หนูไม่รู้ ๆ แต่ว่าต้องเขียน ๆ เวลามีน้อยแล้ว วันนี้จะเล่าอะไรดีนะ
อืม เอาเรื่องนัดทานนมกับครูดีกว่า หลัง ๆ มาหนูกับครูไปไหน มาไหน กันมากขึ้น บางวันก็ไปปั่นจักรยาน บางวันก็นัดทานนมกัน ประเด็นของการสนทนา ในใจตอนนั้นคิดแบบนี้จริง ๆ ค่ะ หารู้ไม่ว่าครูท่านสอนพิจารณา หาสาเหตุของปัญหา
แต่ละครั้งหนูก็พูดไปเรื่อย ๆ เรื่อยเปื่อยทีเดียวเชียวค่ะ พอออกนอกเรื่องมาก ๆ ครูก็จะถามใหม่ ถามคำถามให้หนูได้คิดทบทวน แล้วก็พูดออกมา บางทีพอหนูทบทวนแล้วเหมือนเข้าใจบางอย่าง มันก็จะเป็นอาการว่า
โอ้เหรอ มันเป็นแบบนี้จริง ๆเหรอค่ะ
พอตอนไม่รู้เรื่องก็
"เฮ้อ หนูปวดหัวจังเลยค่ะ"
วันที่ไม่ไหวจริง ๆ หนูก็ฟุบเอาหัววางบนโต๊ะ หรือไม่ก็เลื้อยเอาหัวตะแคงไปตามโต๊ะเลย บางวันหนูยังมีแอบงีบหลับ เฮอะ ๆ อาการหนูนี่ น่าตีมาก ๆค่ะ
แต่ครูท่านก็อดทนประคับประคอง สอนหนูทุกวิธี ตามสภาพที่หนูเป็นอย่างที่ครูเคยเอ่ยให้ฟังคำนี้ค่ะ
บางทีก็เห็นท่านมองหนูด้วยแววตาสงสาร
นึกถึงสภาพ ณ ตอนนั้นของหนู จิตใจที่สะบักสะบอม ที่เกิดจากความคิดของตนเอง โจมตีตนเอง ด้วยความคิดของตนเอง ก็ เดี๊ยงเอง
ครูท่านค่อย ๆ มาซ่อมแซม ทำแผล จิต ให้ ทีละ จุด ทีละจุด แต่เมื่อไหร่ ที่หนูโดน ทำแผลแบบเจ็บ ๆ หนูก็ คร่ำครวญ ร่ำไป บางทีแค่คร่ำครวญยังไม่พอค่ะ ยังทำร้ายคนทำแผลให้ด้วย บางทีก็เห็นครูท่านเหนื่อย ตอนนั้นหนูได้แต่มอง ไม่มีปัญญาช่วยอะไรได้
หันกลับไปมองแล้ว หนูเห็นตนเองเป็นพวกมักมาก ทำน้อยแต่โลภ อยากได้ผลมาก ไม่ค่อย ออกแรงเอง ดีแต่ ตะโกนว่า ช่วยหนูด้วย ช่วยหนูด้วย แต่ก็ไม่ยอมว่ายน้ำเอง แถมบางทียังถ่วงน้ำหนัก ครูมากขึ้นอีกค่ะ
มาถึงตอนนี้ รู้สึกขอบพระคุณท่านที่มี สุดยอดแห่งความอดทน
กราบขอบพระคุณค่ะ
ไม่มีความเห็น