พัฒนาคุณภาพชีวิตกับหลักการคิดแบบ 5 ส


คนทำงาน
พัฒนาคุณภาพชีวิตกับหลักการคิดแบบ 5 ส การจัดระเบียบสังคมไทยให้เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ควรจะเริ่มต้นจากการจัดระเบียบตัวเองของคนไทยก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยทำงาน เพราะถ้ากลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่สามารถจัดระบบตัวเองได้แล้ว โอกาสที่เขาจะไปจัดระเบียบให้กับองค์การ จัดระเบียบให้กับสังคมนั้นคงเป็นเรื่องยาก ก่อนจะที่เสนอแนะแนวทางในการจัดระเบียบตัวเอง เราจะต้องทราบก่อนว่าทำไมคนไทยจึงไม่ค่อยเคร่งครัดกับการจัดระเบียบชีวิต ระเบียบองค์การ หรือระเบียบสังคม ซึ่งพอจะสรุปสาเหตุหลักๆได้ดังนี้ • คนไทยสบายเกินไป สืบเนื่องจากคนไทยไม่ค่อยประสบเคราะห์กรรมหรือมรสุมชีวิตมากเหมือนคนในประเทศอื่นๆ ที่เขาต้องลำบากอยู่ในภาวะสงครามตลอดปีตลอดชาติ อดอยากปากแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่เคยพ่ายแพ้สงคราม ไม่เคยรู้รสชาติของคำว่าแพ้ ไม่เคยลิ้มรสของความเจ็บปวด ดังนั้น ความเป็นอยู่ที่สบายก่อให้เกิดเป็นนิสัยที่มักง่าย ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากมาย ยังไงก็ไม่อดตาย เพราะใน(น่าน)น้ำ(ทะเลประเทศเพื่อนบ้าน)มีปลาและในนามีข้าว(แต่ลิขสิทธิเป็นของคนอื่นไปแล้ว) จึงทำให้การดำเนินชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่เป็นแบบเรียบง่ายปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามสภาพแวดล้อม (Reactive) มากกว่าเอาชีวิตไปจัดการกับสิ่งแวดล้อม (Proactive) • อิทธิพลระบบเจ้าขุนมูลนาย ด้วยความที่สมัยก่อนชีวิตของคนส่วนใหญ่มักจะถูกกำหนดด้วยกฎเกณฑ์ของระบบเจ้าขุนมูลนาย แต่ละคนไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากมายเพราะชีวิตถูกบริหารโดยเจ้านาย การดำเนินชีวิตจึงมักเป็นไปเพื่อไม่ให้ผิดกฎระเบียบของเจ้านายก็เพียงพอ ไม่เคยได้คิดบริหารชีวิตด้วยตัวเอง • ประชาธิปไตยมากเกินไป เมื่อเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยคนไทยซึ่งเคยได้รับความกดดันจากระบบเจ้าขุนมูลนายมาก่อนก็รู้สึกว่าขอใช้ชีวิตให้อิสระให้เต็มที่ ระบบการเมืองบ้านเราพัฒนาการเร็วกว่าการพัฒนาการของคน เปรียบเหมือนสามล้อถูกหวยรวยไม่รู้เรื่องไปแล้ว แม้จะมีบ้านหลังใหญ่โตมโหฬาร แต่การดำเนินชีวิตก็ไม่แตกต่างกับการเป็นคนขับสามล้อ • ความย่อหย่อนของกฎทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย ศาสนาหรือจารีประเพณีต่างๆของไทยเรามักจะไม่ค่อยนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เราจะเห็นได้ชัดจากกฎหมายประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหมวกกันน๊อค เรื่องการจราจร เรื่องการจัดระเบียบสังคม เรามีหมดแต่เราไม่ค่อยนำมาปฏิบัติ • การเลี้ยงดูแบบไทยๆ จะเห็นว่าเด็กไทยถูกเลี้ยงดูดีเกินไปจนทำให้เด็กไม่สามารถดูแลตัวเองได้ บางคนพ่อแม่ไม่เคยปล่อยให้ห่างแม้แต่ก้าวเดียว คอยติดตามและประคับประคองช่วยเหลือตลอดเวลาในทุกๆเรื่อง การเลี้ยงลูกแบบตามใจ(คือไทยแท้) แม้สังคมจะเปลี่ยนไปแต่การเลี้ยงดูยังไม่ค่อยเปลี่ยนตาม ดังนั้น เด็กที่เติบโตในสังคมบ้านเราจึงมักจะขาดระเบียบในตัวเอง เมื่อไหร่หลุดออกจากสายตาของผู้ปกครองได้ก็ไม่ต่างอะไรจากทาสที่ได้รับอิสระในสมัยก่อน เพื่อขจัดตัวถ่วงความก้าวหน้าในชีวิต เราจึงควรจัดระเบียบชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้คนทำงานเข้าใจง่ายขึ้น ผมจึงขอนำเอาหลักของการทำ 5 ส มาอธิบายดังนี้ • ส. สะสาง เราควรมานั่งทบทวนดูว่าในชีวิตของเรามีกิจกรรมอะไรบ้างที่มีความจำเป็นในการนำพาชีวิตไปสู่เป้าหมาย กิจกรรมอะไรบ้างที่มีความสำคัญน้อย และกิจกรรมอะไรบ้างที่ไม่มีความจำเป็นและสำคัญเลย เครื่องมือในการสะสางคือการจัดทำ Checklist เพื่อตรวจสอบดูว่าในแต่ละวันเราใช้เวลาแห่งชีวิตไปกับเรื่องไรบ้างมากน้อยเพียงใด • ส. สะดวก เมื่อเราทราบแล้วว่ากิจกรรมที่สำคัญต่อเป้าหมายชีวิตเรามีอะไรบ้าง เช่น เราต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ เราต้องการความร่ำรวย เราต้องการเป็นคนที่มีชื่อเสียง ให้วางแผนว่าในแต่ละช่วงเวลาของชีวิตเราจะจัดสรรเวลาให้กับอะไรบ้างมากน้อยเพียงใด เครื่องมือที่จะใช้ในการทำส.สะดวกคือ การจัดทำแผนงานชีวิตทั้งระยะสั้นและระยะยาว หรือแม้กระทั่งการจัดทำตารางการทำงานในแต่ละวัน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ชีวิตการทำงานสะดวกยิ่งขึ้นได้ • ส. สะอาด เราควรทำให้ชีวิตเราเกิดความสะอาด ซึ่งคำว่าสะอาดในที่นี้หมายถึง ความไม่มีมลทินในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุจริต การเอาเปรียบผู้อื่น การทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน พูดง่ายๆก็คือต้องเป็นคนใจสะอาด เครื่องมือที่จะช่วยในการทำ ส.สะอาดคือ หลักธรรมคำสั่งสอนของศาสนาไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม และสิ่งที่สำคัญคือจำเป็นต้องมีการทบทวนตลอดเวลาว่าเราได้ทำอะไรที่ทำให้จิตใจไม่สะอาดบ้างหรือไม่ การทบทวนความสะอาดของจิตใจเปรียบเสมือนการเก็บกวาดบ้านถ้าทำบ่อยก็ไม่ต้องทำงานหนักและสามารถรักษาความสะอาดได้ตลอดเวลา • ส. สุขลักษณะ ถ้าเราสามารถจัดลำดับความสำคัญในชีวิตของเราได้ เราสามารถจัดตารางเวลาให้ชีวิตสะดวกขึ้นได้ รวมถึงถ้าเราสามารถรักษาให้จิตใจมีความสะอาดสดใสอยู่ตลอดเวลาได้แล้ว คงไม่เป็นเรื่องไม่ยากที่จะทำให้ชีวิตของเราดูดีทั้งในสายตาของตัวเราเองและคนรอบข้าง เราสามารถวางตัวให้เหมาะสมกับกาละและเทศะได้อย่างเหมาะสม ภาพลักษณ์ดูดี • ส. สร้างนิสัย สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เราจัดระเบียบชีวิตได้อย่างยั่งยืนนั่นก็คือการฝึก ส.ทั้งสี่ตัวที่กล่าวมาให้เกิดเป็นนิสัย ฝึกจนเคยชินไม่รู้สึกว่าการวางแผนชีวิต การจัดทำตารางการทำงาน การทบทวนสภาพของจิตใจเป็นสิ่งที่เป็นภาระ แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ เป็นบันไดสู่ความสำเร็จ ดังนั้น เครื่องมือสำหรับการสร้างและรักษา ส.สร้างนิสัยไว้คือ การมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน กำหนดแรงจูงใจที่เหมาะสมกับตัวเอง การสร้างสัญญาใจ (Commitment) กับคนรอบข้าง เพื่อให้เขาเป็นกรรมชีวิตเราที่จะคอยกระตุ้นเตือนไม่ให้เราหลงลืมกติกาชีวิตในเรื่องการทำ 5ส. ดังนั้น การบริหารชีวิตโดยแนวคิดของ 5ส. จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะไปสู่เส้นชัยของความสำเร็จ เครื่องมือทุกอย่างอยู่ในตัวของเราทุกคน เพียงแต่ใครจะหยิบเครื่องมือตัวไหนมาใช้ให้งาน บทความโดย ณรงค์วิทย์ แสนทอง
คำสำคัญ (Tags): #คนทำงาน
หมายเลขบันทึก: 325071เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2010 22:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 11:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • สวัสดีปีขาลค่ะ
  • อ่านแล้ว ได้แนวคิดนำไปปฏิบัติได้ค่ะ
  • ที่ ร.พ. ได้เริ่มโครงการ ปี 50 จนเดี๋ยวนี้ ติดเป็นนิสัยแล้วค่ะ(ศึกษาดูงานได้นะคะ)
  • ขอแนะนำปรับขนาตัวหนังสือเพื่อผู้สูงวัยอ่ายด้วยนะคะ อิอิ....
  • ถ้าเนื้อหามากแบ่งเป็นตอนๆก็ดีค่ะ นักเรียนรุ่นเก่าชอบเรียนเป็นบทๆค่ะ
  • หรือแต่งติมสีสันของตัวหนังสือ หรือมีภาพประกอบก็สมบูรณืดีนะคะ

                 

มาเยี่ยมในวันแห่งความรัก

เขียนได้ละเอียด จนขอเอาไปใช้บ้าง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท