ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัญหาอาชญากรรมที่กระทำโดยการใช้อาวุธปืนอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากประเทศหนึ่งในโลก
สาเหตุส่วนใหญ่ที่ใช้อาวุธปืนฆ่ากันตายเป็นจำนวนมากนั้นก็เพราะปริมาณของอาวุธปืนที่มีใฃช้ในประเทศไทยนั้นมีจำนวนมาก
ซื้อง่ายขายง่ายนั้นเอง ดังนั้นในทางคดีมีความจำเป็นจะต้องทราบชนิด
ประเภทกลไกลการทำงาน
และความเข้าใจถึงร่องรอยและพยานหลักฐานที่จะได้จากสถานที่เกิดเหตุ
ตลอจนข้อมูลหรือความหมายของวัตถุพยานประเภทนี้ให้ชัดเจนจึงจะสมารถนำวัตถุพยานประเภทนี้มาใช้ได้อย่างเต็มที่
เพื่อประโยชน์สูงสุดคือทราบตัวคนร้ายที่แท้จริง
อาวุธปืน
อาวุธปืนตามความหมายในพระราชบัญญัติอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.
๒๔๙๐ ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า"มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
- (๑)* "อาวุธปืน"
หมายความรวมตลอดถึงอาวุธทุกชนิดซึ่งใช้ส่งเครื่องกระสุน
ปืนโดยวิธีระเบิดหรือกำลังดันของแก๊สหรืออัดลมหรือเครื่องกลไกอย่างใด
ซึ่งต้องอาศัยอำนาจ ของพลังงานและส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธนั้น ๆ
ซึ่งรัฐมนตรีเห็นว่าสำคัญและได้ระบุไว้ใน กฎกระทรวง "
- นอกจากนี้กฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2491
ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด
ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ ข้อ 1
ระบุเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนของอาวุธปืนต่อไปนี้ให้ถือเป็นอาวุธปืน
ได้แก่
- 1. ลำกล้องปืน
- 2. เครื่องลูกเลื่อน หรือส่วนประกอบสำคัญของเครื่องลั่นไก
- 3.เครื่องลั่นไก หรือส่วนประกอบสำคัญ ของเครื่องลั่นไก
- 4. เครื่องส่งกระสุน ซองกระสุน
หรือส่วนประกอบสำคัญสิ่งเหล่านี้
- นอกจากนี้ตามกฎหมายยังสามารถแบ่งอาวุธปืนออกเป็น 2 จำพวกคือ
จำพวกแรกเป็นอาวุธแบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้ กับจำพวกที่สอง
คืออาวุธปืนแบบที่นายทะเบียนอาวุธปืนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้
- การแบ่งประเภทต่างๆของอาวุธปืน
-
อาวุธปืนนอกจากสามารถถูกแบ่งเป็นอาวุธแบบที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ได้
กับอาวุธปืนแบบที่นายทะเบียนอาวุธปืนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้แล้ว
การแบ่งประเภทนั้นอาจจัดแบ่งได้เป็นอีก 2 ลักษณะคือ
- 1.
แบ่งตามลักษณะการทำงานของกลไก
- วิธีนี้จะแบ่งออกได้เป็น 4 ชนิด
คือ
- 1. อาวุธชนิดบรรจุได้ครั้งละ 1 นัด
(Single-shot firearm) หรือที่เรียกว่าอาวุธปืนที่ทำงานด้วยมือ
(Manual) เป็นอาวุธปืนรุ่นแรกๆ ที่มนุษย์รูจักประดิษฐ์ขึ้นมาใช้งาน
อาจประกอบด้วยลำกล้องเดียวหรือหลายลำกล้อง
แต่ละลำกล้องสามารถบรรจุกกระสุนปืนได้ 1 นัด การยิงอาวุธปืนชนิดนี้
ผู้ยิงต้องใช้มือตัวเองควบคุมการทำงานทั้งสิ้น เช่น
การบรรจุกกระสุนปืน การขึ้นนก การลั่นไก การสลัดกระสุนทิ้ง
ตลอดจนการบรรจุก นัดใหม่ เข้ารังเพลิง เป็นต้น
- 2.อาวุธปืน ชนิดรีวอลเวอร์
(Revolver) เป็นอาวุธปืนที่ดัดแปลงมาจาก ประเภทบรรจุกครั้งละ 1 นัด
ทำให้การบรรจุกกระสุนได้ครั้ละหลายนัด ส่วนประกอบที่สำคัญคือลูกโม่
หรือCylinder
ซึ่งเป็นโลหะรูปทรงกระบอกภายในเจาะเป็นช่องๆไว้บรรจุกลูกกระสุนปืนตามจำนวนที่ต้องการเวลาขึ้นนกหรือเหนี่ยวไกปืนลูกโม่จะหมุนรอบตัวเองไป
1 ช่องทำให้กระสุนปืนที่อยู่ถัดจากรังเพลิงเลื่อนขยับ 1 ช่อง
ไปตรงกับช่องรังเพลิง
เพื่อรอให้เข็มแทงชนวนสับให้ลูกปืนวิ่งผ่านลำกล้องออกไปในทันทีที่ไกปืนถูกเหนี่ยวกลับหลัง
การยิงปืนชนิดลูกโม่หรือรีวอลเวอร์นี้จะทำได้ 2 วธี คือ
-
ระบบ Single action
ระบบ Double action
- 3. อาวุธปืนชนิดกึ่งอัตโนมัติ
(Simi-automatic)
เป็นอาวุธปืนที่พัฒนาขึ้นมาให้สามารถบรรจุกระสุนได้ครั้งละหลายๆนัดในคราวเดียวกันโดยมีอุปกรณ์ที่เรียกว่าซองกระสุนปืน
(Magazine)
เป็นที่บรรจุและเป็นระบบที่เริ่มนำพลักงานจากการระเบิดของดินปืนส่งกระสุนปืนส่วนหนึ่งมาใช้เป็นประโยชน์ในการช่วยให้ผู้ยิงลดขั้นตอนการทำงานลง
ผู้ยิงปืนในระบบนี้เพียงแต่ทำหน้าที่บรรจุกระสุนปืนลงในแมกกาซีน
ใส่แมกกาซีนเข้าไปในตัวปืนจากนั้นก็ขึ้นลำทำให้ปืนพร้อมที่จะทำการยิงได้
จากนั้นผู้ยิงเพียงแต่ทำหน้าที่เหนี่ยวไกปืนเท่านั้น
กระสุนก็จะลั่นและอาวุธจะสลัดปลอกกระสุนนัดทื่ยิงไปแล้วออกไปเองพร้อมทั้งขึ้นนกปืนไว้ให้เสร็จเรียบร้อยเพื่อรอรับการเหนี่ยวปืนนัดต่อไป
4.อาวุธปืนชนิดอัตโนมัติ (Automatic)
เป็นอาวุธปืนที่พัฒนามาจากระบบกึ่งอัตโนมัติ 1 ขั้น คือ
สามารถทำการยิงลูกกระสุนปืนออกไปได้อย่างต่อเนื่องโดยผู้ยิงไม่ต้องออกแรงเพิ่มนอกจากบรรจุกระสุนปืน
ขึ้นลำ
และเหนี่ยวไกปืนนัดแรกเท่านั้นอาศัยพลังงานจากการระเบิดของดินปืนส่งลูกกระสุนปืนนัดแรกเป็นตัวผลักดันกลไกต่างๆทำงานอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแตแต่ขั้นตอนของการสลัดปลอกกระสุนปืน
การบรรจุกระสุนปืนนัดต่อไปต่อไปเข้ารังเพลิง การขึ้นนก
การลั่นไกนัดถัดไป อาวุธปืนจะเป็นผู้ทำงานเองทั้งสิ้น