อยากเล่าประสบการณ์จากตัวเองที่พบมา ทำไมถึงเชื่อเรื่องกรรม ได้ศึกษาพระอภิธรรมพื้นฐาน บอกว่าคนที่ทำผิดศีลข้อลักทรัพย์ จะรักษาทรัพย์ไม่อยู่มีอันต้องเสียทรัพย์ไป ซึ่งตัวเองก็เสียทรัพย์มาตลอด ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะเสียเลย เพราะปัจจุบันไม่เคยทำผิดศีลข้อลักทรัพย์ แต่คงเป็นกรรมจากอดีตชาติมากกว่า ที่ตามให้ผลอยู่ จึงทำให้เสียทรัพย์จากเหตุต่างๆ คือ
1. ให้เงินคนลืมเพราะสงสารอยากช่วยเหลือเขา แต่ปรากฎว่าเขาไม่ใช้คืนก็สูญไปเสียไปประมาณ 5 - 6 หมื่นบาท
2. ซื้อกองทุนหุ้นของแบงค์ต่างๆ ประมาณ 2 แสนกว่า ก็หุ้นตก ขายไม่ได้เพราะถ้าขายก็ขาดทุนต้นทุน 10 บาท ปัจจุบันเหลือประมาณ 3 - 4 บาท
3. ซื้อคอนโดเมโทแถวรัตนาธิเบศร์ดาวน์เงินไป 1 แสนบาท ก็ไม่สร้างต่อ แถมขายให้บริษัทอื่นไปทำต่อ ไปขอเงินดาวน์คืนบริษัทใหม่ไม่รับผิดชอบ ก็เสียไปอีก
4. เอาเงินไปให้คนกู้คิดดอกเบี้ยถูกๆ เพราะสงสารเขา กลับถูกโกงอีก ไม่ยอมคืนทั้งต้นทั้งดอก
ปัจจุบันอยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงก็มีความสุขดี ไม่เดือดร้อนอะไร เพราะควบคุมค่าใช้จ่ายตัวเองได้ ก็ขอฝากไว้ว่าคนเราถ้าสร้างกรรมอะไรไว้กรรมนั้นย่อให้ผลแน่นอนจะช้าหรือเร็ว ถ้าช้าก็ข้ามไปอีกภพหนึ่ง ทำให้บางคนไม่เชื่อเรื่องกรรม เพราะบางครั้งยังไม่ให้ผลทันที ถ้าไม่ใช่กรรมหนัก แต่คนที่ทำกรรมไม่ดี ตัวเองเท่านั้นที่จะรู้ดีกว่าใครๆ นอกจากมีโมหะมากจึงหลงผิดทำให้ไม่รู้ซึ่งแก้ยาก
เชื่อเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะศีลข้อหนึ่ง ไม่ตบยุงซึ่งไม่ได้ทำมา2-3 ปีแล้ว ยุงไม่ค่อยกัดเรา ตอนแรกก็ไม่แน่ใจ นึกว่าอุปทาน แต่ตอนหลังเชื่อเพราะแม้แต่ไปในสถานที่ยุงชุม คนอื่นโดนรุมกัดแต่เราจะไม่ค่อยโดนกัด
ตอนเด็กๆชอบไล่บี้ฆ่ามดตายเป็นจำนวนมาก ช่วงไปเข้ากรรมฐาน โดนกรรมเก่าเล่นงานรู้สึกเหมือนมดมากัดตามเนื้อตัวเต็มไปหมด เป็นอยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง พอแผ่เมตตา ขออโหสิกรรมไป ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้อีก ถ้ากรรมที่ใหญ่/หนักกว่านี้คงต้องชดใช้มากกว่านี้เป็นแน่
เชื่อมานานแล้วเพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ค่ะ คนที่กำลังโดนกระทำขณะนี้ก็เพราะไปทำคนอื่นไว้เยอะค่ะ
เชื่อเช่นเดียวกันค่ะ เพราะประสบด้วยตนเองตามที่บันทึกไว้ใน http://gotoknow.org/archive/2006/04/17/22/20/21/e24250 โชคดีนะคะที่เราคิดว่าพบเหตุการณ์แล้วและทำให้เราได้มีโอกาสประพฤติตามหลักธรรม เพราะทำให้อยู่เป็นสุขมากๆ ค่ะ