• ผมมอง “ฐานะทางสังคม” ไม่เหมือนคนอื่น ในทางส่วนตัว ผมให้ความสำคัญต่อ “ความมั่นคงทางสังคม” มากกว่า ไม่มองเน้นที่ฐานะต่ำสูง
• เมื่อประมาณ ๒๐ ปีมาแล้ว ลูกศิษย์ที่เป็นหมอมาหาชักชวนให้ซื้อประกันชีวิต ผมอธิบายให้ฟังว่าการประกันชีวิตเป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ตนเองและครอบครัว หลักประกันของผมมีอยู่ถึง ๕ ชั้น มั่นคงหนักแน่นอย่างมากอยู่แล้ว คือ ชั้นที่ ๑ ความเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์ของตนเอง ภรรยา และลูกๆ ชั้นที่ ๒ ครอบครัว พ่อแม่ ญาติพี่น้องที่แม้ไม่ร่ำรวย แต่ก็มีฐานะมั่นคง ชั้นที่ ๓ การเป็นข้าราชการ ชั้นที่ ๔ การเป็นสมาชิกของคณะแพทยศาสตร์ มอ. ชั้นที่ ๕ การมีแวดวงมิตรภาพสนิทๆ
• ผมมุ่งสร้าง “ฐานะทางสังคม” โดยเน้นที่ “ความมั่นคงทางสังคม” ของตนเองและครอบครัว ผมเคยคิดว่าประเทศที่จัดระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ทำให้คนมีความมั่นคงทางสังคมสูง ไม่ต้องตั้งหน้าตั้งตาสั่งสมทรัพย์สมบัติส่วนตัว สามารถทุ่มเททำงานให้แก่ส่วนรวมได้เต็มที่
• พอเข้าวัยสูงอายุ ยิ่งรู้สึกว่าตนเองโชคดี ที่มุ่งสร้างสมฐานะเป็น “ทุนทางสังคม” (social capital) ส่วนตัว คือไปอยู่ที่ไหน / หน่วยงานใด ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อสร้างสรรค์ที่นั่นอย่างเต็มที่ ถือการได้ทำงานสร้างประโยชน์เป็นกำไร หรือเป็นโอกาสสร้าง “ทุนทางสังคม” ส่วนตน
• จะเห็นว่าผมไม่ใช่คนที่เสียสละ ผมทำงานเพื่อประโยชน์ของตนเอง คือเพื่อสร้างฐานะ / ความมั่นคง ทางสังคม ให้แก่ตนเอง แก่คนที่ผมรัก และแก่สังคม
• และผมยังได้รับประโยชน์ในการเรียนรู้จากการทำงานนั้นๆ แถมเข้ามาเป็นผลประโยชน์ที่ “ดอกเบี้ยทบต้น” สูงมาก คือยิ่งทำงาน ยิ่งเรียนรู้ และสั่งสมอย่างทวีคูณรวดเร็วยิ่ง
วิจารณ์ พานิช
๖ มิย. ๔๙
ไม่มีความเห็น