ดิฉันแวะกลับมาดูที่บันทึกนี้อดเสียดายไม่ได้ว่า หลายบทความที่เคยฝากส่งมา คงมีเหตุขัดข้องแน่เลยไม่ได้ถูกขึ้นเว็ปบล๊อกนี้
วันนี้เลยเข้ามานำเรื่องราวดีๆที่ได้เรียนรู้จาก อดีตท่านอธิบดีกรมอนามัย นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา ในขณะที่ได้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ท่านเพื่อสกัดประสบการณ์และความรู้ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังสือ "สุดยอดผู้บริหาร : นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา" ที่กรมอนามัยจัดทำขึ้นเพื่อท่านในวาระเกษียณอายุราชการที่ผ่านมา ก.ย.2552
ความเกือบทุกตอนคงอยู่ในหนังสือเล่มดังกล่าว ดิฉันยังประทับใจไม่รู้ลืม จึงขอร่วมเผยแพร่ความดี ความงามของท่านให้ชาว gotoknow และสังคมได้มีโอกาสเรียนรู้ร่วมกัน และขอหยิบบางตอนเพื่อเล่าสู่กันฟังค่ะ
เพราะ ... หนังสือคงมีจำนวนจำกัด แต่ความดีไม่ควรจำกัดแค่ในหนังสือ ...
ท่านอธิบดี นพ.ณรงค์ศักดิ์ เล่าความตอนหนึ่งว่า ...........
สำหรับเส้นทางที่ทำให้เรามี Leadership มันไม่รู้นะ ผมยังยืนยันก็อาจจะเห็นเราภาพภายนอกไงว่าเหมือนคนเรียบร้อยแล้วก็เป็นคนเอาจริงเอาจัง แล้วถ้าทำอะไรถูกมอบหมายอะไรเราก็พยายามทำให้มันสำเร็จ แล้วก็อีกอันก็อาจจะเป็นวาทศิลป์ ผมอาจจะเป็นคนจับประเด็นหรือพูดจาอะไรมันก็น่าเชื่อถือทั้งๆที่ไม่น่าเชื่อถืออะไรหรอก แต่มันก็เป็นองค์ประกอบ มันจะได้ดูหน้าตาท่าทางดี เป็นคนเรียบร้อยเอาจริงเอาจัง
... คนไม่เก่งหรือคนเกเรเราก็คบเขาได้ คือเราเข้าใจเค้าไง คือว่า สำคัญที่สุดเราถูกบ่มเพาะมาเสมอตั้งแต่เด็ก
คือสมัยเด็กก็ไม่ถึงกับอดยาก คนจีนหน่ะก็อยู่ห้องแถว แล้วเตี่ยก็ทำงาน ตอนหลังก็แยกออกมาหุ้นกับเค้าทำร้านจักรยานแล้วเราก็ไปช่วยเค้าก็ขายส่ง สั่งอะไหล่มาส่วนใหญ่ส่งมาจากญี่ปุ่นนะ เราก็ต้องช่วยส่งของเล็กๆน้อยๆ แล้วเตี่ยก็เอาไปช่วยที่ร้าน แล้วก็มีลูกจ้าง ตอนเด็กๆช่วงแรกเราก็สนุกสนาน ทำงานมีความรู้สึกเหมือนได้ไต่อันดับ อันดับแรกก็คือช่วยเค้ายกของใส่ลัง ใส่เข่ง สมัยก่อนรถเข็นก็เหมือนกับเดี๋ยวนี้ รถเข็นที่เป็นเหล็ก แล้วก็ไปส่งตามร้าน ร้านเตี่ยก็อยู่แถววรจักรก็ใช้รถเข็นเอา
เราก็ตั้งแต่เป็นคนเข็นท้าย แล้วก็ยกระดับเป็นคนเข็นหลัก ก็รู้สึก คือคนที่อยู่หน้าเนี่ยคือรถเข็นที่มีสองล้ออยู่ข้างหลัง เราก็อยู่ข้างหน้า เดิมเราก็อยู่ข้างหลัง คอย push ให้เค้า พอไปถึงที่ก็คอยยกเอาของที่อยู่ในเข่งลง แล้วพอเลื่อนขั้นมาอีกหน่อยเราก็เป็นคนเข็นเอง พอโตมาอีกนิดก็ขี่จักรยาน แล้วตัวจักรยานเนี่ยเหมือนติดอาวุธ เราก็ท่องของเราไปเรื่อยแถวนั้น ขี่ไปเรื่อยไปไหนมาไหนของเราได้เห็นนู่นเห็นนี่ แล้วก็ถัดมาให้ขี่มอเตอร์ไซค์ส่งของ สมัยก่อนไอ้รถตุ๊กหน่ะรถตุ๊กที่มันเป็นแบบจักรยานแบบปั่นแล้วก็มีเครื่อง เราก็มีความรู้สึกว่าภูมิใจนะ เรานี่มันเหมือนจากพลทหารเลื่อนเป็นนายสิบ นายจ่า เป็นอะไรเงี้ย
ดิฉันจะแวะเข้ามาอีกค่ะ
... เพราะประทับใจจึงบอกต่อและความดีไม่ควรจำกัดแค่ในหนังสือ !!! ...
พบกันอีกครั้งในบันทึกประทับใจ(2) นะคะ
ศรีวิภา ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๒
อ่านแล้วน่าติดตามมากเลยค่ะ ...อยากอ่านตอน 2 เร็วๆ ."ขอบคุณที่บอกต่อและไม่จำกัดแต่ในหนังสือ".
ขอบคุรที่เข้ามาทักทาย เตรียมตอน2 อยู่ค่ะ อดใจอีกนิดพบกันแน่นอน