KRUJOY (ครูจ่อย)
นาย ทรงศักดิ์ เสือ ภูเก้าแก้ว

กลอนรักครูจ่อย


ด้วยรักและผูกพัน

 

 

 

         กลอนรักครจ่อย

     

    ที่สิบสี่ เดือนกุมภา ปีห้าสอง
ฉันได้ลอง แต่งกลอนรัก ดูสักหน
เพื่อบรรยาย ความรัก ที่มากล้น
ให้กับคน ที่รักใคร่ ใจผูกพัน

     ด้วยเพราะรัก จึงขอร้อย เป็นทำนอง
บทร้อยกรอง  เกือบครึ่งร้อย  คอ่ยสร้างสรรค์
เนรมิต กลอนรัก อัศจรรย์
เป็นนิรันดร์ ตรึงไว้ ในดวงใจ

   คำคำแรก อยากบอกเธอ เป็นคำว่า
ตัวที่สาม สิบห้า มีความหมาย
อันสระ ตัวที่สอง บอกมากมาย
ไม่งมงาย อีกอักษร  อ้อนอนงค์

   คำข้างต้น รวมกัน ประสานจิต
เนรมิต ถ้อยคำ ถึงนางหงส์
คือคำนี้ คำว่า‘รัก’ ที่มั่นคง
ที่ดำรง สถิตย์ใน ใจเรื่อยมา

   ชีวานี้ หมายเคียงรัก เธอซักหน
ฉันอดทน เก็บความรัก ไว้หรรษา
รอเวลา ที่เหมาะสม ลั่นวาจา
เป็นคำว่า ฉันรักเธอ ก้องฟ้าดิน

   หากเนิ่นนาน ฉันจร ไร้จุดหมาย
ที่มากมาย ท่องผ่านให้  ใจถวิล
จนพบเธอ ก็ดุจ พบแคว้นถิ่น
ก็ตัดสิน ทอดกาย สายพิรุณ

    หากความรัก คือการค้า หากำไร
ฉันมีใจ เต็มรัก  คอยเกื้อหนุน
ขอให้เธอ ช่วยส่งเสริม รักขาดดุลย์
ช่วยต่อทุน หัวใจ เอากำไร

     แต่ความจริง ความรัก ใช่การค้า
ที่จะหา กำไร จากใจได้
แต่เป็นรัก ที่มั่นคง ตรงหัวใจ
ไร้กำไร ไม่ขาดทุน เสมอตัว

    หากเธอถาม ว่าฉันรัก ที่เหตุใด
ถ้าบอกไป ไร้เหตุผล ก็ไม่ชัวร์
แต่หากบอก ตามตรง ไม่เล่นตัว
ว่าฉันชัวร์ ฉันรักเธอ และรักจริง

     ขออภัย ที่อ่อนหัด เรื่องความรัก
ไม่รู้หลัก การจีบ ถึงพริกขิง
เพราะไร้คู่ มาก่อน สาบานจริง
ฉันโสดซิง รักหมดใจ หมายเธอครอง

    อันผู้ชาย ปกติ ย่อมเจ้าชู้
ย่อมจะรู้ มีบ้านน้อย มากกว่าสอง
แต่ฉันไม่ ฉันรักจริง เป็นครรลอง
เรื่องคู่ครอง ฉันรักเดียว ลั่นวาจา

    แม้นมิได้ องอาจดุจ พญาหงส์
ก็ขอคง เป็นระกา ผู้หรรษา
แม้นมิได้ เป็นสาคร เป็นคงคา
แค่คุณค่า เป็นธารใส ที่ไหลเย็น

    แม้นมิได้ รวยล้นฟ้า เป็นเศรษฐี
ก็ยังมี ไม่อับจน ไม่ยากเข็น
แม้นมิได้ หล่อดุจเทพ คืนวันเพ็ญ
ก็ยังเป็น นรชาติ ผู้รักเธอ

    ในวันนี้ เธออาจไม่ คิดรักฉัน
ในวันนี้ ฉันอาจเป็น แค่เพื่อนเกลอ
ในวันนี้ ไม่มีฉัน ในใจเธอ
วันนี้เธอ อาจคิดถึง ใครอีกคน

     อาจเสียใจ ที่เธอ ไม่คิดรัก
คงเศร้านัก คงขมขื่น ดุจยาขม
นักกวี ไร้รัก ไร้อารมณ์
ย่อมไม่สม เขียนวลี บันเทิงใจ

   แต่หนึ่งเดียว ในตอนนี้ ที่ฉันรู้
เธอไม่รู้ ว่าวันนี้ เธออาศัย
อยู่ข้างใน ตัวฉัน ในหัวใจ
อยู่ข้างใน ใจฉัน ตลอดมา

   อยากบอกเธอ กระซิบ ผ่านดวงจิต
เนรมิต ถ้อยคำ สุดหรรษา
ดุจจะเป็น ประกาสิทธ์ แห่งวาจา
เป็นคำว่า ฉันรักเธอ ก้องโลกา

    ฉันสาบาน ต่อฟากฟ้า เมืองสวรรค์
ในวันนี้ มีเธอ จะรักษา
จะกู่ก้อง สาบาน สุดพนา
เป็นคำว่า รักเธอ ที่มั่นคง
  

   ฝากบอกฟ้า เป็นคำ ที่เสกสรร
อัศจรรย์ บอกผืนดิน ผู้ยืนยง
เอ่ยต่อผา คีรี ผู้มั่นคง
เอ่ยต่อผง ธุลี ในวาโย

    กระซิบคำ บอกธาตุ ทั้งภูมิภพ                                                            
         ผู้เจนจบ ทั้งหลาย ผู้ยโส
ผู้สถิต ดำรง ในอาโป
ทั้งวาโย คีรี บูรพา

    รุกข เทวดา ท่านทั้งหลาย
เทพมากมาย ช่วยส่งเสียง ที่หรรษา
ช่วยอวยพร ส่งเสริม ลั่นวาจา
ให้ชายชาติ ได้สมหวัง ดั่งตั้งใจ

   ในวันนี้ คนรักจริง ยิ่งมีน้อย
ไม่สำออย ดัดจริต หรือแหลได้
แค่จะบอก ว่ารักจริง ยิ่งสิ่งใด
พูดจากใจ ไม่ตอแหล ผิดวิสัย

     ไม่รักจริง มีหรือจะ เขียนกวี
เป็นวลี ร้อยบท แฝงความนัยน์
ที่อดทน กลั่นกลอง จากหัวใจ
ส่งให้ไป ถึงใจ ของน้องนาง

รักเธอ แสนสุด ทั้งฤทัย
ในหัวใจ ไม่อยาก จะเหินห่าง
หวังว่า รักนี้คง ไม่อับปาง
ใจอ้าวว้าง เปล่าเปลี่ยว เมื่อไร้เธอ

     เดินทางไป ใกล้กัน แค่ข้ามรั้ว
แต่ใจกลัว ว่าทุกสิ่ง แค่ฝันเพ้อ
แค่หวังว่า จะไป ให้พบเจอ
แต่กลัวเธอ สะบัดรัก แหลกชีวี

     ยิ่งรัก ก็ยิ่งกลัว ว่าอกหัก
แม้รักนัก ก็หวาดกลัว เป็นทวี
อันตัวข้า ก็ได้แต่ เขียวกวี
เป็นวลี ระบาย ที่รักเธอ

     ก็รู้อยู่ ว่าข้าได้ หลงรัก
ข้าประจัก ว่ารักเจ้า ดุจคนเพ้อ
แม้ตาบอด ก็จำยอม เพราะรักเธอ
แค่ละเมอ ก็รักเจ้า แม้นิทรา

    ข้าปลูกรัก ไว้ในใจ ไว้ค่อยเจ้า
หวังให้เรา ได้เคียงรัก แสนหรรษา
ปลูกรักดุจ พฤกษชาติ ดาษนานา
ดุจมัจฉา ที่ย่อมคู่ กับสาคร

   ดวงตะวัน แม้ลับ ลาขอบฟ้า
แต่ใจข้า นั้นยัง ไม่จากจร
ยังคงรัก ถวิลเจ้า ยังอาวรณ์
อุทาหรณ์ ว่ารักข้า มิเสื่อมคลาย

     อนุบาล ยันป.4 ที่รักร้าว
เป็นเรื่องราว ความรัก ที่สลาย
เมื่อพบเธอ ก็ขอรักจนตัวตาย
รักสลาย ก็ขอตาย มลายทั้งกายา

    ชีวีข้า ไม่เคยเคียง ซึ่งหญิงใด
เมื่อข้าได้ พบเจ้า แสนหรรษา
ทั้งนิสัย ดวงหน้า กริยา
ถูกใจข้า จนฝันเพ้อ ละเมอหา

    ขอเรียงรัก ร่ายร้อย เป็นบทกลอน
 ที่ครูสอน ฉันทลักษณ์ ที่เรียนมา
เอามาเขียน เป็นกวี แสนหรรษา
เป็นอันว่า ข้ารักเจ้า เป็นครรลอง

    อันความรัก ที่ส่งให้ จากหัวใจ
นั้นยิ่งใหญ่ มากมาย ไม่เป็นสอง
จึงอยากเอ่ย ออกมา เป็นทำนอง
เป็นครรลอง ความรัก คู่กวี


    นรชาติ แม้ชีวี จะวางวาย
กายมลาย สิ้นแล้ว ทั้งอินทรีย์
ก็ยังคง ความรัก ที่ภักดี
สถิตที่ ในใจ ตลอดมา

    ข้าขอเว้า ต่ออาทิตย์ ที่เคียงจันทร์
เว้าต่อวัน ดีดี ที่หรรษา
เว้าต่อปลา ที่ย่อมคู่ กับคงคา
เว้าต่อฟ้า ยามราตรี สถิตดาว

    ได้โปรดเถิด บอกเล่า กันสักนิด
เล่าชีวิต ของท่าน เป็นเรื่องราว
เล่าชีวิต ที่คู่กัน สุดสกาว
ที่ดูแวว วาววับ ประทับใจ

    เป็นตัวอย่าง ครรลอง ให้ลองรัก
ให้ประจัก ซึ่งความรัก สุดสดใส
เป็นตำนาน ความรัก ประทับใจ
ที่ทำให้ ตัวข้า ได้รักเป็น

    และแล้วข้า ก็ได้ มาพบเจ้า
ใจที่เฉา ก็ฟื้นคืน ทันตาเห็น
เมื่อพบเจ้า ตัวข้า ก็รักเป็น
แม้ยากเข็น ก็จะลอง ฝากรักไป

     เธอคือหนึ่ง ในใจที่ ถวิลหา
คำพูดจา ไม่ถูกใจ จะแก้ไข
ไม่พอใจ ในตัวฉัน สิ่งใดใด
ก็ขอให้ บอกมา จะเปลี่ยนแปลง

    อยากจะบอก ว่าแรงเห็น เป็นต้องรัก
ถูกใจนัก ดุจเทพ ยิงศรแผลง
คมศรเทพ พุ่งมา แล้วปักแทง
เข้าสู่แหล่ง ความรัก ที่กลางใจ

     เมื่อนั้น ก็รักเธอ ทั้งห้วงคิด
ทุกดวงจิต มีเธอ เป็นสายใย
เหมือนมนตรา สถิตรัก ในหัวใจ
อาลัยรัก ทุกครั้ง ไม่เห็นเธอ

     อาวรณ์ คิดถึง และห่วงหา
แสนหรรษา หลับฝัน ละเมอเพ้อ
หายใจเข้า หรือออก ยังเป็นเธอ
สุดละเมอ เพ้อพบ คิดถึงจัง

    หากเธอคิด สงสัย ว่ามุสา
ว่าวาจา นี้หรือ จะจีรัง
ฉันยินดี เดิมพัน ด้วยชีวัง
ว่าหมดทั้ง ชีวิน มีรักเดียว

     วันนี้มอง ผืนป่า พนาหล้า
เห็นสัตว์ป่า ท่องรัก กลางทุกเขียว
คิดถึงเธอ จึงเห็นว่า ดีทีเดียว
จึงอยากเกี่ยว ก้อยรัก สานสัมพันธ์

     ความรักฉัน นั้นหรือ ยิ่งใหญ่ได้
ก็อยากให้ เป็นตำนาน สืบนิรันดร์
คู่ผืนป่า กู่ก้อง ในจรัล
คู่ในวัน ดีดี ที่เธอเคียง

      คำคำนี้ อยากบอกเธอ ว่ารักนะ
ถึงใครจะ ว่าโกหก ก็ขอเถียง
ว่าความรัก ของฉัน หมายร้อยเรียง
ออกเป็นเสียง คำกลอน วอนกวี...

  

คำสำคัญ (Tags): #ความรัก
หมายเลขบันทึก: 356238เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2010 15:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับครูจ่อย...

แวะมาอ่านกลอนรักครับ

อ่านไปอ่านมาหิวลาบครับ (ฮิ ฮิ...)

  • ขอบคุณอีกครั้งครับท่านหนานเกียรติ
  • หิวลาบ ก็แวะมาหาครูจ่อยก่อนไปหนองคายสิครับ
  • ไม่แน่นะ...ช่วงเวลานั้นถ้ามีเวลาว่าง ครูจ่อยอาจจะได้ไปแจมด้วยก็ได้
  • อย่าลืมแวะมากินลาบกาฬสินธุ์ก่อนไปกินแหนมเนืองที่หนองคายนะครับ
  • โชคดีมีสุขตลอดไป
  • ขอบคุณครับคุณราชิต
  • ที่แวะมาเยี่ยม  มาทักทาย
  • โชคดีนะครับ

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านกลอนรัก

แต่มาเจอข้อความนี้

P
หนานเกียรติ
เมื่อ พ. 05 พฤษภาคม 2553 @ 15:41
#1984303 [ ลบ ]

สวัสดีครับครูจ่อย...

แวะมาอ่านกลอนรักครับ

อ่านไปอ่านมาหิวลาบครับ (ฮิ ฮิ...)

ฮามากกกกกกกกกกค่ะ

ขอบคุณค่ะ

  • ขอบคุณครับคุณNatcha Chalermklang
  • ที่แวะมาเยี่ยม มาทักทาย
  • ครูจ่อยเขียนกลอนยาวไปมั่ง กว่าท่านหนานเกียรติจะอ่านจบเลยหิวลาบเลย5555
  • โชคดีมีสุขนะครับ

ได้โปรดเถิด บอกเล่า กันสักนิด
เล่าชีวิต ของท่าน เป็นเรื่องราว
เล่าชีวิต ที่คู่กัน สุดสกาว
ที่ดูแวว วาววับ ประทับใจ

    เป็นตัวอย่าง ครรลอง ให้ลองรัก
ให้ประจักษ์ ซึ่งความรัก สุดสดใส
เป็นตำนาน ความรัก ประทับใจ
ที่ทำให้ ตัวข้า ได้รักเป็น

ชื่นชอบตอนที่ยกมานี้ค่ะครูจ่อย ท่านหนานเกียรติหิวลาบ ส่วนหนูหิวส้มตำ อิ อิ



  • ขอบคุณครับน้องหมูจ๋า
  • หิว (ตำบักหุ่ง)ส้มตำแถวบ้านพี่ครูจ่อยก็มีนะครับ
  • ถ้ามีโอกาสผ่านมาทางยางตลาดครูจ่อยยินดีต้อนรับ
  • จะพาไปกินทั้งลาบ ทั้งส้มตำ กินให้สุดนัวสุดแซบไปเลย
  • โชคดีนะครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท