วันที่ 8 มิถุนายน 2549
ช่วงบ่าย หลังจากการนิเทศงานที่กิ่งอำเภอโกสัมพีนคร ผมและคุณสายัณห์ ปิกวงค์ ก็รีบเดินทางเพื่อเข้าร่วมกระบวนการ ลปรร.เกี่ยวกับการผลิตสินค้าเกษตรที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน (อาหารปลอดภัย) ณ หมู่ที่ 3 บ้านบึงกระดาน ตำบลช่องลม อำเภอลานกระบือ จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราได้นำกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม เพื่อหารูปแบบการส่งเสริมฯ
คุณสนอง ขวัญคำ นักส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลช่องลมพร้อมทั้งทีมงานของสำนักงานเกษตรอำเภอลานกระบือ คือคุณมานพ จันทร์ต๊ะโมก และคุณนิพิจ พินิจผล ได้มาพร้อมแล้ว มีเกษตรกรที่มาร่วมกระบวนการในครั้งนี้ประมาณ 80 คน
ขั้นตอนของกระบวนการในวันนี้มีรายละเอียด ดังนี้ครับ
1. การนำเข้าสู่บทเรียน โดยคุณสนอง ขวัญคำ โดยใช้สีแดงมาให้ผู้ร่วมกระบวนการดูแล้วถามว่า สีแดงนี้ท่านคิดว่าหมายถึงอะไร..... ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย บางท่านก็ว่าความร้อน เลือด ความโชคดี แล้วคุณสนองก็สรุปว่า ในกลุ่มคนที่มีหลายคนย่อมมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้นเป็นธรรมดาที่เราจะคิดต่างกันแต่ในกระบวนการกลุ่มนี้ควรยอมรับในความแตกต่าง เพราะทุกคนสามารถคิดต่างกันได้.....จึงต้องมีการแสดงความคิดเห็นร่วมกัน
2. การดูวีซีดีเรื่อง "ปัญหามา ปัญญามี" เป็นการดูเพื่อศึกษาวิธีหรือกระบวนการแก้ปัญหาแบบมีส่วนร่วม จากนั้นคุณสายัณห์ ปิกวงค์ จึงทักทายกับกลุ่ม พร้อมทั้งสอบถามถึงแนวคิดที่ได้จากการดู วีซีดี ซึงก็ได้รับความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมจากผู้เข้าร่วมกระบวนการเป็นอย่างดี
3. กระบวนการเรียนรู้เพื่อการแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ซึ่งมีประเด็นย่อยๆ ดังนี้
4. การตรวจวิเคราะห์ถึงค่า pH ของดินและน้ำ ระหว่างการดำเนินกระบวนการ ผมและคุณสายัณห์ ก็ได้จับประเด็นและบันทึกเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินแผนการปฏิบัติของกลุ่มในเบื้องต้น ให้คุณสนองและทีมงานได้ดำเนินกระบวนการในครั้งต่อไป หลังจากนั้นคุณสนองได้ร่วมกับเกษตรกรที่นำน้ำและดินมาตรวจวิเคราะห์หาค่า pH เพื่อเป็นข้อมูลในการผลิตพืชให้ปลอดภัยและได้มาตรฐานต่อไป
ในการดำเนินกระบวนการในวันนี้ พอสรุปเป็นบทเรียนได้ดังนี้
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร.ครับ
วีรยุทธ สมป่าสัก
อยากเห็นการทำนา อินทรีย์ แบบคุณซูรูด อาหมัดที่ตำบลพระอาจารย์ อ.เมือง จ.นครนายก คือที่ดูจากเอกสารเกษตร ไม่ลองไม่รู้ ฉบับเดือนธันวาคม เขาทำนา 35 ไร่ ต้นทุนครั้งแรก 99,095 บาท ได้กำไร 66,630 ครั้งที่ 2 ต้นทุน 44,415 บาท กำไร 94,786 กว่าบาท ครั้งที่ 3 ต้นทุน 44,245 กำไร 81,432 กว่าบาท ครั้งที่ 4 ต้นทุน 43,810 กำไร 62,090 รวม 1 ฤดูกาล (429 วัน) ทุน 222,565 กำไร 304,937 (หักต้นทุนออกไปแล้วเป็นกำไรสุทธิ)
โดยทำนา 4 หน ประมาณ 429 วัน โดยหว่านข้าวพันธุ์สุพรรณบุรี ครั้งที่ 1 ครั้งเดียว ครั้งที่ 2 - 4 ทำแบบข้าวล้มตอ คือ หลังจากเกี่ยวข้าวครั้งแรกเสร็จ ก็ใช้ขลุบพิเศษ 27 ล้อ ตีในแปลงนาให้ต้นข้าวล้มแล้วปล่อยทิ้งไว้ 15 วัน แล้วจึงปล่อยน้ำเข้านาประมาณท่วมหลังปู กอข้าวจะเริ่มแตกกอ ดูแลด้วยใส่ปุ๋ยเคมี 16-20-0 จำนวน 1 ครั้ง ทุก 15 วัน ใส่ปุ๋ยน้ำชีวภาพ และสุดท้ายด้วยปุ๋ยยูเรียสุดท้ายอีกครั้ง
ที่มาข้อมูล เอกสารสรุปผลงานเกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทำนา 2549
ท้ายสุดอยากรู้ว่า เกษตรกรทำนาบ้านเรา (กำแพงเพชร) ได้ศึกษาทำแบบคุณซูรูด อาหมัดบ้างหรือยังครับ หากมีขอข้อมูลด้วยจักขอบพระคุณมาก
เรียน คุณสมโพธิ (ท่าขุนราม)
ที่อยู่ 055 ม.10 บ้านใหม่สุวรรณภูมิ ต.ท่าขุนราม อ.เมือง กำแพงเพชร
ขอบคุณครับที่กรุณานำตัวอย่าง การทำนาล้มตอข้าว มาให้ดูและรายละเอียดการลงทุนเพื่อการเปรียบเทียบ
ขอรบกวนอีกซัก 2 เรื่องนะครับ
อยากรู้แหล่งปลูกอ้อยคั้นน้ำ สุพรรณบุรี 50 กับกิ่งชะอมชำมีหนาม ที่พร้อมมาปลูกได้เลยในพื้นที่กำแพงเพชรมีบ้างไหมครับ
เรียน คุณสมโพธิ