ย้อนมอง R2R ผ่านการพูดคุยกับแม่พลอย


เมื่อวานแม่พลอย แวะมาคุยด้วย เราได้พูดคุยกันเรื่อง R2R จากที่ได้ติดตามข้าพเจ้าไปร่วมกระบวนการที่ เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ R2R ณ โรงพยาบาลป่าติ้ว ซึ่งเธอได้เขียนไว้ที่ แด่เดือนแห่งความรักไหววน...เวียนในทุกอณูหนแห่ง เราได้พูดคุยกันในประเด็นของการขับเคลื่อนและบรรยากาศ เราสองคนต่างจริตคล้ายคลึงกันที่ชอบในบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสุข สบาย ไม่เคร่งเครียด อาจเป็นเพราะว่าเรานั้นต่างห่างไกลความเป็นนักวิชาการ แต่เราต่างเป็นนักเรียนรู้ที่ซึมซับความงดงามแห่งภายในของคนหน้างาน ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ได้มาพบเจอคนที่จริตคล้ายคลึงกัน

อาจรู้ไม่เร่งรีบ แต่เราก็มีความสุขในสิ่งที่เราทำ แม้ว่าปัญหาและอุปสรรคจะมีมากเพียงใดก็ตาม ด้วยความที่เราค่อยๆ ก้าวย่างๆ นั้นทำให้เราได้มองเห็นรายละเอียดระหว่างทาง เหนื่อยเราก็พัก มีแรงเราก็ก้าวเดินต่อ

แม้บทสนทนาจะสิ้นสุดลง...

แต่ข้าพเจ้าก็ใคร่ครวญต่อไปว่า อะไรนะที่ทำให้ผู้คนลุกขึ้นมาทำ และก็หายไป และอะไรที่ยังทำให้ผู้คนบางกลุ่มยังทำต่อไป และมองเห็นเป็นความดีความงามของงานที่ยังต้องทำ R2R ต่อไป

และเมื่อเช้านี้ข้าพเจ้าได้ปิ๊งแว๊ป ขึ้นมาประเด็นหนึ่งว่า...

ความยากง่ายของการทำ R2R นั้น จะแตกต่างกันไปตามหน้างานของตนเอง

อย่างงานสนับสนุน... หน้างานก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง งานที่มีความซับซ้อนดั่งเช่น แพทย์ พยาบาล และวิชาชีพต่างๆ ความเข้มข้นของงาน R2R ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง แตกต่างกันไปตามบริบทหน้างาน ทำให้ข้าพเจ้าหวนคิดไปถึงการขับเคลื่อน R2R จากการที่ได้อ่านบันทึกของ อ.หมอวิจารณ์ ใน ชีวิตที่พอเพียง : ๙๔๙a. ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน R2R สุขภาวะไทย ซึ่งจากประสบการณ์ที่ได้รับโอกาสเข้าไปร่วมรับรู้และได้เรียนรู้ร่วมกับการขับเคลื่อนของ สวรส. และคณะทำงาน R2R ประเทศไทยนั้น ประเด็นมักพุ่งตรงไปที่กลุ่มบางกลุ่มหรือเปล่านะ แต่...กลุ่มคนทำงานที่เป็นถือว่ามีจำนวนมาก ที่อยู่ในระดับพื้นที่ เราละลืมกลุ่มเหล่านี้หรือเปล่า เช่น บุคลากรสาธาณสุขที่ทำงานชุมชนต่างๆ เหล่านี้น่าจะเป็นแกนกำลังสำคัญของการตะลุยลงไปในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนงานสาธารณสุข

แต่...คนกลุ่มนี้อีกเช่นกันที่ได้รับโอกาสน้อยกว่า กลุ่มอื่นเมื่อเปรียบเทียบกันในวงการงานสาธารณสุข

แนวคิดการผลักดัน R2R ในความรู้สึกของข้าพเจ้า มองว่าเป็นเรื่องที่เริ่มยากขึ้น โอกาสของคนหน้างานที่เป็นคนตัวเล็กๆ มีโอกาสได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้น้อยลง เพราะความหรูหราอลังการของงานวิชาการมีมากขึ้นหรือเปล่าไม่แน่ใจ...?

คุณค่า...การขับเคลื่อนงาน R2R อยู่ตรงไหนนะ?

อยู่ที่เราปรารถนาให้คนหน้างานมีความเก่งและชำนาญทางวิชาการมากขึ้นหรือเปล่านะ? หรือเราปรารถนาที่อยากผลักดันและส่งเสริมให้คนหน้างานคิดเป็น และเป็นการคิดอย่างมีความสุข การคิดอย่างมีความสุขจะทำให้คนคิดเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น และเมื่อใดที่คิดเชิงสร้างสรรค์มากขึ้น การคิดอย่างเห็นแก่ตัวก็จะน้อยลง ...

หรือว่าอย่างไร...นะ?

 

Sati_resize 

คำสำคัญ (Tags): #km#r2r
หมายเลขบันทึก: 339819เขียนเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2010 09:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สมแล้วที่เป็นเดือนแห่งความสุข เมื่อวานคุณคำผิว ลงมาข้างล่าง มาถามว่าพี่ อาจารย์จะมาอีกวันไหน  คงเพราะพวกเรามีความสุขในบรรยากาศ แห่งการเรียนรู้  กะมังหรือตกหลุมรักอาจารย์โดยไม่รู้ตัว ได้เห็นรอยยิ้ม ของคำผิวกับผลการแก้ไขเรื่องความปลอดภัยในการให้บริการรถเข็นของทีม ว่าไม่มีอุบัติการณ์แล้วครับ   พวกผมจะเอ๊ะเรื่องใหม่อีก รู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นทีมเปล ให้บริการด้วยมิตรภาพที่แสดงให้เห็นด้วยแววตาแห่งความสุข เห็นเมื่อขึ้นไปรับบริการที่ OPD  นึกถึงยามใดแล้วยังอดยิ้มไม่ได้  ไม่เพียงที่ OPD เท่านี้ ลงมาข้างล่างอย่างจ่ายกลาง และซักฟอก หน่วยสนับสนุนทีมเรายังทำงานพร้อมกับเสียงหัวเราะเพราะน้องทัยเป็นคนพูดเองว่า เอ๊ะ!...ทำไมทุกวันนี้ ไปที่ไหน  มีแต่เสียงหัวเราะๆ .....( ที่แน่ๆน้องทัยได้รับฉายาว่าเป็นเสือยิ้มยาก ตาดุ บ้าง ) คงอาจจะเป็นเพราะความสุขที่เราได้สัมผัสบรรยากาศวิชาการแห่งความเรียบ และง่าย หรือถูกจริตคนอย่างพวกเราชาวป่าติ้ว และทุกครั้งที่ได้เจออาจารย์ จะได้อะไรที่เกินความคาดหมายทุกครั้ง เพื่อสอดแทรก ให้เราได้ฝึกจิตไปพร้อม........ความสุขที่พวกเราได้รับขอฝากส่งไปยังท่านทั้งสอง ผู้ได้แบ่งปัน ให้เราได้สุข...................... 

 

 

แวะมาเยี่ยมนะคะ ....ขอต่อจากคุณอุ้มบุญ นิดหนึ่ง ....เดือนความสุขจะสิ้นลงทางสมมุติ เดือนขัดแย้งจะเข้ามาแล้ว เพราะว่าจะประเมินความดีความชอบ ความไม่ดี ความไม่ชอบคะ สมรรถนะไม่ลำบาก (สมรรถหนัก-ใจมากนิดหนึ่ง) สงสารคนทำงาน ที่ถูกเบียดบังเวลางานไป ทำสิ่งปรุงแต่งกันมากๆขึ้นทุกๆๆๆวัน แก่นมีน้อยลงรึเปล่า กระพี้เยอะขึ้นมากๆ มองลงกลางใจคะ เห็นด้วยกับบทความ ดร.กระปุ๋มนี้มกๆๆ R2R มีสูตรใส่สูท แล้วมั่งคะ ตอนนี้ อันนี้เขาเรียกวิวัฒน์หรือเปล่า ไม่แน่ใจจจจจจจจจจจ

ดีค่ะ คุณฮูโต๋

คนหน้างานอย่าง พวกเราหาได้ใส่ใจ ในเรื่องความดี หรือความชอบ...ไม่  ขอเพียงแต่ให้เราได้สุขจากการทำ สุขจากงานที่เรารัก ก็น่าจะพอเพียง และควรจะยั่งยืนด้วยจริงมั๊ย จะเดือนร้อน เดือนทมิฬ  แม้นโยบายที่มีมาใหม่ก็สามารถปฏิบัติตามได้อย่างไม่หนักหนาอันใด  โดย....เพียงเราไม่นำมาเป็นอารมณ์ ให้หนัก  และให้มันมากัดกร่อนที่ใจของเราด้วยเรื่องพรรณนี้......ซึ่งให้เป็นสิ่งที่ขอข้ามผ่าน การจัดการเรื่องใดๆด้วยใจที่เบาสบายก็น่าคลายได้  แต่ที่แน่ๆหากเราเปลี่ยนวิธีคิด แล้วเราจะเลือกทางที่ทุกข์หรือจะเลือกทางแห่งความสุขหล่ะ  เราสามารถเลือกและสร้างได้ด้วยตัวเรา  เพื่อที่ให้ทุกๆเดือนต่อจากนี้ไป  ยังเป็นเดือนแห่งความสุขเสมอ...... ขอเป็นกำลังใจค่ะ  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท