แผนที่ประเทศปากีสถาน
(ที่มา http://www.mfa.go.th/web/2386.php?id=378)
ประเทศปากีสถานเกิดขึ้นเมื่อ ๑๕ สิงหาคม ๑๙๔๗ เป็นผลมาจากความต้อการเอกราชของชาวอินเดียที่นับถือศาสนาอิสลามต้องการจะมีประเทศที่มีผู้นำและนับถือศาสนาอิสลาม เพราะเกรงว่าหลังจากที่อังกฤษมอบเอกราชให้อินเดียแล้ว พวกตนจะต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของชาวฮินดู
สามารถจำแนกสาเหตุการเกิดประเทศปากีสถานได้ดังนี้
๑. ทัศนะของชาวมุสลิม
ต้องการรวมอิสลามทั้งหมด (Pan Islam)
- ชาวมุสลิมยึดมั่นในคำภีร์ จงรักภักดีต่อพระเจ้า และภักดีต่อผู้สืบเชื้อสายและผู้มีอำนาจในหมู่ชาวมุสลิม
- ต้องการรวมพวกพ้องของตน เอาใจใส่ความกินดีอยู่ดีของพวกพ้องตนเท่านั้น
- เข้าข้าวชาวอังกฤษ ยอมอยู่ภายใต้การปกครองของชาวอังกฤษมากกว่าชาวฮินดู
- กลัวชาวฮินดูกลืนชาติ เมื่ออังกฤษออกไป
ความรู้สึกของชาวมุสลิม
- จากการที่ชาวมุสลิมปกครองอินเดียชาวมุสลิมมายาวนานกว่า ๕๐๐ ปี (ปลายศตวรรษที่ ๑๒) ชาวมุสลิมมองว่า ชาวมุสลิมมีอำนาจมากกว่าชาวฮินดู
- วัฒนธรรมของมุสลิมในราชวงศ์โมกุล มีอิทธิพลมากในอินเดีย เช่น ภาษา ปฏิทิน วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ การแพทย์ ศิลปกรรม วรรณกรรม สถาปัตยกรรม ฯลฯ ชาวมุสลิมมีความภาคภูมิใจและเย่อหยิ่งในวัฒนธรรมของตน
ความไม่ไว้วางใจชาวฮินดู
- เมื่ออังกฤษออกไป ชาวมุสลิมกลัวถูกชาวฮินดูรังแก เพราะชาวฮินดูมีอำนาจและประชาการที่มากกว่า ชีวิต ทรัพย์สมบัติ และศาสนาจะต้องตกอยู่ในอันตราย
- ชาวฮินดูกร้าวร้สวชาวมุสลิม เช่น เนื้อเพลง Bade Mataram ที่ประณามชาวมุสลิม
การเรียกร้องสิทธิ์ของชาวมุสลิมที่มีมาก เช่น
- ขอให้มีตัวแทนในสภามณฑล ในอำเภอ ในเทศบาล มีส่วนตัวแทนในระดับบริหารทั่วไป
- สิทธิในการลงคะแนนเสียงทั่วไป
- มีส่วนร่วมในสิทธิการบริการสาธารณูประโภค
- ขอเสรีภาพในการฆ่าวัว
- ชาวมุสลิมขอแยกแคว้นสินด์
- ขอให้ใช้ภาษา Urdu เป็นภาษาประจำชาติ
- ของให้รับรอง สันนิบาติมุสลิม (Muslim League)
๒. นโยบายของอังกฤษ
การปกครองแบบแบ่งแยก (Divide and Rule)
- อังกฤษได้แบ่งแยกให้ชาวมุสลิมและชาวฮินดูได้ปกครองตนเอง จึงเป็นสาเหตุของการแจกแยก
- อังกฤษให้ชาวมุสลิมเข้ารับราชการมากกว่าชาวฮินดู สร้างความไม่พอใจให้กับชาวฮินดู
- อังกฤษให้สิทธิชาวมุสลิมมากมายทั้งที่ขอและไม่ได้ขอ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวฮินดู
๓. ลักษณะส่วนตัวของจินนาห์ (Muhammad Ali Jinnah)
Muhammad Ali Jinnah
(ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Muhammad_Ali_Jinnah)
- ช่วงแรก จินนาห์ไม่ต้องการแบ่งแยกชาวมุสลิมและชาวฮินดู เมื่อมีการตั้ง Muslim League เขาจึงไม่เข้าร่วมด้วย
- จินนาห์ต้องการเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง ไม่พอใจ อิจฉาความสำเร็จของมหาตมะ คานธี จึงลาออกจากพรรคครองเกรส (Congress)
Mohandas Karamchand Gandhi
(ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Mohandas_Karamchand_Gandhi)
- มีนิสัยทะเยอทะยานไม่ต้องการเป็นรองใคร เขาหาเสียงในหมู่ชาวมุสลิม ด้วยการเป็นปฏิปักษ์กับชาวฮินดู เขาได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากชาวมุสลิมและ Muslim League จนได้เป็นผู้นำในการเรียกร้องการแยกประเทศของชาวมุสลิม นั้นก็คือประเทศปากีสถาน
๔. ความไม่เข้มแข็งของพรรคครองเกรส (The Indian National Congress)
- พรรคครองเกรสประสบความล้มเหลวที่จะรวม Muslim League เข้ามาร่วมบริการและเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษ เนื่องจากไม่สามารถตกกันได้ภายในพรรค และ Muslim League ต้องการที่จะขอแยกประเทศต่างหากของชาวมุสลิม
- ในปี ค.ศ. ๑๙๔๐ ครองเกรสเรียกร้องให้อังกฤษมอบเอกราชให้กับอินเดีย แต่ผู้นำ Muslim Leagued กลับขอแยกประเทศต่างหากของชาวมุสลิม คือประเทศปากีสถาน โดยรวมเอาดินแดนที่ชาวมุสลิมอาศัยเป็นจำนวนมากเป็นส่วนหนึ่งของประเทศใหม่ ได้แก่ ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอนุทวีปอินเดีย
หนทางนำไปสู่การแบ่งแยกประเทศปากีสถาน และการได้รับเอกราช
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ (ค.ศ. ๑๙๓๙ – ๑๙๔๕) อุปราชอังกฤษถือโอกาสนำอินเดียเข้าร่วมสงครามโดยพลการ ทำให้ครองเกรสคัดค้านและยืนยันเสรีภาพ และขอให้มีรัฐบาลเป็นของตนเองโดยด่วน แต่ถูกปฏิเสธ ครองเกรสจึงตอบแทนโดยการ Boycott ด้วยการละทิ้งตำแหน่งต่าง ๆ ขอคณะรัฐมนตรีที่เป็นสมาชิก ครองเกรส ก็ถูกปลดออก คานธีออก Quit India Resolution ผลก็คือถูกจับ จึงเกิดการจลาจลทั่วไป ส่วนจินนาห์รีบฉวยโอกาสให้สมาชิก Muslim League เข้ารับตำแหน่งให้มากที่สุด
ในช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้น อินเดียได้รับการเปลี่ยนแปลงทางการทหาร เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งส่งผลสำคัญถึงความพร้อมที่จะเป็นเอกราช ดังเช่น ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ การศึกษา สถาบันทหารได้รับการจัดตั้งอย่างมั่นคง มีการขยายอุตสาหกรรมหนัก สภาพเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนได้ออกมาทำงานนอกบ้าน โดยเฉพาะสตรี
Winston Churchill
(ที่มา http://en.wikipedia.org/wiki/Winston_Churchill)
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทวีความรุนแรงขึ้น Winston Churchillนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ก็เตรียมพร้อมที่จะให้อินเดียมีรัฐบาลปกครองตนเอง ได้เชิญผู้นำของครองเกรส และ Muslim League มาเจรจาร่วมกัน ผลปรากฏว่า จินนาห์ผู้นำ Muslim League ย่นกรานที่จะแยกประเทศปากีสถานให้ได้ และเมื่อมีการคัดค้าน จึงมีการจลาจลเกิดขึ้นทั่วอินเดียระหว่าชาวฮินดูและชาวมุสลิม อังกฤษจึงยอมให้มีการแบ่งประเทศ โดยให้ทั้งสองมีฐานะเป็น Dominions จัดการเขตแดนคือ การสอบถามความสมัครใจของแต่ละแคว้นว่าจะอยู่กับประเทศใด และแล้ววันที่ ๑๕ สิงหาคม ๑๙๔๗ เป็นวันมอบเอกราชให้กับอินเดียและก่อตั้งประเทศปากีสถาน
ปัญหาของปากีสถานจากการแยกประเทศ
๑. ปัญหาการโยกย้ายของประชากร
๒. ปัญหาการขาดข้าราชการที่มีความสามารถในการบริหารประเทศใหม่ ให้การปกครองไม่เข้มแข็ง
๓. ปัญหาการมีที่ดินที่มีประชากรต่างภาษามาอยู่รวมกัน และบางส่วนของดินแดนต่างกัน ถึง ๑,๐๐๐ ไมล์ โดยมีอินเดียขั้นกลาง จึงนำไปสู่การแยกประเทศบังคลาเทศในภายหลัง
วาทิน ศานติ์ สันติ : เรียบเรียง
อ้างอิง
ประภัสสร บุญประเสริฐ,รศ.. ประวัติศาสตร์เอเชียใต้. พิมพ์ครั้งที่ ๙. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. ๒๕๔๘.
อรพิน ปานนาค, รศ. และคณะ. อารยธรรมตะวันออก. พิมพ์ครั้งที่ ๘. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. ๒๕๔๒.
http://www.mfa.go.th/web/2386.php?id=378. สืบค้นเมื่อ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓.
http://en.wikipedia.org/wiki/Muhammad_Ali_Jinnah. สืบค้นเมื่อ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓.
http://en.wikipedia.org/wiki/Mohandas_Karamchand_Gandhi. สืบค้นเมื่อ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓.
http://en.wikipedia.org/wiki/Winston_Churchill. สืบค้นเมื่อ ๑๙ มีนาคม ๒๕๕๓.
ไม่มีความเห็น