มหาตมา (Mahatma)
ในตอนแรกที่ผู้เขียนศึกษาเรื่องมหาตมา คานธีผู้เขียนเข้าใจว่ามีเพียงท่านคนเดียวที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาตมา แต่เมื่อไปที่โรงเรียนกุรุกุล กังกรี เมืองหริดวาร ดิฉันได้ไปชมพิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่เป็นชื่อเดียวกัน จากภาพประวัติการก่อตั้งโรงเรียนพบว่ามหาตมา คานธีเรียกท่านสวามี ชรัดทนันท์ (Swami Shradhananda) ว่ามหาตมาเช่นกัน สวามีชรัดทนันท์มีความคิดชาตินิยม ต้องการสร้างโรงเรียนที่มีวิธีการสอนระบบกุรุกุลอินเดียโบราณขึ้น โดยยึดหลักการดำเนินงานของอารยา สมาชซึ่งไม่มีวรรณะ ไม่เชื่อในเทพเจ้า ทุกคนเท่าเทียมกัน มีผู้ที่ศรัทธาในแนวคิดของท่านและเป็นสมาชิกกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก
มหาตมา (Mahatma) มาจากคำสันสกฤตว่า mahātmā : mahā- “ยิ่งใหญ่” + ātmā “ชีวิต, จิตวิญญาณ” หมายความว่า “ผู้มีจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่”
กุรุกุล (Gurukula) เป็นคำสันสกฤต มาจากคำว่า Guru แปลว่า .”ครู” kul แปลว่า “ขอบเขต” มาจากคำว่า kula แปลว่า “ครอบครัวขยาย” เป็นโรงเรียนแบบหนึ่งของอินเดีย อาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ศิษย์อาศัยอยู่ในบ้านครู (guru) ที่เป็นอาศรม (ashram) อยู่ใกล้ครู เรียนรู้จากครูและรับใช้ครู
ระบบครู-ศิษย์ เป็นวิธีการถ่ายทอดความรู้จากครูไปสู่ศิษย์ของศาสนาฮินดู ศาสนาอื่นๆ ในอินเดียประยุกต์แนวคิดนี้เข้าไปใช้ในกรอบของศาสนาเชน พุทธ และซิกข์ ครูไม่รับค่าธรรมเนียมจากศิษย์ แต่ศิษย์มีวิธีตอบแทนครูหลังจากที่เรียนจบไปช่วงหนึ่ง หรือสำเร็จการศึกษาแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญู รู้คุณและเคารพครูด้วยการทำงานบางอย่างให้ครูตามที่ครูต้องการ วิธีการตอบแทนนี้เรียก กูรูดักชินา (Gurudakshina)
กุรุกุลในปัจจุบันรับนักเรียนแบบกินนอน นักเรียนใช้ชีวิตแบบพอเพียงไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมากนัก ไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ ไม่มี internet ให้ใช้ เช้า-เย็นนักเรียนได้ออกกำลังกาย ทำพิธีบูชาไฟเพื่อความสงบสันติสุขทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น นักเรียนมีความอดทน มีสุขภาพแข็งแรง มีจิตสาธารณะ ไม่ฟุ่มเฟือย มีสัมมาคารวะ น่าชื่นชมที่แนวคิดของสวามีชรัดทนันท์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาตมาอีกท่านหนึ่งได้มีการสานต่อมาจนถึงยุคปัจจุบัน อย่างน้อยปณิธานของท่านมีส่วนช่วยสร้างเยาวชนที่เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่มีความเข้มแข็งทางจริยธรรมและคุณธรรมให้กับสังคมอินเดีย แม้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็มีส่วนช่วยจรรโลงสิ่งที่ดีงามและพัฒนาให้สังคมคงอยู่ต่อไปในกระแสธารของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเข้ามารบกวนวิถีชีวิตของชาวอินเดียมากขึ้น
----------------------------
บอกกล่าว ข่าวแจ้ง
จากสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
ท่านที่สนใจจะเป็นนักศึกษาระดับปริญญาโท และร่วมทำงานเพื่อเรียนรู้กระบวนการวิจัยในด้านอินเดียศึกษา กรุณาสมัครด่วนในหลักสูตรวัฒนธรรมและการพัฒนา เอกอินเดียศึกษา ที่บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดลด่วน ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 โปรดเข้าชมรายละเอียดที่ www.lc.mahidol.ac.th หรือโทร 02-800-2308-14 ต่อ 3101, 3309
________________________________________
ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดี ๆ ครับ..ผมเห็นหัวข้อประเด็นน่าสนใจเลยเข้ามาดูครับ...
เรียน คุณโรจน์
ขอบพระคุณค่ะ หากมีอะไรที่สังคมไทยน่าจะได้เรียนรู้จากอินเดียจะนำมาแบ่งปันกันให้ทราบค่ะ