คำแนะนำของผู้ปกครอง


ว่ากันว่าผู้ปกครองควรให้คำแนะนำแก่บุตรหลานควบคู่ไปกับสถาบันการศึกษา


-------------------------------------------------------------------------------------->>

 

ก่อนที่จะเข้ามาเรียนและทำมาหาเลี้ยงชีพในกรุงเทพ ผู้ปกครองอย่างย่า  พ่อและแม่ของฉัน ได้ให้คำแนะนำลูกๆ หลานๆ เพียงประโยคเดียวว่า "มรดกสมบัติที่มีให้มีอยู่แค่บ้านพร้อมที่ดิน  เงินกิน  เงินใช้  พวกเอ็งต้องหาเอง  เลี้ยงตัวเองไปจนตาย  ออกไปสู้กับโลกเองเถอะ  พร้อมแล้วก็ค่อยกลับมา" (ฉันเคยสงสัยว่าที่บ้านฉันจะสอนอะไรนานๆ ยาวๆ บ้างมั้ย  จะขี้เกียจสอนกันไปถึงไหน)

 

ฉันจึงต้องทำงานเก็บเงินตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย  ไหนจะค่าลงทะเบียน  ไหนจะค่ากิน  ค่าเที่ยว  ฝันอะไรไม่มี  เคยถามตัวเองอยู่หลายครั้งอยากทำอะไร  อยากเป็นอะไร  ก็หาคำตอบไม่ได้  จนกระทั่งจังหวะที่เดินไปเรื่อยเปื่อยระหว่างทางฉันสังเกตุเห็นคนแก่นั่งขายของ...

 

อืม..  ความฝันหาไม่พบ  แต่มีเป้าหมายในชีวิตก็เป็นอันใช้ได้...

 

เป้าหมายหลัก
แก่มาจะไม่ทำงาน  อยู่สบายๆ  มีเงินใช้ ไม่ลำบาก

 

เป้าหมายรอง
ฉันจะไม่ทำงานไปจนแก่..  ดังนั้นต้องหาจังหวะหยุด

 

จังหวะหยุดต้องขึ้นอยู่กับปริมาณเงิน  ต้องเก็บเงินให้ได้เผื่อวันตายด้วย ที่บ้านฉันอายุยืน  ญาติตายประมาณอายุ 80 ขึ้นไป  ฉันมาอยู่กรุงเทพนาน  สูดมลภาวะที่เป็นพิษเข้าไปเยอะ  เลยกะวันตายให้ตัวเองคร่าวๆ สัก 70-75 ไม่น่าจะมีชีวิตเกินนี้

 

วางแผนทั้งเรียน  ทำงาน  เก็บเงิน  เที่ยว  อะไรไม่จำเป็นในชีวิตตัดออก  โชคดีช่วงเรียนขายสินเชื่อกำลังบูม  มีเพื่อนชวนทำ  ได้เงินมาเดือนละหกหลัก  ทำได้ปีเศษๆ เรียนจบ สอบ ก.พ. ให้ผ่านเป็นอันดับแรกสมดังตั้งใจ  มีคนรู้จักที่ทำงานสถาบันการเงินแนะนำทำ call center หลังจากนั้นก็ก้าวหน้าไปเรื่อย  ย้ายแบงค์บ้าง  แต่ท้ายสุดก็ออก  

 ชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ  เพื่อนแนะนำมาค้าขายกันดีกว่า  ลงทุนดูตลาด  ติดต่อห้าง  เพื่อนต้องการขายตลอดปี  ฉันคิดว่ามันขายได้  แต่กำไรจะน้อย  ลงของเฉพาะเทศกาลดีกว่า  ว่างๆ กลางวันก็ไปเรียนเพิ่ม  บางครั้งก็รับงาน parttime  พอรู้จักลูกค้า  คนที่ติดต่องานด้วยกันเยอะขึ้น  ก็มีทั้งการชวนและคำแนะนำให้ไปทำงานบริษัทเอกชน  จุดประสงค์ฉันอยู่ที่เงินเก็บ  ดังนั้นก็มองไปที่บริษัทต่างชาติ  ทำงานเปลี่ยนสาขาข้ามไปมา..จนกระทั่งเริ่มเห็นมองเห็นเป้าหมาย.. คำนวนแล้ว  อายุ 35 ปีเมื่อไหร่จะเลิกทำทุกอย่าง

 เดือนก่อน  มีวิกฤติกับระบบการทำงาน  แล้วก็เริ่มเบื่อ  กว่าจะใช้ชีวิตถึงอายุ 35 ก็อีกนานแสนนาน  ชักทนไม่ไหว  ก่อนไปทำงานต่างจังหวัดแอบไปเช็คเงินบัญชีที่มีอยู่  อืม.. น่าจะพอ

ไปนอนเสม็ดคืนแรก...

เมื่อคิดตัดสินใจอะไรเสร็จสรรพโทรหาแม่

 "แม่  จะกลับไปอยู่บ้านนะ"
"เออ  แกพร้อมแล้วเรอะ"

 "อื้อ  พร้อมแล้ว  ตามข้อตกลง"  
"แล้วจะทำอะไรล่ะ  แกจะอยู่เฉยๆ เรอะ"

 "อ้อมทำอาหารได้  แต่คงไม่อร่อยเท่าแม่  ขืนทำ  ลูกค้าหายหมด  ดังนั้นน่าจะมีหน้าที่เหลืออยู่อย่างที่ทำแทนได้ชัวร์  เดี๋ยวอ้อมเก็บเงินให้"
"เอางั้นเลยเรอะ  เหอๆ"  

 ฉันแอบเนียนหัวเราะไปกับแม่  คุยกับแม่นิด  พ่อหน่อย  ได้หน้าที่ที่ต้องการ  วางหูปั๊บ  กดไปหาย่าต่อ

 "ย่า  ขอบ้านหลังดิ  จะกลับไปอยู่บ้าน"
"เอาดิ  ทุกอย่างแกพร้อมแล้วเรอะ"

 "อื้อ  พร้อมแล้ว  ตามข้อตกลง"
"แล้วแกจะทำอะไร  จะอยู่เฉยๆ เรอะ"

 "ไม่อ่ะ  จะเปลี่ยนข้างล่าง  เปิดร้านขายน้ำปั่น  ทำกิฟช้อป  ดูแลย่า  โอเคป่ะ"
"โอเค๊..  กลับมาพรุ่งนี้เลยลูก"

 "ปีหน้าดีกว่านะ  รับโบนัสก่อน"
"เค๊..  เค..  ย่าจะรอ"

 "เออ  ย่า  อยากซื้อรถอ่ะ เอาไว้ใช้  ถามอาให้หน่อย  จะขายมั้ย"
"ไม่ต้องซื้อหรอก  มันเปลือง  อาแกก็แก่แล้ว  เดี๋ยวก็ขับไม่ไหว  กลับมาขับให้แกนั่ง  ขับไปขับมา  ขับไปขับมา  เดี๋ยวรถก็เป็นของเอ็ง  เนียนน่ะเนียน  รู้จักใช่มั้ย"

 ช่างเป็นคำแนะนำที่ดีจริงๆ

 หมายเหตุ.

รูปแบบชีวิต  คำสอน  แต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน  โปรดพิจารณาอีกหลายๆ รอบ

 

คำสำคัญ (Tags): #kmanw
หมายเลขบันทึก: 350011เขียนเมื่อ 6 เมษายน 2010 16:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท