การเชื่อมโยงเครือข่ายคนกาฬสินธุ์ ระหว่าง ตระกูล ภูพวงเพชรและอำนาจ แสงสุข


คำว่า เครือข่าย เคยมีผู้ให้ความหมายว่า คือ ขบวนการทางสังคมอันเกิดจากการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล กลุ่ม องค์กร สถาบัน โดยมีเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และความต้องการบางอย่างร่วมกัน ร่วมกันดำเนินกิจกรรมบางอย่างโดยที่สมาชิกของเครือข่าย ยังคงความเป็นเอกเทศไม่ขึ้นต่อกัน

 

คุณอำนาจ แสงสุข หรือ น.เมืองสรวง ชาวตำบลหนองสรวง อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ผู้ที่มีแนวคิดหลายอย่างที่อยากจะพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดให้เจริญยิ่งกว่าเดิม แต่ด้วยข้อจำกัดที่ต้องไปทำงานต่างถิ่น จึงมีแนวคิดสร้างเครือข่ายของกลุ่ม โดยการประสานงานกับพรรคพวก ซึ่งอยู่คนละจังหวัด เพื่อสร้างความฝันร่วมกัน



(คุณอำนาจ แสงสุข ขณะกำลังกลิ้งล้อยาง)

รวมกลุ่มจนพัฒนาเป็น ชมรมอาสาพัฒนาหนองสรวง และกลายเป็นกองทุนศิษย์เก่าตำบลหนองสรวง, และ สคถ.หนองสรวงตามลำดับ  กลุ่มของอำนาจ แสงสุข เคยเปิดเวบไซต์หนองสรวงดอทเนต เมื่อช่วง 2547-2548 ที่ผ่านมา

 

จากการที่มีโอกาสได้ใช้ อินเทอร์เนตจนสามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมทางอย่างต่อเนื่อง และท่องเวบค้นคว้าหาข้อมูลไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ได้แวะเวียนเข้าไปในเวบไซต์ www.kalasinnews.com  เวบไซต์ข่าวของกาฬสินธุ์ ซึ่งได้จัดทำเป็นเวบไซต์ท่า เป็นประตูสู่แหล่งข้อมูลของกาฬสินธุ์ที่มีนักท่องเวบไซต์รู้จักเป็นอย่างดี

 

และทำ ให้อำนาจ แสงสุขมีโอกาสได้รู้จักกับเวบมาสเตอร์เจ้าของเวบไซต์แห่งนี้ คุณตั้ม ตระกูล ภูพวงเพชร ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์

Kalasin Webmaster Club.
Kalasin Webmaster Club.

เมื่อมีโอกาสติดต่อกันทางโทรศัพท์ ทั้งคู่จึงทำความสนิทสนมคุ้นเคยกันอย่างรวดเร็ว ในฐานะคนจังหวัดเดียวกัน คุณอำนาจ ได้พยายามเชื่อมโยงเครือข่าย ทันที โดยสอบถามว่า รู้จักกับเพื่อนของเขาหรือไม่

เพื่อนคนนั้น หมายถึง นายบอน! คนที่เขียนบันทึกนี้นั่นเอง

แต่คุณตั้มบอกว่า ไม่ทราบ เพราะคุณอำนาจ ถามไปว่า รู้จักนายอาษา อาษาไชยรึเปล่า ใครจะไปรู้จักล่ะครับ ถ้าถามว่า รู้จักนายบอนหรือเปล่าคงจะพอนึกออกบ้าง

 

ความจริง นายบอนนั้น คุ้นเคยกับคุณตั้มพอสมควร ยิ่งในช่วงที่คุณตั้ม รวบรวมสมัครพรรคพวกก่อตั้ง ชมรมเวบมาสเตอร์จังหวัดกาฬสินธุ์ ในปี 2547 ซึ่งมีการประชุมกันหลายครั้ง จนถึงการจดทะเบียนตั้งเวบไซต์ www.kalasinwebmaster.com ใน ปีนั้น และได้มีการออกแบบโลโก้ รวบรวมแนวคิดและข้อเสนอต่างๆไว้มากมาย เปิดกระดานข่าวเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งนายบอนก็ได้เข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ตั้งประเด็นหลายประเด็น เพื่อสร้างบรรยากาศ

ความจริงแล้ว นายบอนมีเพื่อนที่ทำงานในวิทยาลัยสารพัดช่างกาฬสินธุ์ คือ อ.โอ๋ ชัยวุฒิ ซึ่ง อ.ตั้ม ก็พยายามประสานให้นายบอนได้พบกับ อ.โอ๋ แต่ก็ไม่ได้พบกันเสียที เพราะนายบอนไม่ยอมโผล่หน้า

 

ความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะทำสิ่งดีๆเพื่อบ้านเกิดของ อ.ตั้ม ตระกูลนั้น มีอย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ แต่ได้ทำออกมาในรูปแบบของการเปิดเวบไซต์ข่าวกาฬสินธุ์  และพยายามกระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆของกาฬสินธุ์มีเวบไซต์เพื่อนำเสนอข้อมูล ของตนเอง ซึ่ง อ.ตั้มได้เข้าไปช่วยเหลือในด้าน เทคนิค เข้าไปออกแบบและจัดทำเวบไซต์ของหลายหน่วยงานราชการของกาฬสินธุ์ เป็นหนึ่งในผู้ผลักดันในเรื่องของ ICT ของจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีทีมงานเครือข่ายเวบมาสเตอร์ที่สนิทสนมคุ้นเคยกันดี เช่น เวบมาสเตอร์ของตำรวจภูธรกาฬสินธุ์, สำนักงานจังหวัดกาฬสินธ์, ราชมงคลกาฬสินธุ์ ฯลฯ

ปีที่แล้ว หลังจากที่ อ.ตั้ม ติดต่อกับนายบอนทาง MSN ได้คุยกันบ่อยๆ แล้วนายบอนก็ขาดหายการติดต่อไปเลย  ได้แต่แวะเวียนเข้ามาดูเวบไซต์ของ อ.ตั้มบ้าง ตามเวลาที่อำนวยให้..

.ตั้ม ได้สร้างเครือข่ายคนใช้อินเทอร์เนตของเขาได้กลุ่มหนึ่ง และมีแนวคิดที่อยากจะทำสิ่งดีๆให้กับกาฬสินธุ์อีกครั้ง ซึ่งได้ถ่ายทอดแนวคิดให้คุณอำนาจ แสงสุขทางโทรศัพท์ไปแล้ว ว่า อ.ตั้ม มีโอกาสคุยกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และท่านก็เห็นชอบด้วยกับแนวคิดของ อ.ตั้ม จนถึงขั้นจะสนับสนุนด้านงบประมาณในขั้นตอนต่อไป…..

 

แต่จากสิ่งที่ได้มีโอกาสพบเห็นปัญหาและอุปสรรคของเครือข่าย อ.ตั้ม และคุณอำนาจ แสงสุข  ดูแล้วเครือข่ายที่ก่อตัวขึ้นมานั้น ยังไม่เกิดการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพมากนัก เพราะสมาชิกเครือข่ายหลายท่าน มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง จึงมีส่วนร่วมในกิจกรรมของเครือข่ายได้ เท่าที่จะอุทิศเวลาให้ได้….

เพราะความคิดในสมองนั้น จะคิดออกมาให้สวยหรูอย่างไรก็ย่อมได้ แต่การลงมือทำนั้น ดูเหมือนจะยากจริงๆ

 

แต่เมื่อเจอปัญหา อุปสรรคแล้ว หากมีแนวคิดอุดมการณ์ที่แน่วแน่ มั่นคง ย่อมจะแสวงหาแนวทางที่จะทำให้สิ่งที่คิดไว้นั้น เกิดขึ้นได้จริง ภายใต้ข้อจำกัดและเงื่อนไขที่มีอยู่ในปัจจุบัน….

คุณอำนาจ แสงสุข พยายามจะเชื่อมโยง อ.ตั้ม กับนายบอนเพื่อเป็นเครือข่ายและทำงานร่วมกันในอนาคต เพราะมองเห็นว่า แต่ละคนก็มีแนวคิดและอุดมการณ์ที่ดีอยู่แล้ว

แต่สำหรับนายบอนแล้ว อยากเห็นการทำงานแบบเครือข่ายที่สามารถทำงานแบบ ประสานพลังมากกว่า เพราะนายบอนคนเดียว ไม่สามารถจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นมาได้ อยากให้สมาชิกในเครือข่ายที่มีอยู่ เกิดการร่วมมือกันทำ และแบ่งงานกันทำ, เกิดการแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์ แรงบันดาลใจ ทักษะต่างๆ ช่วยเหลือกันในรูปแบบต่างๆ

ถ้าสามารถเกิดขึ้นมาได้จริงๆ นายบอนก็จะโผล่ไปพบ อ.ตั้มและทีมงานเองแหละครับ

หมายเลขบันทึก: 34316เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2006 12:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

โอ้ อ่านแล้วถึงกับอึ้ง ยังจำเนื้อหาของการสนทนามาลงได้ขนาดนี้ นับถือๆ และฝากแก้ด้วยนะครับ ผมไม่ได้ทำหน้าที่สอน อย่าเรียกว่าอาจารย์เลย เรียกว่าตั้ม ก็พ่อ หรือท้าวคำไหลแห่งเมืองน้ำดำก็ได้ครับ เป็นฉายาที่คนสนิทตั้งให้ครับ

 ถือว่าข้อความข้างบนเป็นเนื้อหาที่สมบูรณ์และเป็นจริงเกือบ 100% ครับ

"จงเป็นผู้ปฏิบัติมากกว่าการประสานพลัง "  การประสานพลังเป็นสิ่งที่ดี แต่หากพวกเราร่วมมือกันเรียกว่า " แนวร่วม" การพัฒนาเครือข่ายในรูปแบบการประสานความร่วมมือระหว่างกัน เรียกว่า " การเข้าใจ  การเข้าถึง  และร่วมพัฒนา    แรงบันดาลใจนั่นแหละที่เพื่อนเรียกถูกต้อง  แต่เพื่อนต้องเข้าใจและเข้าถึง ตอนนี้เพื่อนเข้าใจแต่ยังไม่เข้าถึง....... งง..หรือเปล่า  วิชาเกินไปหน่อยนะเพื่อน.....

........การทำงานรูปแบบพวกเราคือ " พลังขับเคลื่อน " นำแนวคิด ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ สู่กระบวนการกลั่นกรองโดย " คนในจังหวัดกาฬสินธุ์ " แล้วให้คนกาฬสินธ์ใช้ข้อมูลนั้น ๆ ให้เกิดประโยชน์นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้น มิใช่ว่าเราเป็นผู้จัดกระทำ.....แล้วนำผลที่ได้จากการแสดงความคิดเห็นให้ Link ไปที่คณะกรรมการพัฒนาจังหวัดเป็นผู้ตัดสินใจในเนื้อหาและข้อมูลที่เกิดขึ้น แต่ต้องเป็นในรูปแบบ ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม   การพัฒนานี้เรียกว่า "การพัฒนาแบบต่อยอด.....ต่อเติม...เติมเต็ม...สานต่อ....เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.......

แต่ในสภาพความเป็นจริง คนที่ลงมือทำจริงๆจังๆ  หายาก!!

" จงอดทน......นะเพื่อนคาดหวังว่าจะมีสักวันที่อนุชน...รุ่นหลังจะเห็นคุณค่าของเขาเอง..เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่นตนเอง....แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะหยิบชิ้นงานนี้นำออกมาใช้...และปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นของตนเอง...............พวกเราคือผู้สร้าง..หรือผู้ที่เป็น "พลังขับเคลื่อน" จงทำดีต่อไป ตราบใดที่ยังมีอุดมการณ์นะเพื่อน...................

 มี...นิทานที่เป็นเหตุการณ์จริง...เมื่อปลายปี งบประมาณ 44-45   เราไปศึกษาดูงานที่จังหวัดหนึ่งของภาคตะวันออกนะ  มีหญิงชราสูงวัยอายุราว 50-60 ปี จูงหลานอายุประมาณ 9 ขวบ เดินเล่นอยู่ชายทะเล....แล้วพวกเราและคณะเข้าไปทักทาย.เลยถามว่า พ่อแม่หนูน้อยไปไหนล่ะ  หญิงชราตอบว่า ... ไปหาปลาโน้นอยู่ทะเลโน้นแหละ  ...ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นว่า " ตั้งใจเรียนนะนังหนู " .....โตขึ้นจะได้สบาย นี่แหละปริญญาตรี/โท/เอกก็อยู่ใต้ท้องทะเลนี้แหละ......... พวกเราได้ยินแล้วขนลุกเลย...... นิทานเรื่องเรื่องสอนให้รู้ว่า.........................................

ตอนนี้ผมก็ยังทำเว็บ http://www.kalasinnews.com/ อยู่ครับ และจะทำต่อไป เพื่อชาวกาฬสินธุ์ครับ ด้วยสโลแกนที่คุณพ่อ "ลุงหนวด" ถ่ายทอดให้ครับ "เพื่อสังคม  วัฒนธรรม  แหล่งท่องเที่ยว" ยังไงยังเป็นส่วนหนึ่งที่จะคอยให้ความช่วยเหลือชาว it กาฬสินธุ์ทุกท่านครับ
ขอบคุณตั้มที่แวะมาเยี่ยม
พี่ยังแวะเวียนเข้าดู http://www.kalasinnews.com/ อยู่เรื่อยๆ เด้อ

เข้ามาพูดคุยกันในเว็บบอร์ด คนบ้านเดียวกัน ได้นะครับ

พี่บอน ยังสบายดีนะครับ

สบายดีครับ ตั้ม

ว่างๆจะแวะเข้าไปคุยละกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท