สิ่งที่ทำ อบต. สามารถจับประเด็นและประกาศเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาตำบล ได้เห็นความสำคัญของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี และคณะกรรมการศูนย์ฯ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ดี
ในเวทีสรุปบทเรียน KM ครึ่งปีของกรมส่งเสริมการเกษตร เมื่อวันที่ 22 พค.2549 ที่จังหวัดกำแพงเพชร คุณประสาร เฉลิมศรี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้ขึ้นเวที เล่าประสบการณ์การนำ KM ไปเป็นเครื่องมือการปฏิบัติในโครงการ Food Safty ว่า....
การดำเนินโครงการสุดท้ายคือ การปฎิบัติ สู่เกษตรกร
เรื่องที่เล่า เป็นเรื่องที่สะท้อนจากตัวเกษตรกร เป็นจุดแห่งการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงงานด้านส่งเสริมการเกษตรให้ก้าวหน้า
ต้องขอขอบคุณตัวแทน โรงเรียนเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร ที่ได้ดำเนินการที่เกี่ยวพันกัน หากเราไม่มีพื้นฐานโรงเรียนเกษตรกร การทำ KM ไม่สนุก และไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงกับเกษตรกรได้อย่างชัดแจ้ง และเกษตรกรไม่สามารถเห็นเจตนาของเราจริงๆ แต่การทำโรงเรียนเกษตรกร กระบวนการแบบมีส่วนร่วมนี้ ช่วยลดกระแส ลดผลกระทบได้มาก
การดำเนินงาน KM ของจังหวัดนครศรีธรรมราชในโครงการ Food Safty ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง ตั้งเป้าผลสำเร็จของงานไว้ว่า 1.กลุ่มจะต้องดำเนินงานกลุ่มอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นกระบวนการกลุ่มแบบมีส่วนร่วมจริงๆ 2. พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง มีปัญหาหอยเชอรี่ค่อนข้างมาก การดำเนินงานนี้ให้สำเร็จ ต้องดำเนินการป้องกันกำจัดหอยเชอรี่ และ 3. ให้สามารถแปลงหอยเชอรี่ มาเป็นปุ๋ยให้ได้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผลิต
กระบวนการเรียนรู้ของเกษตรกรที่ได้จากการดำเนินโครงการ สิ่งที่เกิดขึ้นที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเกษตรกรคือ ในกิจกรรมการประชุมคณะกรรมการศูนย์ฯ คณะกรรมการศูนย์ฯจะเป็นสื่อช่วยประชาสัมพันธ์การทำงานของกรมส่งเสริมการเกษตร
การทำงานอย่างน้อยต้องมีข้อมูลในพื้นที่ ต้องมีข้อมูลมือสอง และสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมาวิเคราะห์ร่วมกัน ว่าเป็นอย่างไร และทางออกสิ่งที่จะทำร่วมกันคืออะไร
- ผลการวิเคราะห์พบว่า พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังมีความเสี่ยงต่อการใช้สารเคมี พื้นที่ปรับเปลี่ยนจากพื้นที่นา เป็นการปลูกผัก ไร่นาสวนผสม ทำไม้ผลหลายๆอย่าง ธรรมชาติตั้งแต่ ปี 2537 เปลี่ยนแปลงไป ใช้สารเคมีมากขึ้น ปัจจุบันเกษตรกรปลูกผัก หนีไปรับจ้างทำงานในเมือง ทิ้งไร่นา เป็นข้อเท็จจริง ดังนั้น การที่เราดำเนินโครงการนี้ เราเดินมาถูกทางแล้ว
- การเก็บข้อมูล ต้องเกี่ยวข้องกับ แบบ กสก. และเกษตรกรโดยตรง ปัญหาคือ พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง เป็นพื้นที่เฉพาะ มีโครงการลงไปเยอะมาก โดยเฉพาะ ต.คลองน้อย มี 9 หมู่บ้าน ถ้าดำเนินการเก็บข้อมูล โดยเจ้าหน้าที่ คงไม่ไหว ต้องใช้คณะกรรมการศูนย์ฯ มีส่วนร่วม มีการอธิบายแบบ ลงไปเก็บข้อมูล
- มีการบันทึกข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และจำแนกพื้นที่
- นำผลการวิเคราะห์เข้าสู่เวทีชุมชน ปรากฎว่าข้อมูลที่ออกมาจากการเก็บและวิเคราะห์เป็น 3 ดาวหมด แต่เมื่อนำเข้าเสนอในเวทีชุมชน ผลที่ออกมาเกษตรกรไม่ยอมรับค้านกับข้อเท็จจริง จึงมีมติออกมาเปลี่ยนเป็น 2 ดาว หรือ 1 ดาว และกำหนดพืชที่เน้นหนักอันดับ 1 คือ ผัก 2. ข้าว และ 3. ไม้ผล นี่คือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการทำเวที
- การประชาสัมพันธ์ สิ่งที่ได้ทำร่วมกับเกษตรกร คือ การใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง บอกปากต่อปาก เกษตรกรจะบอกกันเองว่าโครงการทำอย่างไร
สุดท้ายคุณประสาร ได้สรุปว่า ระยะเวลาตั้งแต่เดือน มีค.-เมย. 49 การทำงานโครงการ Food Safty ของจ.นครศรีธรรมราช ได้ทำงานร่วมกับเกษตรกร สิ่งที่ทำ อบต. สามารถจับประเด็นและประกาศเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาตำบล ได้เห็นความสำคัญของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยี และคณะกรรมการศูนย์ฯ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ดี ต้องขอขอบคุณกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ได้ดำเนินโครงการที่มีผลโดยตรงต่อเกษตรกร.....