ดูลูกไว้ให้ดี ก่อนที่จะสายเกินไป


ยาบ้า ภัยที่กลับมาใหม่

      เมื่อพูดถึงยาบ้า หลายท่านคงคิดว่าเป็นสิ่งที่ไกลตัว เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมายไม่ใช่เรื่องที่จะไปเอามาใช้ได้ง่าย ๆ แต่ถ้าใครมีลูกโดยเฉพาะวัยรุ่น ผมมีข้อมูลที่มานำเสนอ จากการที่ผมไปอบรมด้านยาเสพติดมา และได้ไปสัมผัสกับชีวิตผู้ที่ติดยาและได้พูดคุยพบว่า ยาเสพติดอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ถ้าไม่ระวังให้ดี เราอาจได้เป็นพ่อแม่ที่มีลูกติดยาโดยไม่รู้ตัว โดยยาบ้าจะถูกผลิตและส่งเข้ามาทางจังหวัดชายแดน และที่มีการลักลอบนำเข้ามามากที่สุดได้แก่ ทางชายแดนจังหวัด เชียงใหม่  เชียงราย และแม่ฮ่องสอน โดยประเทศไทยถือว่าเป็นลูกค้าชั้นดีมาก เมื่อผ่านเข้ามา ยิ่งเข้ามาได้ไกลเท่าไหร่ ราคาก็จะแพงขึ้น แพงขึ้นมาจากเม็ดไม่กี่บาทกลายเป็นเม็ดละ 300-400 บาท ส่วนเด็ก ๆ เข้าไปเกี่ยวข้องได้อย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะมาจากกลุ่มเพื่อน ๆ โดยเฉพาะลูกใครที่ออกไปพักตามหอพัก ทำให้ไม่สามารถติดตามดูแลได้ใกล้ชิด ส่วนใหญ่เด็กหอพักก็จะมีการพบปะรวมกลุ่มเล่น พูดคุย มีกลุ่มเพื่อนไปมาหาสู่กัน ตรงนี้เป็นจุดที่สำคัญมากเพราะถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งใช้ยาบ้าแล้ว ก็จะมีการชักชวนให้คนอื่นๆ ลองเสพ ช่วงแรก ๆ ก็เสพฟรี ใช้ฟรี ต่อมาเมื่อติดก็จะให้ซื้อ ต่อมาเมื่อติดมาก ๆ หาเงินซื้อไม่ไหว ก็จะต้องเป็นผู้ขายโดยการได้เปอร์เซ็นต์ จากการขายเปลี่ยนเป็นยาเพื่อเสพ จะขายให้ใครก็ขายให้คนที่รู้จักซึ่งนั่นก็คือเพื่อนที่ตนเองรู้จักต่อไปเรื่อย ๆ โดยเริ่มให้ลองใช้ก่อนฟรี เป็นอย่างนี้ต่อ ๆ ไป ถามว่าแล้วตรงไหนที่มียาบ้าขาย หรือระบาด คำตอบมาก็คือ มีทุกที่ที่เป็นแหล่งสถานศึกษาที่มีคนมาอยู่รวมกันมาก ๆ เช่น หอพักในแหล่งสถานศึกษา เช่น มหาวิทยาลัย  ทั้งของเอกชน ของรัฐหรือ โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัด อำเภอ โดยเครือข่ายจะรู้กันเอง ทำนองผีเห็นผี ส่วนจะสังเกตอย่างไรส่วนใหญ่เมื่อมีการเสพยาบ้า 1-2 วัน จะมีอาการของร่างกายเกิดการตื่นตัว ไม่หลับไม่นอน ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าปกติ ทั้งกลางวันกลางคืน ถ้าไม่สังเกตให้ดีก็จะคิดว่าเป็นคนขยัน หลังจากนั้น 2-3 วันถ้าไม่หลับไม่นอนก็จะมีอาการประสาทหลอน มีหูแว่ว ภาพหลอนตามมาช่วงนี้เด็กเหล่านี้ก็จะเก็บตัวเงียบ ๆ เนื่องจากกลัวเพราะบางครั้งก็ได้ยินหูแว่วเป็นเสียงคนมาขู่ เด็กก็จะกลัวระแวงคิดว่าตำรวจจะมาจับ  เมือหมดฤทธิ์ยาก็จะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และก็จะกลับไปเสพอีกเนื่องจากเมื่อเสพแล้วจะรู้สึกพึงพอใจ เพราะจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีความสุข การจะทราบว่าลูกติดยาหรือไม่ มาจากการสังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากกว่าปกติ  ใช้เงินเปลืองว่าปกติ ถ้ามีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงดังกล่าวการถามลูกด้วยความรัก ความห่วงใย มีท่าทีที่เข้าอก เข้าใจอาจทำให้ลูกบอกปัญหาแก่เราได้  และให้การช่วยเหลือต่อไป

ครอบครัว

(ภาพจาก internet)

หมายเลขบันทึก: 365132เขียนเมื่อ 8 มิถุนายน 2010 22:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 10:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะคุณชำนาญ

แวะมาเยี่ยมและเป็นกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดีครับคุณยาย

ยินดีและขอบคุณครับที่แวะเวียนมาเยี่ยมให้กำลังใจ ยินดีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท