ปลายเดือนตุลาคม2552นี้ พนักงานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ปรับเปลี่ยนสถานภาพมาจากข้าราชการ ได้รับเงินเดือนในอัตราเพิ่มขึ้น ร้อยละ40จากอัตราเงินเดือนเดิม และได้รับเงินเดือนในอัตราเพิ่มตกเบิกย้อนหลังตามระยะเวลาที่แต่ละคนได้แสดงความจำนงค์ขอเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
สำหรับลูกจ้างประจำที่ขอเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยได้รับเงินเดือนในอัตราเพิ่มขึ้น ร้อยละ20จากอัตราเงินเดือนเดิม และได้รับเงินเดือนในอัตราเพิ่มตกเบิกย้อนหลังตามระยะเวลาที่แต่ละคนได้แสดงความจำนงค์ขอเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย (สำหรับอีกร้อยละ20เป็นค่าสวัสดิการ มหาวิทยาลัยจะต้องรับผิดชอบจัดให้)
จากการออกนอกระบบเปลี่ยนสถานะภาพจากข้าราชการหรือลูกจ้างประจำมาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย สถานะภาพทางการเงินที่ดีขึ้นมาจากทางใดบ้าง
1.มาจากอัตราเพิ่มขึ้น40%ของเงินเดือน(ข้าราชการ) หรือ20%ของเงินเดือน(ลูกจ้างประจำ) รวมถึงเงินตกเบิกย้อนหลังตามระยะเวลาที่แต่ละคนได้แสดงความจำนงค์ขอเปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย
2.มาจากเงินบำนาญ กรณีที่ท่านประสงค์รับเงินบำนาญเนื่องจากการยุบส่วนราชการเพื่อออกนอกระบบถ้าทำงานเกิน9ปี6เดือนสามารถรับเงินบำนาญได้ตามระยะเวลาการปฏิบัติราชการของแต่ละคน (เงินเดือน คูณ อายุราชการ หาร50) และเงินบำเหน็จในกรณีที่เป็นลูกจ้างประจำ
3.มาจากเงินผลประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กรณีที่ท่านเป็นข้าราชการและขอเลิกการเป็นสมาชิกกองทุน กบข. และเงินสำรองเลี้ยงชีพในกรณีที่เป็นลูกจ้างประจำ
จะเห็นได้ว่าเงินจำนวนไม่น้อยที่ถูกโอนเข้าบัญชีของข้าราชการและลูกจ้างประจำอย่างต่อเนื่อง ทำให้สถานะภาพทางการเงินของข้าราชการหรือลูกจ้างประจำที่ออกเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขวัญและกำลังใจในการทำงานก็ดีขึ้น จากสิ่งที่กล่าวมานี้ก็เป็นแรงกระตุ้นให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปลี่ยนสถานะภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยต่อไปในอนาคต
เรียนท่าน ฅนโสต เงิน จูงได้แวปเดียวครับ วันพ่อ ต้องคิดใหม่ทำใหม่ครับ
สวัสดีครับท่านอาจารย์JJ
ขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างมากครับ ที่กรุณาให้แนวคิดที่เป็นประโยชน์ จะน้อมรับไปปฎิบัติ..ครับ
เห็นบอกแต่ส่วนดี แต่ไม่ยักกะบอกข้อด้อย
1. ความมั่นคง
2. เงินเลี้ยงชีพหลังเกษียณ
ผมตอบให้เลยก็ได้ว่า
1. ความมั่นคงน้อยกว่าเป็นข้าราชการแน่ แม้ว่าทางมช.จะออกมาสัญญาแค่ไหน
2. ให้นำเอาเงินที่ได้เพิ่มเติมไปลงทุนเพื่อเป็นเงินเลี้ยงชีพยามเกษียณ นั่นคือปล่อยเกาะ ลอยแพ ให้ไปหากินเอง ถ้าหาเก่ง อาจได้มากกว่ารอเงินบำนาญ แต่ถ้าไม่เก่ง โชคไม่ดี หรือไม่มีวินัยก็ได้น้อยกว่าเงินบำนาญ หรืออาจถึงขั้นไม่มีเหลือ
ดังนั้นที่บอกว่าสถานะภาพทางการเงินดีขึ้นนั้นจึงไม่ถูกต้อง