สัมมนากลุ่มย่อย ภาครัฐเกี่ยวกับ กฎหมายธุรกรรมทางอิเล็กทรอกนิกส์
และความจำเป็นในการปรับแก้เพื่อตอบโจทย์ภาครัฐ
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2553
สืบเนื่องมาจากการปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งตาม มาตรา 3 ของพรบ ฉบับนี้ให้ใช้บังคับแก่ธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์ที่ดำเนินการโดยใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เว้นแต่ธุรกรรมที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดมิให้นำพระราชบัญญัตินี้ทั้งหมดหรือ แต่บางส่วนมาใช้บังคับ
งานนี้จัดโดย สำนักธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยมีการระดมความคิดเห็นจากหลากหลายภาคส่วนเช่น ภาครัฐ และภาคประชาชน
ประเด็นหลักๆ ที่สมควรมีการปรับแก้เพื่อให้ตอบโจทย์ ภาครัฐเช่น
ในเรื่องนี้ อาจมีการจัดตั้งเป็นองค์กรมหาชน ก็อาจจะเป็นไปได้
ความเห็นจากอาจารย์ จรัญ ภักดีธนากุล ตามาตรา 10 วรรค4 ที่ได้มีการแก้ไขใหม่นั้นในเรื่องการรับรองสิ่งพิมพ์ออกโดยหน่วยงานที่มีอำนาจตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดแล้ว ให้ถือว่าสิ่งพิมพ์ออกดังกล่าวใช้แทนต้นฉบับได้ ซึ่งคำว่า หน่วยงานที่มีอำนาจตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดแล้ว นั้นยังไม่มีหน่วยงานใด ที่มีอำนาจในการประกาศ ก็ต้องติดตามต่อไป ว่าหน่วยงานใดที่จะมีอำนาจตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ซึ่งบางทีอาจใช้หลักการที่ว่า หน่วยงาน หรือระบบข้อมูลดังกล่าวเป็นของใคร ก็ให้องค์กรนั้น ๆ เป็นคนรับรอง เป็นต้น หรืออาจเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถก็อาจเป็นไปได้
ความเห็นจากคุณวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ
ให้ความเห็นว่า เรื่อง print out นี้เป็นเรื่องสำคัญ อาจจะต้องกลับมาใช้หลักการทั่วไป ก็คือ คนที่ออก print out ออกมาก็ควรรับรองเอกสารprint out นั้นด้วย ถ้าจะมองจากมุมมองในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล และความมั่นคงทางด้านความปลอดภัย
ความเห็นจากอาจารย์เดชอุดม ไกรฤทธิ์
อาจารย์นำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบกับทางด้านประเทศสิงคโปร ที่มีความน่าเชื่อถือของข้อมูล ของ CIA หรือไม่ก็ควรมีการ ลงทะเบียนแสดงความเป็นตัวตน บนอินเตอร์เน็ต เป็น Netizen เพื่อให้เกิดการมีตัวตนจริงๆ ของมนุษย์บนอินเตอร์เน็ต อีกทั้งยังช่วยเรื่อง การรับฟังพยานหลักฐานในศาล อีกด้วย
ประเด็นจากปัญหาการรับฟังพยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์
ความเห็นจากอาจารย์ จรัญ ภักดีธนากุล
ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ เรื่องการรับฟังเป็นพยานหลักฐาน ว่าในเรื่องนี้ควรมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ให้ทันสมัยอยู่เรื่อยๆ ทั้งในตัวกฎหมาย เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ
และตามมาตรา 11 ก็ได้ระบุไว้แล้ว ว่า ห้ามมิให้ปฏิเสธการรับฟังข้อมูลอิเล็กทรอกนิกส์เป็นพยานหลักฐานในกระบวนการพิจารณาตามกฎหมายเพียงเพราะว่าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในเรื่องนี้ที่น่าจะมีปัญหาตรงที่ ตามมาตรา 3 เพราะว่า พรบ นี้ให้ใช้บังคับเฉพาะ ธุรกรรมในทางแพ่งและพาณิชย์เท่านั้น
มุมมองเกี่ยวกับ e-government ในหมวด 4
ตามมาตรา 35 ที่กล่าวว่า ตามกฎหมายกับหน่วยงานของรัฐหรือโดยหน่วยงานของรัฐ ถ้าได้กระทำในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือตามหลักเกณฑ์…. ให้นำพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับ
นั้น มีการเสนอความเห็นในเรื่อง ขององค์กรอิสระของทางภาครัฐ ว่าอาจจะไม่เข้า ตามมาตรานี้หรือไม่ อาจต้องกลับไปแก้ไขคำนิยาม ตามมาตรา 4 เป็น หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐเป็นต้น
เรื่องการทำธุรกรรมของภาครัฐ
ในเรื่องนี้ ตามมาตรา 35นั้น อาจให้ทางกรมสรรพากร หรือกรมธุรกิจการค้า ออกมารับรองก็ได้ เพื่อให้เอกสารที่ออกมาใช้ได้ และสามารถรับฟังเป็นต้นฉบับ ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะต้องให้ความสำคัญ ถ้าเปรียบเทียบกับ กฎหมายของทางประเทศอังกฤษ มี evident Act ซึ่งมีการรับรองเอกสารจากบุคคลที่ถูกแต่งตั้ง เป็นต้น
ไม่มีความเห็น