คำสอน กลอน ท่านพุทธทาสภิกขุ เดือน มกราคม 2553


คำกลอนสอน มี 12 เดือน พึ่งได้รับของขวัญเมื่อวานนี้ นำมาฝากทันเดือนนี้อยู่นะคะ

ปฏิทินตั้งโต๊ะพร้อมCD

ท่านพุทธทาสภิกขุ เป็นของขวัญที่ดีมากที่ได้รับ เพราะ คำว่า นาฬิเก ที่กานดานำมาเป็นชื่อในการเผยแพร่น้ำมันมะพร้าว เป็นชื่อที่ชอบมาก และคำนี้ มาจาก มะพร้าวพันธุ์หนึ่ง ท่านพุทธทาสภิกขุได้นำไปเป็นคำสอนทางพุทธศาสนา ท่านที่สนใจอ่านเชิญคลิกอ่านได้ใน google นะคะ สำหรับคำว่า นาฬิเก โดย คลิก ท่าน พุทธทาสภิกขุ นาฬิเกร์ มีคำสอนที่เกี่ยวเนี่องกับคำนี้มากมายค่ะ

คำกลอนของท่านพุทธทาสภิกขุ

            มอง แต่ แง่ ดี เถิด  

      เขามีส่วน   เลวบ้าง  ช่างหัวเขา

จงเลือกเอา  ส่วนดี  เขามีอยู่ 

เป็นประโยชน์ แก่โลกบ้าง   ยังน่าดู 

ส่วนที่ชั่ว   อย่าไปรู้  ของเขาเลย 

 

   จะหาคนมีดี    โดยส่วนเดียว

อย่ามัวเที่ยว เสาะหา  สหายเอ๋ย 

เหมือนเที่ยวหา  หนวดเต่า  ตายเปล่าเลย

ฝึกให้เคย    มองแต่ดี   มีคุณจริง  

 

   ไม่นานนัก  จักมี  ตี่ประดัง

จนกระทั่ง ถึงมี   ดีอย่างยิ่ง

เมื่อพ้นดี  จะถึงที่  นิพพานจริง

นับเป็นสิ่ง ควรฝึกแน่  มองแต่ดี  

                               ท่านพุทธทาส อินทปัญโญ

 

      คำกลอน เดือน มกราคม 2553

                    จง รู้ จัก ตัว เอง 

         "จงรู้จัก ตัวเอง  คำนี้หมาย "       มีดีร้าย  อยู่เท่าไหร่ เร่งไขขาน

ข้างฝ่ายดี มีไว้ รีบไขขาน                    ข้างฝ่ายชั่ว  รีบประทาน  ให้หมดไป

         " จงรู้จัก ตัวเอง  คำนี้หมาย"       ว่าภายใน  มีกิเลส  เป็นนายใหญ่

จึงได้เปรียบ  แต่จะทำ บาปกรรมไป       ต่อควบคุม  มันได้  จึ่งรักบุญ

         "จงรู้จัก  ตัวเอง  คำนี้หมาย"       ว่ามันไร้   ตนตัว มัวแต่หมุน

ไปตามเหตุ ตามปัขชัย ที่ไสรุน:            พ้นบาป-บุญ  ชั่ว-ดี  มีนิพานฯ

                                                             ท่านพุทธทาส อินทปัญโญ

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 331824เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2010 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะคุณมณีวรรณ

   ค่ะบทกลอนที่ดีมาก เป็นคำเตือนคำสอน ให้ได้กับทุกคน นะคะ

 

สวัสดีคับคุณกานดา...

ขอบคุณสำหรับบทกลอนดีๆนะคับ...

บทกลอนคุณกานดาสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว...

ขอบคุณมากคับ...

สำหรับข้อสงสัยที่คอมเมนมา

มะละกอสุกนับว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วน มีวิตามินเอมาก ช่วยบำรุงสายตา แล้วยังประกอบไปด้วยน้ำตาล วิตามิน B1,B2 ,C เกลือแร่ต่างๆ แคลเซียม ฟอสฟอรัส รวมทั้งมีกากหรือเส้นใสอาหารมาก ช่วยบำรุงกระดูก บำรุงสายตา บำรุงประสาท และยังช่วยป้องกันโรคลักปิกลักเปิด มะละกอดิบมีน้ำย่อย "พาเพน" ช่วยย่อยอาหารประเภทเนื้อได้ดี นิยมใช้ทำเป็นอาหารมาก เช่น ส้มตำ แกงส้ม ผัดกับไข่ก็ได้ ผู้ที่ท้องผูกเป็นประจำควรรับประทานมะละกอสุกทุกวัน จะทำให้การขับถ่ายสะดวกและยังช่วยย่อยอาหารได้ดีอีกด้วย

ลองรับประทานดูนะคับ...

สวัสดีคุณแล้วแต่ปุ๊

   ขอบคุณนะคะข้อมูล มะละกอ ที่มีประโยชน์มากมาย

 กลอน ของท่านพุทธทาส มีมากมาย อย่าลืมมาแวะอ่านของเดือน กพ.53 นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท