นิสิตคณะนิติศาสตร์ ม.ทักษิณ ชนะเลิศการตอบปัญหาทางกฎหมาย รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ

 

 เผยเทคนิคการเรียน 2 นิสิตคนเก่ง คณะนิติศาสตร์ ม.ทักษิณ  คว้าแชมป์ ตอบปัญหาทางด้านกฎหมาย ระดับอุดมศึกษา รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร  เนื่องในวันรพี

ภายหลังจากที่ นายเจษฎา  ชีวะหิรัญ  และนายวิสิษฐ  เขาทอง นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ  เข้าร่วมการแข่งขันตอบปัญหาทางด้านกฎหมาย ระดับอุดมศึกษา และได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1  จากการแข่งขันตอบปัญหาทางด้านกฎหมาย ระดับอุดมศึกษา ประจำปี 2552  ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร  เนื่องในวันรพี  ณ  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   วารสารฉบับนี้ได้ติดตามสัมภาษณ์ชีวิตด้านการเรียนของ 2 นิสิต คนเก่ง และนำมาบอกเล่าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบ ถึงเทคนิคด้านการเรียนของทั้ง 2 คน เพื่อจะได้นำไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาเล่าเรียนของตัวเองต่อไป

ทีมข่าว : ช่วยเล่าประวัติของทั้ง 2 คน และการศึกษาก่อนที่จะเข้ามาเรียนที่ คณะนิติศาสตร์ ม.ทักษิณ

นายเจษฎา  ชีวะหิรัญ : ผมเป็นบุตรคนที่ 2 ของครอบครัว มีพี่สาว 1 คน อาศัยอยู่กับบิดา – มารดา ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  บิดาชื่อนายเกษม  ชีวะหิรัญ ประกอบอาชีพเป็นนักการภารโรงอยู่ที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2  มารดาชื่อนางเรวดี  ริมดุสิต  เป็นแม่บ้าน  จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 อำเภอหาดใหญ่  ผมชอบและมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักกฎหมายและตั้งใจจะเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา คณะนิติศาสตร์ในมหาวิทยาลัยทักษิณ  เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้บ้าน เดินทางสะดวก  เมื่อทางมหาวิทยาลัยทักษิณ เปิดรับสมัครนักเรียนโควตาผมจึงรีบสมัครและได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาต่อในคณะนิติศาสตร์  จึงเลือกที่จะเรียนในคณะนิติศาสตร์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

นายวิสิษฐ  เขาทอง  : ผมเป็นลูกคนกลางของครอบครัว มีพี่ชาย 1 คน และน้องสาว 1 คน อาศัยอยู่กับบิดา – มารดา ที่ อำเภอร่อนพิบูลย์  จังหวัดนครศรีธรรมราช  บิดาชื่อ นายโสภณ  เขาทอง   มารดาชื่อ นางเพียร  เขาทอง  ทั้งคู่ประกอบอาชีพค้าขาย ผมจบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยความชอบด้านกฎหมาย จึงตั้งใจที่จะเข้าศึกษาต่อทางด้านนิติศาสตร์ และเลือกที่จะสอบเอ็นทรานซ์ เพื่อเข้าศึกษาต่อ ในคณะนิติศาสตร์ เป็นอันดับที่  ในมหาวิทยาลัยทักษิณ และสามารถสอบเข้าเรียนได้สมดังความตั้งใจ

ทีมข่าว    : การเข้าร่วมแข่งขันตอบปัญหาทางด้านกฎหมาย ต้องเตรียมตัวอย่างไร

นายเจษฎา  ชีวะหิรัญ : การแข่งขันตอบปัญหาทางด้านกฎหมาย เนื่องในวันรพี ( วันที่ 7 สิงหาคม ) จัดเป็นประจำทุกปี  ซึ่งจะมีประกาศรับสมัครนิสิตเพื่อคัดเลือกเข้าร่วมการแข่งขัน  และในปีนี้ก็ได้มีโอกาสได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ  โดยคัดเลือกมหาวิทยาลัยละ 2 คน  ผมและนายวิสิษฐ  เขาทอง ได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนไปแข่งขัน ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ท่าพระจันทร์ 

นายวิสิษฐ  เขาทอง  :  ในการแข่งขันรอบคัดเลือก ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์  มีตัวแทนจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ จำนวน 46 มหาวิทยาลัย  รวมผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 92 คน (มหาวิทยาลัยละ 2 คน) แบ่งการแข่งขันเป็น 2 รอบ  รอบแรกเป็นการแข่งขันแบบพบกันหมดทุกทีม   และคัดเลือก 10 ทีม เข้าแข่งขันในรอบที่ 2  ซึ่งทีมจากมหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ลำดับที่ 4 ในรอบแรกผ่านเข้าแข่งขันในรอบที่ 2  ทีมที่ผ่านเข้ารอบที่ 2 ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  มหาวิทยาลัยนเรศวร  มหาวิทยาลัยรามคำแหง  มหาวิทยาลัยบูรพา  มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา  เป็นต้น  

ทีมข่าว    : เตรียมตัวอย่างไรกับการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้

นายวิสิษฐ  เขาทอง  :  สำหรับการเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ไม่ค่อยหนักใจเท่าไหร่ เพราะทั้งรุ่นน้อง รุ่นพี่ และอาจารย์ทุกคน ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ติวเข้มให้ก่อนที่จะไปแข่งขัน  และทุกคนเป็นกำลังใจให้ อย่างดียิ่ง ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

นายเจษฎา  ชีวะหิรัญ :  การแข่งขันในรอบที่ 2 เข้มข้นมาก มีทั้งคำถามที่เป็นตัวเลือกและอัตนัย ให้อธิบาย  ทั้ง 10 ทีม ที่ผ่านเข้ารอบ ใช้คำถามเดียวกัน  โดยให้เวลาข้อละ 2 นาที สำหรับคิดวิเคราะห์เพื่อตอบคำถาม  ลักษณะคำถาม เป็นข้อคำถามที่ให้คิดวิเคราะห์และตีโจทย์ทางด้านนิติศาสตร์ ซึ่งการตอบคำถามจะต้องสอดคล้องกันระหว่างหลักกฎหมายและเหตุผล ซึ่งตรงจุดนี้ ไม่หนักใจมากนักเพราะได้รับการติวเข้มอย่างดียิ่งจากรุ่นพี่ และอาจารย์ในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ แต่ต้องมีสมาธิ และวิเคราะห์คำถามอย่างละเอียดก่อนตอบ  ซึ่งเมื่อประกาศผลปรากฏว่า ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1          และได้ครองถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร  ดีใจมากๆ

ทีมข่าว    :  ในอนาคตตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร และจะฝากข้อคิดเตือนสติรุ่นน้อง อย่างไรบ้าง

นายเจษฎา  ชีวะหิรัญ :  ในขณะนี้ผมเป็นนิสิตชั้นปีที่ 4  ซึ่งจะสำเร็จการศึกษาในปี 2553 ในอนาคตผมอยากเรียนต่อทางด้านเนติบัณฑิต เพื่อจะได้ออกมาประกอบอาชีพทางด้านกฎหมาย และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด ใฝ่ฝันไว้ว่าจะเป็นผู้พิพากษา  และขอฝากข้อคิดถึงรุ่นน้องทุกคนว่า “การเรียนกฎหมาย ถ้าจะเรียนให้ได้ดีและประสบความสำเร็จ อยู่ที่ความตั้งใจและความพากเพียรของผู้เรียนเป็นสำคัญ  เรียนวิชากฎหมายในปัจจุบันจะเรียนที่ไหนก็ได้ วิชาความรู้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งอยู่ที่ว่าเราจะตั้งใจแสวงหาความรู้มากแค่ไหน  แต่ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ นอกจากมีความรู้ให้ทุกคนได้แสวงหาแล้ว ที่นี่ยังมีความรัก ความผูกพัน และความเอื้ออาทรระหว่างศิษย์ กับอาจารย์  รุ่นพี่รุ่นน้อง ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และแสดงออกให้เห็นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 4 ปีที่ศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยทักษิณ”

นายวิสิษฐ  เขาทอง  :  ในอนาคตผมอยากเป็นอัยการ และผมจะพยายามทำความฝันให้เป็นจริงให้ได้ การเรียนทางด้านนิติศาสตร์ ต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้ ขยันอ่าน ขยันศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง และไต่ถามจากผู้รู้ โอกาสของทุกคนมีอยู่ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราจะรู้จักคว้าโอกาสเหล่านั้นหรือไม่ และขอฝากถึงน้องๆ ที่จะเข้าศึกษาต่อในคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ  ว่า “ความตั้งใจ ขยัน หมั่นเพียร คือกุญแจ ไขสู่ความสำเร็จ  กฎหมายไม่ใช่เรื่องยาก อาศัยความเข้าใจและตั้งใจ ”

 และนี่คือ บทพิสูจน์ถึงความสำเร็จของนิสิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ และเป็นอีกความภาคภูมิใจของพวกเราชาวฟ้าเทาทุกคน

[นางสาวเพ็ญนภา พรประกาสิต]

ร่วมยินดีกับเพื่อนที่ทำความฝันของตัวเองได้อย่างสำเร็จ

และจะเป็นกำลังใจให้เสมอให้มีหน้าที่การงานที่ดี และเป็นคนดีตลอดไป

[งานประชาสัมพันธ์ ม.ทักษิณ]

ขอบคุณคะ ที่เป็นกำลังใจให้กับนิสิต ม.ทักษิณ และติดตามผลงานของพวกเขา