พฤติกรรมของ " BA " คุณเคยเจอแบบนี้บ้างรึเปล่าค่ะ
ความเห็น (15)
ขอวิพากษ์นิดนะครับ
1. กรณีซื้อผัก 1 แถม 1 คุณตกเป็นเหยื่อการชวนซื้อของห้าง
ก. คุณซื้อเกินความต้องการ กระต่ายคุณอาจบริโภคเพียง 1-2 หน่วยต่อวัน คุณซื้อถึง 6หน่วย เสียของเกินความต้องการครับ
ถ้าเป็นสินค้าอื่น เขาเรียกว่า Stock ย้ายที่จากห้างไปอยู่ที่บ้านคุณ
ข. สินค้าประเภทผักอยู่ได้ไม่นาน แค่ข้ามวันก็ลดคุณภาพหรือเหี่ยวเฉา เหนียว ไม่สด
ค. ห้างเขาต้องการระบายของที่เขา Stock ไว้เกินออกไป
2. กรณีเรื่อง B.A เขาอาจเห็นคุณเป็นคนจุกจิก เลยพูดตัดบท ไม่แตกต่างกับการปิดการขาย close sale ทำไมเขาจึงทำเช่นนี้
เพราะเขาไม่ใช่เจ้าของ แค่ปัดคุณคนเดียวเขาก็ทำได้ แค่ซื้อของแค่นี้คุณก็โมโหแล้ว
อีกอย่างคนขายเวลานั้นก็อาจอารมณ์ไม่ดีด้วย : )
สวัสดีค่ะคุณพรเทพ วรางค์นนท์
ขอบพระคุณมากๆนะค่ะสำหรับแนะนำ ขอชี้แจงหน่อยนะค่ะ
กรณีข้อ 1
กรณีซื้อผัก 1 แถม 1 คุณตกเป็นเหยื่อการชวนซื้อของห้าง
ก. คุณซื้อเกินความต้องการ กระต่ายคุณอาจบริโภคเพียง 1-2 หน่วยต่อวัน คุณซื้อถึง 6หน่วย เสียของเกินความต้องการครับ
ถ้าเป็นสินค้าอื่น เขาเรียกว่า Stock ย้ายที่จากห้างไปอยู่ที่บ้านคุณ
ข. สินค้าประเภทผักอยู่ได้ไม่นาน แค่ข้ามวันก็ลดคุณภาพหรือเหี่ยวเฉา เหนียว ไม่สด
ค. ห้างเขาต้องการระบายของที่เขา Stock ไว้เกินออกไป
***อย่างที่คุณพรเทพกล่าวก็ถูกนะค่ะ***
- การที่แป้งซื้อมาstockก็เพราะแป้งไม่ค่อยได้เข้าไปค่ะ ปกติก็จะซื้อมาเก็บไว้ที่ตู้เย็นอยู่แล้ว
- และการที่ข้ามวันก็ต้องไม่สดอย่างแน่นอน เพื่อนแป้งก็ถามคำถามนี้ตอนแป้งซื้อค่ะ ซึ่งแป้งก็คำนวณแล้วว่ากระต่ายกินทันค่ะ เพราะแป้งเลี้ยงกระต่าย 4 ตัว จะให้ผักมื้อละ 1 ถุง แต่แป้งจะให้ตอนเช้า กะ เย็น
กรณีข้อ 2
กรณีเรื่อง B.A เขาอาจเห็นคุณเป็นคนจุกจิก เลยพูดตัดบท ไม่แตกต่างกับการปิดการขาย close sale ทำไมเขาจึงทำเช่นนี้
เพราะเขาไม่ใช่เจ้าของ แค่ปัดคุณคนเดียวเขาก็ทำได้ แค่ซื้อของแค่นี้คุณก็โมโหแล้ว
อีกอย่างคนขายเวลานั้นก็อาจอารมณ์ไม่ดีด้วย : )
***จากที่กล่าวข้างบน***
ก็อย่างที่แป้งได้พูดไปแล้วนะค่ะ ว่าเค้าเป็นแค่ลูกจ้าง เค้าจะทำอย่างไรก็ได้
กรณีที่ว่า ซื้อของแค่นี้คุณก็อารมณ์เสียแล้ว ในเมื่อมีคนมาทำกิริยาไม่ดีกับคุณ ท่านที่ใจเย็นก็คงควบคุมอารมณ์ได้ แต่สำหรับแป้งยอมรับนะค่ะว่าเป็นคนที่อารมณ์ร้อนค่ะ
และที่คุณบอกว่า คนขายนั้นอารมณ์ไม่ดีด้วย อันนี้แป้งไม่ทราบนะค่ะว่าตอนนั้นเค้าอยู่ในสถานะอารมณ์ แต่ ณ.เวลานั้น หน้าที่ของแต่ละคนก็คือหน้าที่ค่ะ
BA มีหน้าที่ ขายของ แนะนำสินค้า ด้วยความสุภาพ คงไม่มีใครอยากให้คนมาพูดไม่ดีด้วยหรอกนะค่ะ
แป้ง มีหน้าที่ เป็นลูกค้าค่ะ แป้งไม่ได้ว่า BA ทุกคน แป้งแค่ตำหนิในสิ่งที่เค้าได้แสดงวันนั้น ซึ่งมันไม่เหมาะสมค่ะ
ขอบพระคุณค่ะที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะค๊ะ ^_^
ถ้าแป้งคิดว่ามันถูกแล้วก็ดีครับกับการตัดสินใจ
แต่ขอชื่นชมแป้งนะที่มีสติ ไม่ใช้โทสะ..
ขอชื่นชมจ้าา
ขอบคุณค่ะคุณราชิตที่เข้ามาให้กำลังใจ ^_^
เสนอแนะว่าต้องมีสติเร็วขึ้นขอรับ
ประเด็นที่อาจจะลองคิดเล่นๆ ในความคิดของผมคือ
๑) หาเหตุผลเชิงบวกว่า ทำไมพนักงานจึงมีพฤติกรรมบริการที่ไม่เหมาะสม (ในความคิดของเรา) เช่นนั้น เช่นบริษัทนี้ค่าตอบแทนน้อยจัง เขาอาจจะยืนมาทั้งวันแล้วเลยเหนื่อย ลูกป่วยอยู่ที่บ้าน เป็นต้น
๒) หาเหตุผลในตัวเราเอง ว่าเพราะอะไรเราจึงไม่พอใจ เพราะอะไร เพราะอะไร ถามซ้ำต่อไปเรื่อยๆ จนหมดคำตอบครับ อาจจะค้นพบอะไรที่เราไม่เคยคิดมากก่อน แต่ข้อนี้ควรทำเองอย่างส่วนตัวนะครับ
ข้อที่๑ จะทำให้เราไม่โมโห ไม่ตอบสนองโดยไม่ทันคิด ไม่ยอมให้พฤติกรรมที่ไม่ดีของคนอื่น มาทำให้เราเกิดพฤติกรรมที่ไม่ดี เป็นการเพิ่มอีคิว และเป็นการทำจิตให้ผ่องใส (โอวาทปาฏิโมกข์ข้อ ๓)
ข้อ ๒ อาจจะทำให้เราค้นพบอะไรที่น่าตกกะใจนะครับ
อย่าเพิ่งโมโหนะครับ
แป้ง อาจารย์เห็นด้วยนะครับ จริงๆแล้ว BA เก่งๆเช่นคุณแม่ผม แต่งให้ดู แนะนำดี ลูกค้ามีความสุข คนก็มีความสุข ทุกคนมีแต่ดีขึ้นครับ บางทีต้องช่วยกันบอกกับองค์กรนะครับ ว่าอาจต้องเลือกคนให้เหมาะกับงาน ถ้าจ้างเขามาแล้วต้องอบรม ต้องดูแลเขาจนเขาสามารถ "เติมใจ" ลูกค้าได้ เพราะอะไรครับ BA เก่งๆนี่ อย่างคุณแม่ของผมปัจจุบันเกษียณอย่างมีความสุข
ปัจจุบัน เวลาสอนหนังสือ เวลาทำโครงการจริงพยายามให้องค์กรดูแล "ใจ" ลูกน้องด้วย ไม่ใช่เน้นที่ลูกค้าอย่างเดียว ผมว่าบริษัทจำนวนมากในทุกวันนี้มองข้าม เคยมีกลุ่ม AI คนหนึ่ง ดูแล "ใจ" ลูกน้องดีๆ สามารถเปิดร้านใหม่ได้เลย ลักษณะนี้เขาเรียกว่า Happy workplace หรือ บางที่เราเรียกว่า Employee Engagement นะครับ พวกเราช่วยกันสำรวจและส่งเสริมกันเถอะครับ ผมว่ามันมีน้อยจริงๆ คนทำงานถึงไม่มีความสุข
สวัสดีค่ะคุณหมอสาโรจน์
- แป้งยอมรับนะค่ะว่าเป็นคนที่อารมณ์ค่อนข้างร้อนค่ะ
ต้องเข้าวัดบ่อยๆแล้วค่ะจะได้อารมเย็นขึ้น ^_^
น้อมรับคำแนะนำของคุณหมอมาปฏิบัติค่ะ
- ที่คุณหมอกล่าวคล้ายกับการที่เวลาเราโกรธ
- แล้วให้ลองนับ 1 2 3 ในใจก่อนที่จะโกรธ
- ก็จะทำให้เราอารมณ์เย็นขึ้นใช่มั๊ยค่ะ
ขอบพระคุณคุณหมอมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ภิญโญ
BA ที่เก่ง พูดคุยดี แนะนำดี เค้าก็มีความสุขในการแนะนำสินค้า
แป้งก็มีความสุขในการรับฟังคำแนะนำ
และพร้อมที่จะจ่ายเพื่อซื้อเครื่องสำอางค์ที่ BA คนนั้นแนะนำค่ะ
สนับสนุนคำกล่าวของอาจารย์ที่ว่า "ต้องเลือกคนให้เหมาะกับงาน"
แต่ละคนนั้นมีบุคลิก หรือ ลักษณะ และนิสัยเฉพาะตัว
ซึ่งแต่ละคนก็เหมาะสมในแต่ละอาชีพที่แตกต่างกัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแป้งว่าพนักงานต้อง "เต็มใจ" ทำงาน
และการที่จะทำให้พนักงานเต็มใจได้นั้นก็ต้อง "เติมใจ" ให้แก่พนักงานค่ะ
ที่แป้งคิดได้ก็อย่างเช่น การที่เรามีสวัสดิการดูแลครอบครัวของพนักงาน
ก็น่าจะเป็นการทำให้พนักงานมีจิตใจที่วอกแวกน้อยลง
และคิดถึงแต่งานที่ทำอยู่ตรงหน้า
สามารถตั้งสมาธิแน่วแน่อยู่กับงานที่ทำ
ก็จะทำให้เกิดการผิดพลาดน้อยลง ค่ะ
ซึ่งบริษัทไหนที่ได้ลูกน้องที่ดี และสามารถ "ได้ใจ" ลูกน้อง
ก็ทำให้ลูกน้อง "ให้ใจ" และทำงานอย่างมีความสุขค่ะ
---- ขอบพระคุณอาจารย์มากๆค่ะสำหรับคำแนะนำ ---
ซื้อมาซะเต็มตะกร้าเลย แต่คุ้มดีนะ อยู่ดีๆได้ 1 แถม 1 จังหวะดีมากมาย
ส่วนเรื่อง BA ในความคิดเอิร์ทไม่ว่าเขาจะอารมณ์เสียมากจากไหน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใด หน้าที่ของคุณคือทำให้สินค้าขายได้ครับ
ซึ่งของจะขายได้คนขายต้องเอาใจใส่ลูกค้านิดส์นึง แต่อย่างที่แป้งเล่ามา
เหมือนเขาทำเหมือนเป็นหน้าที่จริงๆ ไม่ได้รักในตัวองค์กรแต่อย่างใด
แบบนี้ในระยะยาว สินค้า Brand นี้อาจตายได้โดยไม่รู้ตัว เพราะจุดเล็กๆจุดนี้ครับ ^^
สวัสดีครับ น้องแป้ง
- ช่วงนี้อากาศร้อนจังเลย
- พี่ครูจ่อยจะไปเที่ยวทะเลแล้ว ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย
- แวะมาชวนนะเนี่ยะ
สวัสดีค่ะเอิร์ท
แป้งเห็นด้วยนะค่ะ บางทีก่รมองข้ามจุดเล็กๆไป
ก็อาจทำให้แบรนด์นั้นเสียหายอย่างยิ่งใหญ่ได้นะค่ะ
ขอบคุณเอิร์ทมากค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ครูจ่อย
- ช่วงนี้อากาสร้อนมากๆจริงๆค่ะ
- ขอบคุณมากนะค่ะที่ชวนไปเที่ยวทะเล
- อยากได้จังเลยค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่ว่างเลย
- ขอให้พี่ครูจ่อยเที่ยวอย่างสนุกสนานนะค่ะ
- เก็บบรรยากาศมาฝากแป้งด้วยนะค่ะ
ขอบคุณพี่ครูจ่อยมากค่ะ
พูดได้คำเดียวว่า BA คนนั้นยังไม่มีความเป็นมืออาชีพเพียงพอค่ะ เขาคงต้องฝึกฝนต่อไป (น่าเศร้าค่ะ เขาไม่ได้มีความสุขกับงานที่เขาทำเลยค่ะ) คิดดูว่าต้องทำงานทั้งๆที่ไม่อยากทำไม่มีความสุขกับงานที่ทำ องค์กรที่จ้างคนแบบนี้มาทำงานสุดท้ายผลเสียก็ตกอยู่ที่องค์กรเองค่ะ ^^ ทางองค์กรที่เขาสังกัดคงยังไม่ได้ใจพนักงานคนนั้นค่ะ BA คนนั้น ไม่ยอมทุ่มเทใจให้กับองค์กร คิดว่าทำงานหาเช้ากินค่ำไปวันๆถ้าที่นี่ไม่ก้าวหน้าก็ย้ายที่ใหม่ไปเรื่อยๆ ไม่มี brand loyalty ต่อ brand ของตนเองค่ะ (มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ไม่ใช่เพราะพวกเขาอย่างเดียว เพราะองค์กรเองก็บริหารไม่ได้ใจพนักงานด้วยค่ะ)
ส่วน โปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 ไม่ใช่ว่าเราโดนหลอกๆค่ะ แต่เป็นความเต็มใจของลูกค้าเองที่มี Demand ณ ตอนนั้น และทางห้างเองมี supply ที่ต้องการจะระบาย stock ออกก่อนที่มันจะเสียเก็บไว้ก็กลายเป็นเสียปล่าวๆ
โปรโมชั่นก็เป็นแค่สิ่งช่วยกระตุ้น ดึงดูดใจให้ลูกค้า
แต่พอดีสินค้าที่จัดโปร ณ ตอนนั้นมันได้จังหวะกับสิ่งที่ลูกค้าแบบแป้งกำลังมองหาอยู่พอดี ซื้อแล้วมันเป็นประโยชน์ ทำให้ประหยัดเงินได้เท่าตัว ก็คุ้มแล้วค่ะ
เหมือนช่วงนี้พิซซ่าซื้อ 1 แถม 1 อรก็ซื้อทุกรอบที่มีโอกาสเลยนะ คุ้มดีอ่ะ จ่ายเงินเท่าเดิมแต่ได้ 2 ถาด ถามว่ากินหมดหรือเปล่า ก็กินไม่หมดหรอกแต่เอาแบ่งให้คนโน้นคนนี้ช่วยกินบ้างก็ได้ ^^
สวัสดีค่ะอร
จากคำพูดของอรที่ว่า
(น่าเศร้าค่ะ เขาไม่ได้มีความสุขกับงานที่เขาทำเลยค่ะ)
การทำงานอย่างมีความสุขนี่ก็ "สำคัญ" มากๆเลยนะค่ะ
องค์กรต้องหันมามองตรงจุดนี้แล้วละค่ะว่า
ควรทำอย่างไรให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขค่ะ
ซึ่งจะส่งผลออกมาในรูปแบบของการบริการหรืองานที่พนักงานต้องทำค่ะ
ขอบคุณอรมากๆนะค่ะ