ขึ้นบ้านใหม่อาจารย์ปู(นิรันดร์ กุลฑานันท์)


ไม่เหมาะกับคนอย่างเรา อย่างเราชอบบ้านหลังเล็ก “แบบนกน้อยทำรังแต่พอตัว”

บ้านน้ำเพียงดิน

   30 มกราคม 2553 ได้ฤกษ์งามยามดีทำบุญขึ้นบ้านใหม่อาจารย์นิรันดร์

    ตั้งชื่อบ้านเพราะมาก “บ้านน้ำเพียงดิน” บ้านหลังใหญ่และสวยมาก ชอบนะ

    แต่...ให้เป็นเจ้าของเองคิดว่าไม่เหมาะกับเราหรอก อย่างเราชอบบ้านหลังเล็ก “แบบนกน้อยทำรังแต่พอตัว”

    เดินทางจากบ้านพักครูที่ร่องคำ ไปรับภาพวาดกับเด็กน้อย  แล้วเข้าเมืองร้อยเอ็ดหาร้านเข้ากรอบรูป ตรงดิ่งไปร้านที่ตลาดปรากฏว่าเขาปิดร้าน หรือว่าเรามาแต่เช้า เขายังไม่เปิดร้านก็ไม่รู้  

    อีกที่หนึ่งที่รู้คือร้านแถบห้าแยกกกโพธิ์ เจ้าของร้านใจดียิ้มออกมารับงาน บอกเรามาแต่เช้าเขายังกินข้าวเช้าอยู่ แต่ก็มาทำให้

    เลือกกรอบที่คิดว่าเรียบที่สุด เพราะอาจารย์ชอบอะไรที่ไม่ต้องหรูมาก (คิดเองจากประสบการณ์)     

    จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่เมืองบุรีรัมย์กว่าจะถึงก็เกือบเที่ยง (ออกจากบ้านตอน 8 โมงเช้า)

   โทรหาลักษณ์ก่อนเป็นอันดับแรกถาม “อยู่ไหน”

   ลักษณ์บอก “ตอนนี้ออกมารับนัดกับตุ๊ก ถ้ารู้จักบ้านก็เข้างานไปได้เลยเพราะที่งานมีเพื่อนรออยู่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าไม่รู้ให้รอก่อน แถวบ้านเจ้นาง”

    อย่างเราหรือจะรออยู่เฉย เข้าร้านสระผมดีกว่านั่งรออย่างไร้จุดหมาย กำลังจะไดร์ผมเพื่อนๆ บอกมาถึงแล้ว ผมก็ยังไม่แห้งจำเป็นต้องเป่าผมให้แห้ง “โถ...เรากะสวยซะหน่อยก็เลยต้องเป่าผมแค่ให้แห้งแล้วมัดอย่างเดียว สวยตายเลย”

              

                  นัดพาลูกสาวมาอวด                  เพื่อน ๆ ผู้มาร่วมงาน

    ถึงงานมีเพื่อรออยู่แล้วจริง อิ่งมากับลูก นัด เจ้นาง เจ้หมายกับลูกชาย ต้นมากับครอบครัวลูกและเมียมัน ดา  ยาหยี  รวมเรากับลักษณ์อีก 2 เลยต้องเพิ่มโต๊ะ มุมที่นั่งแดดก็ร้อน บ่ายโมงกว่าแขกเริ่มทยอยกลับเหลืออยู่ 3 โต๊ะ

                         

นักร้องคิวทองอย่างเรากับลักษณ์ก็ได้โอกาสจับไมค์ร้องเพลง ด้วยเห็นว่าแขกมีไม่มากแล้ว (เสียงเราเพราะนะ  แต่ไม่กล้าร้องตอนคนเยอะ....แค่นั้นเอง)

    สักพักก็ออกไปส่งเพื่อนกลับบ้านกัน อีกทีมหนึ่งไปต่อที่ร้านมอร์หน้าโรงเรียนอนุบาลนั่งกินน้ำกันไปคุยกันไปตามประสาคนไม่ค่อยได้เห็นหน้ากัน

    เสียงโทรศัพท์มา น้องฝนจากจุฬามาบอกว่ารอที่บ้านใหม่ 2 คนไม่มีเพื่อนคุยพี่ๆ เข้ามาหน่อย แวะซื้อต้นกวักมรกตต้นไม้มงคลคู่หนึ่ง มาให้อีกรอบไม้ (หลังจากที่ให้ของขวัญเป็นโต๊ะหินอ่อนสี่เหลี่ยม และหอบต้นจานชื่อรุ่นมาให้ปลูกและต้นอะไรก็ไม่รู้อีก 3-4 ต้น มาให้ก่อนหน้านี้แล้ว)

แขกกลุ่มสุดท้าย ถ้ายรูปกับพระครูที่เป็นพ่ออาจารย์ปู

    คุยกันสักพักแดดร่มลมตกทีมงานจากสารคามกลุ่มหนึ่งก็มาถึง  เสียงโปรดิวเซอร์เพลงคาราโอเกะ  (ชื่อเพราะนะ) พี่ไม่ร้องเพลงกันเหรอ แขกก็มีโต๊ะเรากับโต๊ะเขา 2 โต๊ะ  (เก็บตกและติดค้างจากตอนเที่ยง)  มีหรือจะรอไม่มีใครร้องเราร้องน่าจะดีกว่า สร้างบรรยากาศกันเถอะเรา  ได้ผลมีอาสาสมัครขึ้นมาร้องช่วยอีกเยอะ  (อาจเป็นเพราะทนฟังเสียงเราไม่ไหวก็ได้)  จากนั้นกลุ่มเราก็ครองไมค์เรื่อยมาจนจบรายการ เกือบ 5 ทุ่ม อาจารย์กลับไปนอนบ้านที่ราชภัฏ ส่วนเรา 3 สาว  (ไล นุ่น ลักษณ์) นอนที่ห้องนอนใหญ่เจ้าของบ้านซะเลย

    ด้วยบ้านใหม่ยังไม่มีมุ้งลวด ยุงเลยเล่นงานหนัก โดยเฉพาะคนแพ้ยุงอย่างนุ่นตุ่มเต็มแขน ของเรากัดจริงแต่ไม่ค่อยเป็นตุ่ม จริงๆมียาทากันยุงกันนะแต่ไม่ทาเพราะนอนหัวค่ำไม่มียุง ส่วนลักษณ์ปลอดภัยเพราะมีพัดลมช่วย แต่เรากับนุ่นเลือกที่จะไม่เอาพัดลมเลยแย่

    วันอาทิตย์อาจารย์แวะมากินกาแฟและเอาปาท่องโก๋กับข้าวเหนียวหมูปิ้งมาฝากอิ่มแล้วนั่งคุยกันสักพัก แล้วแยกย้ายกันไปทำภารกิจตัวเอง ถึงบ้านกาฬสินธุ์เกือบบ่าย 2 โมง

                                  

                 หน้าบ้านตอนเช้า 3 สาวกับเจ้าของบ้านอาจารย์ปูกับอาจารย์ตู่

หมายเลขบันทึก: 334150เขียนเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2010 18:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ศิริ........ขอบคุณนะที่เขียนถึง น้ำเพียงดิน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท