งใจในคำพูดคุณตามาก เเล้วผมก็ส่งคุณตา ขึ้นรถ จริงๆ เเล้ว ผมน่าจะถามชื่อคุณตาซักหน่อยก็ยังดี รึไม่ก็น่าจะให้เบอร์ โทรศัพท์ผมไว้ ครั้งหน้ามา หากมีปัญหา ผมจะได้ช่วยเหลือคุณตาได้ เเต่ ณ เวลานั้น ผมก็คิดไม่ได้ เสียดายจัง .........................

           ถึงเเม้ว่าคุณตาเค้าจะมาคนเดียว ไม่มีลูกหลานพามาด้วย จะอาชีพอะไร จะยากดีมีจนสักเเค่ไหน เเต่เค้าก็มีจิตใจที่สูงมาก ที่ได้ตั้งใจมาบริจาคร่างกายเพื่อเป็นวิทยาทาน ให้เเก่ นศพ ผมคิดว่า นศพ อย่างพวกผม อย่างเราๆ ก็ควรใช้ความรู้ที่ได้รับนี้ให้คุ้มค่า และก็หาโอกาส ตอบเเทนบุญคุณของ สังคมบ้าง ผมเชื่อว่า ร่างแต่ละร่างที่พวกเราใช้ศึกษานั้น ท่านจะจากไปอย่างมีความสุข แน่นอน

ลานโล่งงงงงงงงงง ชั้น 11

           ครับ วันนี้ทีเเรก ผมไม่ได้กะจะเขียนซักเท่าไรเพราะว่ากะจะพักผ่อนซักหน่อย เเต่เรื่องราวดีๆ ที่ผมได้พบเจอมาในวันนี้ ผมไม่เขียนไม่ได้ครับ ก็หากยืดยาวไปหน่อยก็ขออภัยด้วยนะครับ

          และหากครั้งหน้ามีโอกาส ก็ขอให้ผมได้พบคุณตาท่านนี้อีกครับ ผมรู้สึกว่า เเค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ได้พูดคุย มันได้อะไรมากมายเลยครับ มากเสียกว่าเรียน Humanistic Medicine ซะอีกครับ 555+ บะบาย เจอกับฉบับหน้าครับ

หมายเลขบันทึก: 368329เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2010 17:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

ขนลุกเลยอะ

คุณตาคนนั้นเป็นคนที่มีจิตใจสูงส่งมาก

อ่านแล้วน้ำตาจะไหล ซึ้งง

รู้สึกเหมือนเป็นคนดีขึ้นมาเลยทีเดียว

เขียนดีขึ้นนะเนี่ย

แหม่ ซึ้งเลย

ขอให้โชคดีครับคุณตา

ซาบซึ้งใจจริงๆๆๆ ขอให้ลุงอายุยืนและมีความสุขขขข

คุณตาสุดยอด

เจ๋งว่ะ

มีน้ำจาย มากก

อ่านแล้วนะครับ เก็บความรู้สึกดีๆเหล่านี้ไว้นะครับ มันมีค่ามากๆ เวลาที่เราเหนื่อยและท้อกับการทำงานในวิชาชีพนี้ :)

ซึ้งคุณตาว่ะ

อย่างงี้ต้องตั้งใจเรียน gross - -''

อ่านแล้วรู้สึกดีจังเลย

ขอบคุณนะ ^_________^

สุดยอดจริงๆ

อ่านแล้วอยากตั้งใจเรียนมากๆ

อีกมุมหนึ่งของชีวิตแกสิน้า^^

เจอเรื่องดีๆก็ทำให้มีกำลังใจในการเรียนเพิ่มขึ้นเยอะเลย

ชื่นชอบการเขียนของพี่มากค่ะ

พี่เขียนได้ดี ถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดยอดมากค่ะ

หนูอ่านแล้วน้ำตาคลอ

แล้วหนูจะติดตามพี่ต่อไปค่ะ

พี่นายครับ

มีแนวทางให้ผมบ้างไหมครับ

ผมว่าจะซิ่วไปสอบแพทย์อ่ะครับ

อืมๆ จริงจัง

แกว่าดีป่ะ เพราะมันต้องลาออกจากที่เรียนเก่าวะ

เสียเวลา 2 ปี ถ้าติด ก็ดี ถ้าไม่ติดก็

.....เครียด

ต้องลองทำโจทย์ดู ทำจนกว่าจะคิดว่าพร้อมอ่ะ เเล้วลองเทียบคะเเนนอ่ะ เอาซัก anet 49 50 51 52 ที่ไว้มาเทียบคะเเนน กสพท อ่ะ เเล้วเลือกไว้ 4 อันดับ ความคิดเราถ้าอยากเป็นหมอจริงๆ เเค่เกิน อันดับ 3 ก็ โอเคเเล้วหละ เเล้ว มันจะได้อาไรก็ค่อยไปลุ้นเอา เเต่ควรจะทำ 15 พศ ให้เยอะ ๆ อ่ะ ส่วนเรื่องต้องลาออกก่นนั้นนี่ อันนี้ไม่ขอออกความเห็น เพราะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของเเกด้วยละ เเต่ยังไงก็ ชีวิตนี้ มีหนเดียว เราคิดว่า จับจ้องที่จุดหมายดีกว่า ไม่ใช่ที่อุปสรรค สู้ ๆนะ

ตายไปเฉย ๆ มันก็จบ เเต่ถ้าตายไปเเล้ว ได้สร้างความรู้นั้น อย่างน้อยศพที่ดูไร้ค่า ก็จะสามารถสร้างประโยชน์ ให้กับ สังคมได้

ชอบจัง อ่านแล้วรู้สึกดี^^~

มีคนดีในสังคมอยู่บ้าง

สู้ๆนะพี่นาย ประทับใจจาง

ประทับใจมาก คนเราสูงต่ำวัดที่จิตใจ^^

ตั้งใจเรียนนะสู้ๆ ดีใจมากที่ประเทศเราจะมีแพทย์ที่ดีอย่างนาย

จะรอคอยนายแพทย์ที่มีจิตใจงามอย่างน้องน่ะจ๋ะ พยายามเรียนน่ะ...เพราะต่อไปน้องจะต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันตราบนานเท่านาน พี่เอาใจช่วยค่ะ

เกือบร้องไห้อ่ะ นาย

ซึ้งจริงๆ... คุณตา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท