โครงการฮาลาลและการคุ้มครองผู้บริโภคที่ทางคณะวิทย์ จาก ม.อ.ย. จัดขึ้นในวันนี้นั้นดูบรรยากาศแล้วครึกครื้นมากเลย มีผู้สนใจทั้งในและนอกรั้วมหาวิทยาลัยมาเข้าร่วมมากจัง กระทั่งชาวบ้านคนธรรมดา นักวิชาการ ตัวแทนจากองค์กรอิสระ รวมทั้งน้องๆ จากสถาบันการศึกษาทั้ง มัธยมต้นและมัธยมปลาย ทำให้ในห้องประชุมวันนอร์เต็มไปด้วยบรรยาการซักถามปัญหาใหม่ ที่บางคนยังคาใจ สินค้าโน่นใช้ได้ไหม แล้วของนี้ อาหารนี้กินได้ไหม แล้วทำไมบางกลุ่มบอกว่ากินได้ ปัญหาหลายๆข้อถูกจุดประกายทั้งที่มีการถามตรงและผ่านเศษกระดาษแผ่นเล็ก
โครงการฯ มีการจัดทั้งวันเลย ช่วงบ่ายนี้ก็จะเป็นการบรรยายของวิทยากรจากกรุงเทพ ส่วนข้างหน้าห้องประชุมจะเต็มไปด้วยเต้นของกินของใช้ที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ฮาลาล ที่จริงทางมหาลัยต้องเก็บไปทำการบ้านหรือต้องไปทำโครงการที่คล้ายๆ โดยเน้นผู้เข้าร่วมที่เป็นคนนอกรั้ว เพื่อจะได้ใช้เวทีนี้ในการแนะนำ แนะแนว สถานศึกษาของเราให้มากขึ้น ไม่ต้องใช้วิธีลงไปแนะแนวแต่ไม่มีการการันตีว่าเด็กจะมามากแค่ไหน แต่ถ้าทำอย่างนี็โอกาสมีมากครับ เด็กจะได้รู้จักสถาบันเรา ไหนผู้ปกครองก็มาดูด้วย ว่ากิจกรรมของรุ่นพี่ที่กำลังเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าลูกของเขาได้เข้ามาเรียนที่นี้แล้ว จะเป็นอย่าง สามารถพัฒนาด้านใดบ้าง
พยายามโชว์จุดแข็งให้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ทางมหาวิทยาลัยต้องจัดให้ทุกสาขาวิชาหรือคณะฯ ให้จัดโครงการทำนองนี้ จะได้เป็นรูปแบบหรือเป็นเวทีแนะแนว ม.อ.ย. ทางอ้อมด้วย (ถ้าเห็นด้วย ช่วยล็อคประเด็นลงที่ประชุมของสถาบันด้วย) 2010 ผ่านไปแล้วเดือนกว่า วิสัยทัศน์ที่เราตั้งเป้าว่าเป็นสถาบันระดับสากลมีความพร้อมกี่เปอร์เซ็นต์
เปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้ไกลกว่า เจริญกว่า และพัฒนาไปพร้อมๆ กัน แต่ถ้ารู้สึกว่าวิ่งไม่ค่อยคล่อง แซงไม่ขึ้น สถาบันต้องยกเครื่ององค์การแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องใช้ทฤษฎีและวิชาการมาช่วยแล้ว บทบาทการประเมินเดินไปพร้อมๆ หรือยัง หรือว่ายังใช้รูปแบบ ทรายแดนด์แอรอร์อยู่