แนวคิดพื้นฐาน หรือ Keyword ของการวางโครงสร้างในการทำงาน ประกอบด้วย ๗ คำสำคัญ Creative Content , Creative Children , Creative Knowledge ,Creative Culture , Creative Space , Creative Society และ Creative Database management
สิ่งที่ควรพิจารณาเพื่อพัฒนากรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทย ในประเด็นด้านการศึกษา
ข้อควรพิจารณาลำดับที่ ๑ เรื่องประเด็นหลักอันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการจัดทำกรอบ
-
พบว่ามี ๕ ปัจจัยหลักที่นำไปสู่การคิดกรอบเชิงนโยบายในรอบ ๑๐ ปี กล่าวคือ (๑) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น (๒) รูปแบบของการใช้งานหลากหลายมากขึ้น (๓) การหลอมรวมทางเทคโนโลยี ทำให้เครื่องมือในการใช้งานมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้มนุษย์มีโอกาสในการเข้าถึงและใช้งานไอซีทีในการสื่อสารมากขึ้น (๔) การสื่อสารในโลกแห่งความเป็นจริงน้อยลง และ (๕) มีโอกาสในการใช้ประโยชน์ด้านการสื่อสารเพื่อการศึกษาได้มากขึ้น
ข้อควรพิจารณาลำดับที่ ๒ เรื่องแนวคิดพื้นฐาน หรือ Keyword ของการวางโครงสร้างในการทำงาน ประกอบด้วย ๗ คำสำคัญ
-
Creative Content เน้นการสร้างและพัฒนาสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีสาระที่ครบถ้วนทั้งในระบบการศึกษา นอกระบบการศึกษา มีรูปแบบที่หลากหลาย และมีคุณภาพที่มากขึ้น
-
Creative Children เน้นการส่งเสริมการสร้างและพัฒนาเนื้อหาจากเด็ก เยาวชน ร่วมกับ ครู
-
Creative Knowledge จัดทำฐานข้อมูลความรู้เกี่ยวกับแนวทางในการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และ บุคคลต่างๆสร้างและพัฒนาสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้
-
Creative Culture เน้นการสร้างเสริมวัฒนธรรมการใช้สื่อไอซีทีเชิงสร้างสรรค์ โดยเฉพาะการใช้ไอซีทีเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตนเอง รวมไปถึง วัฒนธรรมพื้นฐานในการใช้ไอซีที
-
Creative Space เพิ่มพื้นที่ในการใช้สื่อไอซีทีเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ทั้งพื้นที่ออนไลน์ และ พื้นที่ออฟไลน์
-
Creative Society สนับสนุนการสร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่สร้างสรรค์ที่ร่วมกันสร้างและพัฒนาสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ออนไลน์
-
Creative Database management บริหารจัดการฐานข้อมูลสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อง่ายต่อการสืบค้น ค้นหา และนำไปใช้ประโยชน์
ข้อควรพิจารณาลำดับที่ ๓ ข้อเสนอในการจัดทำกรอบ
- หากพิจารณาบทเรียนของประเทศเกาหลี พบว่า มีนโยบายและการบริหารจัดการในการใช้สื่อไอซีทีเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้
- มีการบริหารจัดการเพื่อสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน ครู ร่วมกับผลิตเนื้อหาเพื่อส่งเสริมการศึกษาในรูปของ E-Learning โดยหน่วยงานกลางที่เรียกว่า KERIS ซึ่งมีการบริหารจัดการที่คล่องตัว เน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้ความรู้กับครู นักเรียนในการพัฒนาสื่อออนไลน์
- ในประเทศไทย มีเว็บไซต์ในทำนองเดียวกันก็คือ www.thaigoodviews.com เป็นเว็บไซต์ที่เน้นให้เด็กนักเรียนและครูร่วมกันผลิตเนื้อหาประกอบการเรียนการสอนออนไลน์ โดยกลุ่มครู สสวท เน้นการให้ความรู้แก่ครูและนักเรียนในการพัฒนาเนื้อหาสื่อออนไลน์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านโปรแกรมจากประเทศเกาหลี
- หรือในกรณีของเว็บไซต์ www.fuse.in.th เว็บไซต์ในลักษณะเว็บบล็อกที่เป็นพื้นที่ปล่อยของของเครือข่ายเด็ก เยาวชนที่มีความสามารถในการจัดทำแอนนิเมชั่น มิวสิกวีดีโอ หรือ เนื้อหาสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยมีพี่เลี้ยงจากไบโอสโคปเป็นพี่เลี้ยงในการสนับสนุนชุดความรู้ในการจัดทำสื่อ
- นอกจากนั้นยังมีเครือข่ายร้านเกมคาเฟ่ในจังหวัดอุบลราชธานี ใช้พื้นที่ในร้านเกมคาเฟ่เป็นโรงเรียนสอนพิเศษโดยผู้สอนจากในกรุงเทพ ผ่านระบบกล้องออนไลน์ภายในร้านเกมคาเฟ่ โดยผู้ที่เข้ามาเรียนเสียเพียงค่าชั่วโมงในการใช้อินเทอร์เน็ต
- ดังนั้น การคิดกรอบเชิงนโยบายควรคิดจาก การเพิ่มเนื้อหาสื่อเพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ในทุกมิติโดยหน่วยงานกลาง และ เครือข่ายเด็ก เยาวชน ครู โดยเน้นระบบการบริหารจัดการให้ความรู้กับเด็ก เยาวชน ครูในการพัฒนาเนื้อหา
- ข้อเสนอเชิงรายละเอียด ๕ ประการ
(๑) ประเด็นด้านโอกาสและความเท่าเทียมในการเข้าถึงและใช้ทรัพยากรไอซีที ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ต่างๆ และ ส่งเสริมการขยายทรัพยากรในพื้นที่ห่างไกล
(๒) ประเด็นด้านการพัฒนาเนื้อหาสื่อออนไลน์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการเรียนรู้ ให้ (๑) มีเนื้อหาที่หลากหลายครอบคลุมเนื้อหาทั้งในระบบการศึกษาและการเรียนรู้นอกระบบการศึกษา รูปแบบการนำเสนอที่หลากหลาย และมีคุณภาพที่มากขึ้น โดยส่งเสริมให้ (๒) เด็ก เยาวชน ครู มีส่วนร่วมในการผลิตเนื้อหาเป็นแกนหลัก
(๓) ประเด็นด้านฐานความรู้ โดย เน้นการพัฒนาจัดทำฐานข้อมูลองค์ความรู้ในการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเนื้อหาไอซีทีเชิงสร้างสรรค์
(๔) ประเด็นด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และ วัฒนธรรมการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ให้กับเด็ก เยาวชน และชุมชนเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อทำให้เกิดวัฒนธรรมการแบ่งปัน การเคารพสิทธิผู้อื่น การไม่ทำร้ายหรือละเมิดผู้อื่น
(๕) ประเด็นด้านการบริหารจัดการ โดยเฉพาะ การบริหารจัดการฐานข้อมูลกลาง การตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของข้อมูล การจัดตั้งหน่วยงานกลางในการทำงานเพื่อบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ มีความสะดวกรวดเร็ว คล่องตัว
ข้อควรพิจารณาลำดับที่ ๔ การคำนึงถึงปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เกิดทำงานภายใต้กรอบหลักทั้ง ๕ ด้าน ต้องพิจารณา ปัจจัยหลัก ๓ ส่วน (๑) ความรู้ (๒) ปัจจัยเสริมด้านเครือข่าย สนับสนุน ๘ ปัจจัย เด็ก ครอบครัว โรงเรียน พื้นที่ สนับสนุนโปรแกรม เครือข่าย พี่เลี้ยง ชุมชน และ (๓) กลไกในการจัดการ การบริหารจัดการทรัพยากร ต้นทุนที่มีอยู่ในชุมชน ต้องการกระบวนการในการสนับสนุนเพื่อขยายต้นแบบระหว่างเครือข่ายชุมชน กลไกในการสนับสนุนการทำงาน และ กลไกที่ทำให้เกิดการทำงานที่ยั่งยืน เช่น ระบบกฎหมาย การสร้างการมีส่วนร่วมในฐานะเข้าของปัญหา เจ้าของความรู้ เจ้าของสิทธิ
ข้อควรพิจารณาลำดับที่ ๕ การสร้างประสิทธิภาพของแผนแม่บทในระยะยาว ต้องเน้น (๑) การพัฒนารายละเอียดของแผนแม่บทจากพื้นที่ต่างๆขึ้นมา (๒) การสร้างความเชื่อ จิตวิญญาณ และ วัฒนธรรมร่วมกันบนแนวคิดว่า “ใช้ไอซีทีเพื่อการพัฒนาตนเอง ชุมชน สังคม” (๓) การทำงานภายใต้แผนแม่บทที่มีความต่อเนื่องและยั่งยืน