อ้อมแอ้ม
นางสาว จิรดา อ้อมแอ้ม โพธิ์หิรัญ

การดำรงชีวิตในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ


วันนี้ดิฉันมีเรื่องมาฝากที่เข้ากับในยุคภาวะเศรษฐกิจตกต่ำว่าจะดำรงชีวิตอย่างไร?  จึงขอยกคำกล่าวของ พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพมหานคร โดยท่านได้นำเสนอ การดำรงชีวิตในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำดังนี้

-   เรียนรู้      คือ ต้องเรียนรู้สภาวการณ์ สถานการณ์ของบ้านเมืองให้รู้อย่างถ่องแท้ว่าอะไร เป็นอะไร เสียก่อน คือไม่มีอะไรเป็นไปตามที่คาดฝัน เกิดปัญหาต่อสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ บ้านจัดสรรขายไม่ออก ดอกเบี้ยไม่บาน โรงงานปิด ชาวบ้านไม่ได้ราคาสินค้าผลผลิต พระไม่มีกิจนิมนต์ คนจบการศึกษาใหม่ไม่มีงาน รัฐบาลไม่มีภาษีพัฒนาประเทศชาติ ทั้ง 9 ข้อนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ “ก้าวหลัง” ไม่ใช่ “ก้าวหน้า” ซึ่งทุกคนควรใคร่ครวญพิจารณาในแต่ละประเด็น ก็จะเห็นชัดเจน เรียกว่า “เดือดร้อนกันทั่วหน้า” จากการเดือดร้อนทั่วหน้า ก็เข้าสู่ “เดือดร้อนกันทั่วหล้า” นี่คือ...ความจริงวันนี้...

-  รับรู้      คือ ต้องรับรู้วิธีการดำรงชีวิต “ให้ได้” ไม่ใช่ “ต้องได้” คิดเสียว่า...พอเป็นพอไป...แล้วร่วมกันรับรู้ รับทำ คือ ยอมรับความเป็นจริง ทิ้งความเคยชิน อยู่กินอย่างประหยัด หัดเลี้ยง หัดปลูก ทำความเข้าใจกับลูกหลาน อย่าเกี่ยงงาน บริหารทรัพย์สินด้วยบัญชีครัวเรือน เรื่อง “ยอมรับความจริง” นั้น ทุกคนต้องยอมรับ วิธีการยอมรับความจริงก็ขึ้นอยู่กับคาถาที่จะพึงท่องบ่นภาวนา ดังนี้
                                                มันไม่มีใครดีไปกว่าใคร มันก็พอๆกันนั่นแหละ...
                                อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด เป็นอะไรก็เป็นกัน...และ เรื่องเท่านี้ สีทนได้

-  ยิ้มสู้       ยามนี้ต้อง...ลบรอยย่นระหว่างคิ้ว ด้วยการสร้างรอยพลิ้วเหนือริมฝีปาก คือต้องยิ้มเพื่อลบรอยย่น “รอยทุกข์กระจุกอยู่ที่หัวคิ้ว รอยสุขพลิ้วที่ริมฝีปาก” ลองยิ้มดูสัก 5 วินาที ก็จะพบว่าสุขเกิดขึ้นทันที ทุกอย่างมันอยู่ที่ว่าจะ “ยิ้มสู้” หรือไม่เท่านั้นเรื่องยิ้มสู้นี้ไม่ใช่ใครสอนเราหรอก แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สอนเราให้ยิ้มสู้ ซึ่งก็ควรไปซื้อเพลงพระราชนิพนธ์ชุดที่มีสุเทพ วงศ์กำแหง, ธานินทร์ อินทรเทพ ฯลฯ มาฟัง แล้วก็ขอให้ฟังเพลงยิ้มสู้หลายๆเที่ยว จะได้สัมผัสปรัชญาขององค์ราชันย์ว่า ยิ้มสู้นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นปรัชญาธรรมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้พสกนิกรไทย ดังนั้น ถ้าทุกท่าน ยิ้มให้โลก ยิ้มให้ลูก ยิ้มให้ตัว ยิ้มให้เมีย ยิ้มให้ผัว ยิ้มแล้วจะชื่นหัวใจ ต่อจากนั้นก็ต้องยิ้มๆๆให้เป็นอุปนิสัย คือ ยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มให้เพื่อนร่วมงาน ยิ้มต้อนรับผู้ใช้บริการ ยิ้มแย้มให้คนในบ้าน ยิ้มหวานๆให้คนในเมืองไทย ยิ้มให้กำลังใจแก่คนทั้งโลก

-  อยู่อย่างมีความหวัง     นี่เกิดจากปรัชญาธรรมในเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เพลงชะตาชีวิต เพลงนี้ถ้าผู้ใดได้ฟังแล้วจะรู้ว่า การ...ไม่ท้อต่อชีวิต ไม่คิดฆ่าตัวตาย ไม่หงอยเหงา ไม่เศร้าสร้อย ไม่คอยโชคชะตา ไม่รอเทวดามาช่วย...แล้วพึ่งพาตน ถึงขาดบิดา ขาดญาติทางบิดา แต่ก็มีมารดาเป็นแสงจันทร์ คำพูดที่สำคัญคือ อยากจะขอร้องมายังท่านทั้งหลายว่า...

อย่าจิตใจฝ่อ อย่าท้อต่อชีวิต    อย่าคิดฆ่าตัวตาย    อย่าขายยาเสพติด

อย่าแก้เศรษฐกิจด้วยการพนัน    อย่าเย้ยหยันคนอื่น.

คำสำคัญ (Tags): #บุรีรัมย์6
หมายเลขบันทึก: 363970เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2010 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 03:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อืม จะลองเอาไปใช้ดูนะ เป็นบทความที่ดี เหมาะกับสภาวะทางการเงินของพี่ตอนนี้ดีจริงๆ

ขอบคุณหลายๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท