สมาธิ แม่เอ๊ย


สมาธิดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

สมาธิ

"สมาธิ คือความตั้งใจมั่น กำหนดจิตใจไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงสิ่งเดียว หรืออยู่ในอารมณ์เดียว

เท่านั้น  ครองสติให้รู้ตัวทั่วพร้อมว่าเวลานี้  วินาทีนี้กำลังทำอะไรอยู่ ใจกับกายไป

พร้อมกันด้วยกันอยู่กับปัจจุบัน ใจไม่คิดล้ำไปล่วงหน้า และไม่คิดย้อนไปข้างหลัง

ประคองสติ  รู้ให้เท่าทันปัจจุบัน หรือการเพ่งความสนใจกับที่ละสิ่ง คิดทีละเรื่อง

ไม่ฟุ้งซ่านคิดอะไรหลายๆอย่างภายในเวลาเดียวกัน"

 

ประโยชน์ของสมาธิ

     ๑. ช่วยให้ผู้ที่กำลังศึกษามีผลการเรียนที่ดี  มีความจำดีและเข้าใจในสิ่งที่ครูพูด

ได้ง่ายขึ้น

     ๒. เด็กจะเข้าใจคำสั่งสอนของคุณพ่อคุณแม่ได้ง่ายขึ้น  จะได้ไม่ฟังอะไรเข้าหู

ซ้าย ทะลุหูขวา

     ๓. ช่วยให้คนวัยทำงานปฏิบัติงานอย่างมีระบบระเบียบ  มีประสิทธิภาพเพราะไม่

สับสน  ไม่คิดอะไรปนเปหลายเรื่องในเวลาเดียว  วางแผนงานได้ดี  ลำดับความคิด

และความสำคัญของงานเป็น คิดเป็นระบบ  มีความจำดีขึ้น 

     ๔. ช่วยให้นักกีฬานิ่ง  เป็นผู้คุมเกม  ไม่ร้อนรน จดจ่ออยู่ในเกมส์ และมีโอกาส

ที่จะชนะคู่แข่งขันได้ไม่ยาก

     ๕. ช่วยให้หายเครียด  ไม่คิดฟุ้งซ่าน  หรือคิดหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน  จะคิด

ทีละเรื่อง จะไม่คิดย้อนหลังในสิ่งที่แก้ไขไม่ได้แล้ว และกังวลในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น

     ๖. สมาธิ  บางครั้งเป็นตัวช่วยชีวิต  เป็นเกราะกำบังหรือกำแพงขวางกั้นอันตราย

ใดๆ  ที่จะมากล้ำกราย  เช่นเวลาขับขี่ยวดยานพาหนะ  หรือกรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด

เข้าตาจน  ผู้มีสมาธิจะไม่แตกตื่นร้องโวยวายโดยไม่ยั้งคิด  และหาทางออกด้วยสติ

ปัญญาและไหวพริบ  สามารถนำชีวิตออกจากเหตุเภทภัยได้  นั้นคือ ส่วนหนึ่งของ

สมาธิ หรือการมีสติ 

    ๗.  สมาธิจะช่วยให้คุณมีบุคลิกภาพดี  เพราะถ้าคุณมีสมาธิ กับทุกอิริยาบถ

คุณจะรู้ว่าตอนนี้ คุณนั่งหลังคุณงออยู่   หลังคุณโก่ง   ไหล่คุณห่อ  คุณจะรู้

คุณจะแก้ไข  ให้ออกมาดูงามสง่าได้  เหยียดหลังให้ตรงได้ 

    ๘.  สมาธิจะช่วยให้คุณนิ่ง  ควบคุมอารมณ์ได้  ในยามที่โกรธหรือไม่พอใจ  ช่วย

ให้เข้ากับผู้อื่นได้ดี  และเมื่อมีคนมาทำร้ายจิตใจ  เราจะใช้ความสงบสยบความ

เคลื่อนไหว  ดูเหนือชั้นกว่าใช้อารมณ์เยอะ

   ๙.  ผู้ที่มีสมาธิจะไม่เสียเวลาส่วนหนึ่งไปกับการย้อยกลับบ้านกลับที่ทำงานเพราะ

ลืมนั่นลืมนี้ไว้  จะไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์กับการขี้หลงขี้ลืม  และจะไม่ถูก

ตำหนิกับการลืมนั่นลืมนี่อยู่บ่อยๆ

   ๑๐. คนที่มีสมาธิจะเป็นคนที่มีเสน่ห์เป็นที่รักของคนรอบข้าง  เพราะจะรู้ตัวทั่วพร้อม

  มองโลกทะลุปรุโปร่ง   เข้าใจธรรมชาติของคน   มีเหตุผล  เข้าใจเพื่อน  เข้าใจผู้อื่น

ไม่รู้สึกรุ่มร้อนหรือหงุดหงิด  เพียงแค่มีคนอื่นคิดไม่เหมือนเราหรือมีความเห็นต่างไป

จากเรา

  ๑๑. คนที่มีสมาธิจะมีจุดยืนเป็นของตนเอง  มีความมั่นใจในตนเอง  มาดมั่น  และไม่

ตกเป็นทาสผู้อื่นหรือทาสวัตถุ ไม่วิ่งโร่แตกตื่นไปตามกระแสนิยม  รู้จักคิดสร้างสรรค์

  ๑๒.  คนที่มีสมาธิหากใช้สมาธิในการศึกษาพระธรรม  จะ ลด ละ เลิกกิเลสได้

ง่ายกว่าคนอื่นๆ  ชีวิตจะผาสุข

  ๑๓.  ช่วงที่เรานิ่งสงบ  ช่วงที่เข้าถึงสมาธิ  อยู่ในสมาธิ  เหมือนได้พักผ่อนสมองจาก

เรื่องวุ่นวาย  จะมีสักกี่คนที่ได้พักสมองจริงๆ  เพราะแม้แต่การนอนหลับบางทีสมอง

เรายังทำงาน  เรายังฝันร้าย  คิดโน้นคิดนี่ในฝันเสียด้วยซ้ำ  บางทีอาจตกใจตื่น  อ่อน

เพลีย  แต่หลังจากเราออกจากสมาธิ  สิ่งแรกที่คุณสัมผัส  คือความโปร่ง  โล่ง  ใส

สงบ  และรู้สึกอิ่มเอิบใจ 

   ๑๔.  ความผ่อนคลายของการทำสมาธิ  จะช่วยลดความดันโลหิตสูง  และโรคภัย

อีกหลายๆชนิดที่ตามติดมาเป็นคณะ  โรคภูมิแพ้  โรคไมเกรน ฯลฯ

   สรุป 

  สมาธิคือของดี  มีคุณ  เปรียบเสมือนเครื่องปรุงอาหารชั้นดี  ใส่ลงไปในอาหารจาน

ใด  ก็ออกมาอร่อยไปเสียหมด  เมื่อเราใส่สมาธิลงไปในกิจกรรมต่างๆ ย่อมทำให้

ทุกอย่างออกมาดีเสมอ  ชิ้นงานหรือการเรียนจะออกมามีคุณภาพ  ความเครียดความ

ทุกข์จะถูกขจัดไป  จิตจะนิ่ง  สงบ  ผ่อนคลาย  ชีวิตผาสุกได้ด้วยสิ่งดีๆอยู่เสมอ

 

จากหนังสือ

สมาธิแม่เอ๊ย

ของ  ถือศีล  ดิฐวัฒน์โยธิน

 

รักทุกคนที่แวะมาอ่านนะคะ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 333808เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2010 12:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณสายหมอกยามเช้าที่แวะมาทักทาย

คู่มือนักปฏิบัติมือใหม่ สมาธิมาแล้วค่ะ ประโยชน์ของสมาธิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท