เปลี่ยนแปลง................


จากเดิมที่เคยเห็น “วัดถ้ำเก่า” และเครือข่ายคนต้นน้ำ ภาพเดิม ๆ ก็ผ่านเข้ามา เมื่อประมาณปี 2549 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปที่วัดถ้ำเก่า ซึ่งตอนนั้นยังเป็นดินเหนียว ๆ เดินขึ้นไปไหว้พระในถ้ำ ดินยังติดรองเท้าอยู่เลย นั่งกินกาแฟกับกระบอกไม้ไผ่ นั่งคุยกันท่ามกลางบรรยากาศที่ดีมาก ๆ อากาศเย็นเพราะมันอยู่ใกล้กับเขา พี่ ๆ ผู้ชายก่อกองไฟเพื่อบรรเทาอากาศที่เย็น และก็ให้แสงสว่างด้วย และหลังจากนั้นผ่านมาประมาณ 3 ปี ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น ได้มีการพัฒนาหลาย ๆ อย่าง มีการปลูกต้นไม้, ดอกไม้โดยรอบบริเวณของถ้ำเก่า ซึ่งตอนนี้ก็เติบโตและสวยมาก ๆ

เปลี่ยนแปลง................

 

จากเดิมที่เคยเห็น “วัดถ้ำเก่า” และเครือข่ายคนต้นน้ำ ภาพเดิม ๆ ก็ผ่านเข้ามา เมื่อประมาณปี 2549 ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปที่วัดถ้ำเก่า ซึ่งตอนนั้นยังเป็นดินเหนียว ๆ เดินขึ้นไปไหว้พระในถ้ำ ดินยังติดรองเท้าอยู่เลย นั่งกินกาแฟกับกระบอกไม้ไผ่ นั่งคุยกันท่ามกลางบรรยากาศที่ดีมาก ๆ อากาศเย็นเพราะมันอยู่ใกล้กับเขา พี่ ๆ ผู้ชายก่อกองไฟเพื่อบรรเทาอากาศที่เย็น และก็ให้แสงสว่างด้วย และหลังจากนั้นผ่านมาประมาณ 3 ปี ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น ได้มีการพัฒนาหลาย ๆ อย่าง มีการปลูกต้นไม้, ดอกไม้โดยรอบบริเวณของถ้ำเก่า ซึ่งตอนนี้ก็เติบโตและสวยมาก ๆ

            

และอีกอย่างที่มีความเปลี่ยนแปลงคือ บรรดาแกนนำของเครือข่ายคนต้นน้ำ จากเดิม ๆ ที่มีไม่ค่อยกี่คนแต่วันนี้ แกนนำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่แกนนำหลัก ๆ ต้องการและก็การันตีได้อีกอย่างว่าสิ่งที่พวกเขาขายความคิดไป มันไม่ได้สูญเปล่าและกำลังเดินไปได้อย่างสวยงาม

       

ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมเครือข่าย “คนต้นน้ำ” กับพี่สายสุดาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานพื้นที่และดูแลจังหวัดพัทลุง เมื่อไปถึงก็มีแกนนำมาร่วมประชุมหลายคนจำหน้าได้ทุกคน แต่ชื่ออาจจะจำได้ไม่หมด และมีกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, รองนายก อบต., สมาชิก อบต., ผู้กำกับ, สารวัตร, นายดาบ, ผอ.โรงเรียนในพื้นที่ ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจและน่าชื่นชมที่ แกนนำของเครือข่าย “คนต้นน้ำ” สามารถไปขายความคิดที่เขาคิดและมีความตั้งใจที่จะทำเพื่อคนตำบลเขาปู่ โดยเนื้อหาหลักที่เกิดการประชุมครั้งนี้ขึ้นก็คือ การสรุปการทำงานในปี 2552 และแนวทางที่คนเขาปู่จะเดินต่อไปในปี 2553

      

ซึ่งประธานเครือข่าย “คนต้นน้ำ” ก็รายงานถึงกิจกรรมที่เครือข่ายได้ทำในปี 2552 ทั้งหมดและดูเหมือนว่าได้รับการตอบรับที่ดีมากจากคนในตำบล ซึ่งก็น่ายินดีเป็นอย่างมาก และก็เป็นกำลังใจอย่างดีเยี่ยมให้กับแกนนำในการทำงานต่อไป และหลังจากนั้นก็มีการให้ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมเสนอแนวความคิดว่า อยากให้เขาปู่เป็นอย่างไรต่อไป และจะเดินไปในทิศทางใด ซึ่งจากสถานการณ์ปัญหายาเสพติดที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากข้อมูลของรองนายก อบต., สารวัตร, ผู้กำกับ และพี่สายสุดา ก็ตรงกันว่าสถานการณ์ปัญหายาเสพติดมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นลำดับ

     

โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในกลุ่มของเด็ก – เยาวชน ทั้งในและนอกสถานศึกษา โดย ผอ.ทั้งสองโรงเรียนที่เชิญเข้ามาร่วมประชุมก็เสนอความคิดเห็นว่าจะต้องร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เด็ก – เยาวชน ซึ่งเป็นลูกหลานของคนเขาปู่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และปัญหาที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ในตำบลก็มีทางออกทุกอย่างเพราะได้แกนนำจากหลากหลายหน่วยงานซึ่งถือเป็นภาคีการทำงานของเครือข่าย “คนต้นน้ำ” ซึ่งทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะแกนนำบอกว่า เราทำงานกับคน จะรีบร้อนไม่ได้

             

และอีกอย่างที่น่าประทับใจ คือ ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมนั่งประชุมจนจบ โดยไม่ลุกหนีไปไหน แสดงให้เห็นว่าแกนนำทุกคนและภาคีทุกท่านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และมีความตระหนักว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันเป็นปัญหาของคนเขาปู่ ซึ่งจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา ช่วยกันออกความคิดเห็นในฐานะที่พวกเขาเป็นคนเขาปู่    

หมายเลขบันทึก: 350500เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2010 10:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับน้อง ไม่ได้ ทะนายหัว ชำนินานแล้ว

งานนี้มาร่วมมั้ยครับ

สามปีก่อน เขามีเป้าจะพัฒนา วันนี้เขาทำแล้วครับ

สบายดีแล้วครับ

บังหีมคงไม่เห็นความหล่อรูปที่ 4 นั่งซ้ายมือมือน้องไง

ท่านชำนิเป็นประธาน ศตส.ภาคประชาชนตำบลเขาปู่ในนาม "คนต้นน้ำ" ค่ะ

เขาปู่ไปไกลแล้งค่ะ ทั้งการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงคนในพื้นที่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท