การใช้เหยื่อพิษกำจัดแมลงสิงศัตรูถั่วฝักยาว
เกษตรกรปลูกถั่วฝักยาว ประสบปัญหาแมลงสิงเข้าทำลายฝักถั่วทำให้เกิดความเสียหายไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตบริโภคและจำหน่ายได้ ทำให้เกษตรกรขาดทุน
ลักษณะ
แมลงสิง เป็นศัตรูพืชชนิดหนึ่งเป็นแมลงปากเจาะดูด ที่ระบาดในนาข้าว และพืชผักโดยเฉพาะพืชตระกูลถั่ว แมลงสิงที่เป็นศัตรูของถั่วฝักยาว ลำตัวจะโตและยาวกว่าแมลงสิงที่ระบาดในนาข้าว มีสีน้ำตาล และเป็นศัตรูพืชที่ชอบเนื้อเน่าเหม็น
ลักษณะการทำลาย
การทำลายของแมลงสิง จะเจาะดูดกินน้ำเลี้ยงของเมล็ดฝักถั่วตั้งแต่ฝักยังอ่อน ทำให้เมล็ดลีบฝักถั่วจะลีบและแห้งในที่สุด ส่วนแมลงสิงที่ระบาดในนาข้าวจะเจาะดูดกินเมล็ดข้าวตั้งแต่ข้าวระยะเป็นน้ำนมทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งรวง
การป้องกันกำจัด
การป้องกันกำจัดแมลงสิง โดยการใช้สารเคมีชนิดดูดซึมฉีดพ่นให้ทั่วแปลง ทุกๆ 7 วัน แต่การใช้สารเคมีเป็นอันตรายต่อเกษตรกรและผู้บริโภค
การผลิตเหยื่อพิษ
การกำจัดแมลงสิงโดยวิธีปลอดภัยทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค โดยวิธีการใช้เหยื่อพิษเบื่อแมลงสิง โดยเกษตรกรไม่ต้องฉีดพ่นสารเคมีในแปลงถั่วและนาข้าวแต่อย่างได
วิธีทำ
1. ใช้เนื้อ หมู หรือ วัว หรือเนื้ออื่นๆ ที่ราคาถูกกว่า ตัดเป็นชิ้นขนาด 2 × 2 นิ้ว ผูกเชือกสำหรับแขวน และนำก้อนเนื้อใส่ภาชนะเปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน จนเนื้อมีกลิ่นเหม็นเน่า
2. นำมาก้อนเนื้อมาคลุกเคล้ากับสารเคมี แลนเนท และทิ้งไว้ 1 คืน อัตราการใช้ เนื้อ 3 ชิ้น ต่อสารเคมี 1 ช้อนโต๊ะ (มากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้เพราะ แลนเนท เป็นสารเคมีที่ไม่มีกลิ่น มีความเป็นพิษสูง เกษตรกรทั่วไปเรียกว่า “ยาน็อคหนอน” )
3. นำเหยื่อพิษที่ได้ไปแขวนไว้บริเวณภายในแปลงผัก โดยเน้นบริเวณรอบนอกแปลงผักให้มากที่สุด เพื่อล่อแมลงสิงภายในแปลงออก แมลงสิงเป็นแมลงศัตรูพืชที่ชอบเนื้อเน่า จะเข้ามาเจาะดูดกินก้อนเนื้อที่ผสมสารเคมีและจะตาย
สรุป
การใช้เหยื่อพิษกำจัดแมลงสิง สามารถใช้ได้ทั้งในแปลงผักและในนาข้าว ทำให้เกษตรกรลดการฉีดพ่นสารเคมี มีความปลอดภัยต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ผลผลิตปลอดภัยจากสารพิษ ลดต้นทุนการผลิต แมลงศัตรูธรรมชาติและสภาพแวดล้อมไม่ไม่ถูกทำลาย
................
หวัดดีครับ
>>
แลนเนท เป็นชื่อทางการค้าของเม็ทโธมิล (Methomyl) ซึ่งเป็นสารเคมีกำจัดแมลงชนิดหนึ่งในกลุ่มคาร์บาเมต ใช้ในการป้องกันกำจัดแมลงที่เป็นศัตรูพืชได้หลายชนิด
ลักษณะทั่วไปทางวิทยาศาสตร์ของแลนเนท จะเป็นผลึกของแข็งสีขาว มีกลิ่นกำมะถันเจือจาง มีความเสถียรในสภาพที่เป็นของแข็งมากกว่าสภาพที่เป็นด่าง และสามารถสลายตัวได้ดีในสภาพที่มีอุณหภูมิสูง หรือในสภาพที่เป็นด่าง รวมถึงสามารถสลายตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่ออยู่ในดิน ซึ่งเพราะแลนเนทมีสีขาวคล้ายเกล็ดของน้ำตาล ดังนั้น ปัจจุบันผู้ผลิตจึงต้องผสมสีเข้าไป เช่น สีน้ำเงิน เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในการนำไปใช้งาน คุณสมบัติหนึ่งของแลนเนทก็คือ มีกลิ่นน้อยมาก อีกทั้งยัง ละลายน้ำได้ ซึ่ง 2 จุดนี้ถือว่าต้องระวัง
แลนเนทเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะก่อเกิดกระบวนการเมตาบอลิซึม ซึ่งบางส่วนจะถูกขับออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว แต่บางส่วนที่หลงเหลือตกค้างอยู่ในร่างกายและตามเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ จะ ก่อให้เกิดพิษโดยมันจะไปขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ Cholinesterase และส่งผลกระทบต่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาการเริ่มแรกจะอ่อนเพลีย เหงื่อออกมาก ตาพร่ามัว ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก ม่านตาหรี่ และกล้ามเนื้อชักกระตุก จากนั้นอาจเกิดอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง เกิดอาการชัก และหมดสติ
เนื่องจากสารเคมีกำจัดแมลงชนิดนี้เป็นยาที่หาซื้อได้ง่าย จึงสะดวกต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ง่ายกว่าสารเคมีกำจัดแมลงชนิดอื่น ๆ ทางผู้เชี่ยวชาญระบุ นี่แหละทำให้ แลนเนท เป็น ยาพิษฆ่าคนได้
<<
ที่มาของข้อมูล : คอลัมน์สกู๊ปข่าวหน้า 1 หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2551