โรงเรียนในฝัน บันทึกนี้เพื่อเป็นแนวทางสำหรับท่านที่อยู่ในโรงเรียนที่เตรียม รับการประเมินค่ะ
การเตรียมตัว เพื่อรับการประเมิน ต้นแบบโรงเรียนในฝันนั้น ครูที่ปรึกษาประจำ lab ทุก lab จะทำงานอย่างเข้มข้น มาก คือ ต้องศึกษาหาความรู้ ศึกษาคู่มือ การประเมินให้เข้าใจ แล้วแสวงหาความรู้เพิ่มเติม ไปดูงานจากโรงเรียนในฝันรุ่นพี่ ขอคำแนะนำว่า จะทำกิจกรรมอะไร จึงจะตรงกับข้อประเมิน อันที่จริงเด็กก็มีความรู้อยู่แล้ว เพียงแต่เราขัดเกลาให้เห็นตะกอนแห่งความรู้ ที่ตกผลึก อยู่ในตัวเขาให้เห็นเด่นชัดขึ้นมา
ตั้งแต่ฝึกการรายงานตัว ฝึกพูด ฝึกยิ้ม ฝึกไหว้ฝึกทักทาย ฝึกตอบคำถาม และหากไม่ทราบคำตอบ ต้องฝึกคิดว่าจะไปหาคำตอบได้ที่ไหน
การเรียนการสอนในแต่ละวันจะเป็นไปตามตารางสอนปกติ ส่วนในภาคบ่ายนักเรียนทุกกลุ่มจะเข้า lab และเสาร์-อาทิตย์ เป็นเวลาที่ ครูและนักเรียนกลุ่มเจาะจงได้อยู่ด้วยกันตลอด (ครูเตือนจึงไม่ว่าง ทำบันทึกในblog เลยค่ะ)
ผู้บริหาร จะดูเรื่องอาคารสถานที่ จัดหาสื่อการสอน ให้ครบตามที่ครูต้องการ
(อันนี้ก็ แสนจะดีใจ เพราะเมื่อก่อนหน้านั้นอยากได้ คอมพิวเตอร์ใน sound lab เพิ่มเพื่อให้เด็กได้เล่นเกม ฝึกภาษา แต่ก็ไม่กล้าขอ มาตอนนี้ท่านอนุมัติทันที)
เป็นที่น่าประหลาดใจว่านักเรียนกลุ่มเจาะจง ห้องภาษาอังกฤษ เรียนรู้ได้เร็วมากค่ะ
ภายในเวลา 2 เดือน เราสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษง่ายๆ ได้ นักเรียนไม่เคอะเขิน
จากการซ้อมละครสั้น ที่เราท้อใจ ว่า
-
น้องเบ๊นซ์ จะไปไม่ไหว เพราะ ออกเสียงตัว s ไม่ได้ ก็กลับทำได้ในที่สุด
-
น้องโสพิศ ที่สุขภาพไม่แข็งแรง แต่ขยันมาเข้า sound lab ก็ร้องเพลงโรงเรียนในฝันภาษาอังกฤษได้
-
น้องพงศ์เจริญ จากเด็กที่เรียนรู้ช้า ก็สามารถคุม master control แทนครูได้ เปิดคอมพิวเตอร์ เตรียม projector ไว้คอยครู เปิดดนตรีคาราโอเกะเพื่อให้เพื่อนๆ ร้องเพลงโชว์ เปิดภาพประกอบฉากผ่านจอ projector ขณะที่เพื่อนแสดงละครได้ จากเด็กไม่กล้าพูด ก็ทักทายคุณครูด้วยภาษาอังกฤษได้
เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว พงค์เจริญ มาโรงเรียนแต่เช้า พบคุณครู
ก็บอกว่า"ครูครับ วันนี้ที่ข้างบ้านผม มีงานทำบุญ ผมจะไปช่วยงานเขา แต่ผมมาช่วยคุณครูทำความสะอาดห้องก่อน"
น้องเบนซ์ น้องโสพิศ น้องพงศ์เจริญ
คณะกรรมการกำลังเยี่ยมชม ประเมินห้องสมุดค่ะ