สนุกกับความเติบโตทางความคิด


ในชีวิตเรา  เมื่อเราเกิดมา  เราก็มักไม่ได้คาดหวังว่าเราจะรู้อะไร  เราจะไปทางไหน  ใครจะชี้ทางให้เราบ้าง   หลายคนคงมีวิถีทางและแรงขับเคลื่อนชีวิตที่แตกต่างกันไป เริ่มต้นอาจจะเป็นเพื่อความอยู่รอด  เพื่อความสบายขึ้น เพื่อคนไกล้ตัว เพื่อเพื่อนมนุษย์  และสุดท้ายเพื่อความหลุดพ้นแห่งตน

   เมื่อมองย้อนหลังกลับไปที่ชีวิตเราเอง  มักพบว่ามันมีพัฒนาการของความคิด  ความเข้าใจ   และระบบความคิดต่างๆ  ข้อมูล  และทิศทางที่จำเป็นสำหรับการเป็นมนุษย์  การเป็นคน ที่เราพยามที่จะเป็นหรือพยามที่จะปั้นตนเองขึ้นมา

   เรามักพยามมองหาแบบอย่างหรือคาดเดาและพิจารณาว่าเราจะเป็นแบบไหน  อย่างไร  แนวใด หรือว่าคนใดที่เราต้องการเดินตามรอย  เอาง่ายๆตามบริบทตนเอง  เช่น เราอยากเป็นคนดีตามแนวทางคำสอนพระพุทธเจ้า  เราอยากเรียนเก่งแบบเพื่อน  เราอยากเป็นหมอเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง มีหน้าตาคนนับถือ  เราอยากมีฐานะที่ดีเพื่อจะได้สบายและพ่อแม่สบาย   เมื่อเราได้สิ่งนั้นแล้ว มันเริ่มมีทางเลือกและทางแพร่งว่าเราจะเดินทางชีวิตต่อไปอย่างไร ในวัยทำงานเริ่มต้น

    การที่เรามาอยู่ในชุมชนห่างไกล  เป็นชนบท  เรากลับซึมซับความเรียบง่าย  ความพอดี ความพอเพียง  เราเห็นคนที่ฐานะด้อยกว่าเรามาก  และอยู่ด้วยความยากลำบาก คนเจ็บป่วย ชะตาชีวิตที่หลากหลายที่เราสัมผัสถึงความไม่แน่นอนที่เป็นไปของชีวิต   สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเหมือนสิ่งที่คอยขัดเกลาและบ่มเพาะความคิดอีกด้านที่รู้สึกได้ว่ามันสงบ  เย็นและเป็นความพอเพียง จากเดิมที่เราต้องการที่จะมีชีวิตแบบวัตถุนิยมและบริโภคนิยมสุดโต่ง จนตอนนี้มีกรอบความพอดีที่พอเพียง

    ความคิดหนึ่งที่ออกมาคือชีวิตเราที่มีสองด้าน  หนึ่งคือเพื่อตนเอง  สองคือเพื่องานเพื่อคนอื่นๆคนที่มีความทุกข์ ความยากลำบาก ความเจ็บป่วยทั้งแบบฉับพลันและแบบเรื้อรัง  ความเจ็บป่วยทีเป็นความเจ็บป่วยด้านร่างกาย จิตใจ  สังคม  และจิตวิญญาน และอีกด้านหนึ่งในจิตใจก็มองออกไปยังสังคมรอบข้างตัวเรา สังคมประเทศเรา ที่แสนจะสับสนวุ่นวายเพราะปัญหาข้อเดียวคือความเสื่อมในเรื่องของคุณธรรม  จริยธรรม

    ความเติบโตทางความคิดที่ก้าวกระโดด  มาจากกระบวนการ การทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพรพ การเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ  ความคิดต่างๆเครื่องมือต่างๆ  และการทำงานกับคนที่หลากหลายทำให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างการทำงานและการพัฒนา การได้ลปรร กับผู้รู้ต่างๆหลายๆระดับ  ทั้งตั้งแต่ระดับไม่รู้ไปถึงคนที่รู้มากที่สุด    การเป็นหนอนหนังสือ  ทัศนคติที่ดีต่อการชอบอ่านชอบเรียนรู้เปิดกว้างต่อสิ่งใหม่ๆ การเป็นนักช๊อบปิ้งหนังสือ  เป็นที่มาของความเติบโตได้อย่างหนึ่ง

    อีกปัจจัยที่มีส่วนกระตุ้นการเติบโตคือการร่วมเรียนรู้กับนักวิจัย สกว  ที่เป็นนักวิจัยท้องถิ่น กระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้อีกแบบเริ่มต้นที่ชาวบ้านเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้เราสนใจเรื่องการเรียนรู้ แนวคิดการเรียนรู้ การค้นหาความรู้  และสุดท้ายก็จะกลายเป็นนักเรียนรู้ที่ดีพร้อมๆกับการเริ่มเป็นผู้รู้ในเรื่องต่างๆ  เพื่อสะสม รวบรวมและสังเคราะห์เป็นความรู้ในอนาคต

     กระบวนการหนึ่งที่มีความคัญต่อความรู้คือการบันทึก  ยิ่งบันทึกเรายิ่งเรียนรู้ได้เร็วขึ้นอย่างมาก เพราะพบว่าตั้งแต่มีการเริ่มบันทึก  ความคิดเริ่มชัดเจน  ไม่เรื่อยเปื่อยวนไปมาเหมือนที่เคยเพราะเราไม่ลืมว่าบันทึกแล้ว 

     การเริ่มต้นของการเติบโตทางความคิดเป็นสิ่งที่เกิดความแปลกขึ้นในตน  เป็นความชื่นชมยินดีเล็กน้อยที่เสมือนว่าเราไม่ได้มัวหลังทาง  เสียเวลาเปล่ากับชีวิตที่เปลี่ยนผ่านไปแต่ละวัน  แต่เป็นแต่ละวันที่มีคุณค่า  เพื่อวันต่อๆไปของชีวิต  เพื่องานที่ท้าทายในวันข้างหน้า เพื่อ....ชีวิตอื่นๆ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 32826เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2006 23:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ผมชื่มชมในวิถีที่ดีงามของน้อง Kmsabai

ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมีเพื่อให้เราได้เรียนรู้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นในแง่มุมใด หากเราตั้งอยู่ในพื้นฐานที่ถูกต้อง ดีงาม  มีคุณธรรมในใจ เชื่อว่าเราจะได้พบกับสิ่งที่ดีๆในชีวิต

เจอมิตรที่ดี เจอผู้คนที่ดี ....และ สิ่งดีๆที่พร้อมจะเข้ามาในชีวิตอยู่ตลอดเวลา

ผมขอ ร่วมเรียนรู้และให้กำลังใจ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท