การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ


                การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวีจารณญาณ   กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้บทความและนิทาน  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒  ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน  ๗๕/๗๕  และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านอย่างมีวิจารณญาณก่อนเรียนและหลังเรียน  ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวีจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  โดยใช้บทความและนิทาน   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒

                 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒/๑  โรงเรียนจอมพระประชาสรรค์  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต ๑  จำนวน  ๔๒  คน  ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ   กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  โดยใช้บทความและนิทาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ  มีค่าดัชนีความยากตั้งแต่  .๒๐ - .๘๐  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล   ได้แก่  ค่าเฉลี่ย  ค่าร้อยละ  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่า  t

ผลการวิจัยพบว่า

                ๑.  แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวีจารณญาณ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้บทความและนิทาน  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ  ๘๓.๖๕ / ๘๘.๑๐ 

สูงกว่าเกณฑ์ที่ที่กำหนดไว้คือ  ๗๕ / ๗๕

                ๒.  นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ     กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย  โดยใช้บทความและนิทาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  ๒  หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน  อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  . ๐๑

 

หมายเลขบันทึก: 342698เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2010 09:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 21:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

การอ่านอย่างมีวิจรณญาณก็ม๊ประโยชน์นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท