แม่ผัว 1


28-10-52

วันนี้ขอเขียนเรื่องแม่ผัวนะคะ       ดิฉันอยู่กับแม่ผัวมาประมาณ30ปี   เรามีเรื่องกันบ้างแต่ไม่รุนแรงเพราะต่างคนต่างก็หยุดพูด

ขณะนี้เธออายุประมาณ97   สมองเสื่อม มา 3-4 ปี   ผ่าตัดกระดูก  5 ครั้ง   

เธอมีลูก 5คน  จบอักษรจุฬา    ธรรมศาสตร์     แพทย์จุฬา   สาธารณสุขมหิดล   และ วิศวะเกษตร

เธอเป็นลูกคนรวยแต่แต่งกับคุณพ่อคุณชัยณรงค์ ทำให้จนเรื่อยมาเพราะป๋าใจดีแต่ มีเมียน้อยและค้าขายขาดทุน  

ญาติๆแบ่งทรัพย์ไป       ช่วงลูกๆเรียนแม่ต้องขายของเก่ามาส่งลูก   ลูกๆสอนหนังสือช่วยกันหาเงินมาเรียนบ้าง

 สามีดิฉันจบก็รับภาระแม่และครอบครัว

สิ่งที่แม่ให้คือการศึกษา    อาหาร   ดูแลลูกๆ  

ช่วงที่แม่ป่วยและมาพักอยู่กับดิฉัน  ท่านทำอาหารให้ทาน   ดูลูกให้   เงินที่ลูกๆให้เธอฝากดิฉันไว้และไม่ให้บอกลูกสาว    ดิฉันเก็บไว้ให้ทีธนาคารออมสิน      

ดิฉันคืนคุณชัยณรงค์มาได้ประมาณ3-4ปีเพราะแม่อายุมากแล้ว

ดิฉันแจ้งลุกๆว่าแม่ของเรามีเงินเท่าไหร่เพื่อให้ทุกคนสบายใจไม่ต้องคอยสืบถาม

ก่อนหน้าที่แม่ยังแข็งแรงท่านจะไม่ให้ดิฉันบอกเพราะกลัวลูกสาวจะไม่ให้เงินใช้ค่ะ

 

 

ดิฉันเอามาเขียนเพราะนิยมที่แม่ส่งลูกเรียนทั้งๆที่ไม่ค่อยมีรายได้ทำให้ลูกๆจบปริญญาทุกคน    ดิฉันไม่มีเรื่องกับแม่เข้าใจว่าเราต่างได้ประโยชน์จากการอยู่ด้วยกันค่ะ   ดิฉันมีคนดูลูก   ดูแลสามี  ดูบ้าน   ดูแลแม่บ้าน   ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันไม่ถนัดทำ   ทำให้เราอยู่กันได้เหมือนแม่ลูกค่ะ

คงจะต่างจากเรื่องแม่ผัวลูกสใภ้ในความรู้สึกของคนทั่วไปนะคะ

ขอยกตัวอย่างของดร.  จันทรรัตน์มาให้อ่านค่ะ
ดร. จันทรรัตน์ เจริญสันติ
รับราชการ
อ่าน: 940
ความเห็น: 11

แม่ผัวกับลูกสะใภ้

"เป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก"

คำโบราณนี้ยังใช้ได้อยู่ไหมกับสังคมต่างคนต่างอยู่อย่างทุกวันนี้

แต่คงจะจริงในครอบครัวขยายในอดีต ที่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วต้องเข้าไปอยู่ในบ้านสามี...และมีเรื่องคันๆ มันๆ ระหว่าง แม่ผัวกับลูกสะใภ้

สำหรับผู้ที่แต่งงานและมีครอบครัวที่อบอุ่นก็นับว่าโชคดีไป แต่ถ้าอยู่ แล้วมีเรื่องชวนปวดหัวรายวันระหว่าง แม่ผัวและลูกสะใภ้ ละก้อ.....เชิญลองอ่านเรื่องนี้ดูค่ะ

 

 ในเมืองเล็กๆ ของประเทศจีน ลิ หญิงสาวที่ต้องแต่งงานเข้าไปอยู่ในครอบครัวสามี แสนจะไม่มีความสุขเพราะว่า แม่ผัวสุดแสนจะจู้จี้ขี้บ่น หาเรื่องตำหนิเธอทุกวันๆ ไม่ว่าเธอจะทำอะไร จะพูดอะไร หรือจะแต่งตัวอย่างไร

ลิเองก็ไม่ชอบแม่ผัว ทุกๆวันเธอก็จะพยายามจับผิดสิ่งที่แม่ผัวพูดหรือทำ แต่ที่น่าเจ็บใจมากกว่านั้นคือ ตามธรรมเนียมจีนแล้ว ลิจะต้องเคารพแม่ผัว ต้องปรนนิบัติแม่ผัวที่เธอแสนจะเกลียดนั้น ดังนั้นทุกครั้งที่เธอจะทำอะไรให้แม่ผัวเธอก็จะกระเง้ากระงอดและกระแทกกระทั้น และก็กลายเป็นเรื่องชวนทะเลาะรายวันไปได้

สองคนเหมือนน้ำมันกับไฟ เจอกันทีไรก็เสียงโล้งเล้งทะเลาะเบาะแว้งกันทุกที บ้านไม่เคยสงบ ลิไม่เคยมีความสุข สามีของลิก็ไม่เคยมีความสุข แม่ผัวก็ไม่มีความสุข

ผ่านไปเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี  ..จนวันหนึ่ง ลิก็บอกกับตัวเองว่า "ทนไม่ได้แล้ว ฉันจะต้องจัดการอะไรสักอย่าง"

ลิ จึงไปที่ร้านขายยาของลุงหวาง และถามซื้อยาพิษที่แรงที่สุด ทำให้ตายเร็วที่สุด

ลุงหวางพอรู้เรื่องทะเลาะของลิกับแม่ผัวอยู่บ้างแล้ว เขามองหน้า ลิ แล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจความรู้สึกของลิ ลุงหวางเชิญ ลิ เดินไปหลังร้าน แล้วก็หยิบยาสมุนไพรมาห่อหนึ่ง

ลุงหวาง พูดว่า "นี่คือยาพิษ ที่ข้าจัดให้เจ้า เป็นยาพิษที่ออกฤทธิ์ช้าๆ และจะไม่มีใครสงสัยได้ว่าเจ้าเป็นคนฆ่านาง มันจะไม่มีกลิ่นหรือรสฉุนเฉียวจนจับสังเกตได้ แต่ว่าเจ้าต้องรับปากข้าว่า เจ้าจะทำโดยไม่มีพิรุธและไม่ให้ใครรู้โดยเด็ดขาด เมื่อเจ้ากลับบ้านไปแล้ว ทุกๆวันให้ทำอาหารที่อร่อยที่สุด แล้วใส่ยาพิษนี้ลงไปเล็กน้อย เวลาที่เจ้าปรนนิบัตินางให้เจ้าทำด้วยความนุ่มนวลและเอาอกเอาใจนาง จำไว้นะว่าอย่าทำให้เกิดพิรุธจนเจ้าถูกจับได้ ยาจะออกฤทธิ์ช้าๆ จนวันที่นางตายจะได้ไม่มีใครสงสัยเจ้า"

ลิ ดีใจมาก รีบกลับบ้านไปจัดเตรียมอาหารอร่อยเติมยาพิษลงไปเล็กน้อย และเปลี่ยนการพูดจา มีสัมมาคารวะกับแม่ผัวของนาง

วันผ่านไป เดือนผ่านไป ลิทำสิ่งต่างๆตามที่ลุงหวางแนะนำอย่างสม่ำเสมอ  "อย่ามีพิรุธนะ" คำของลุงหวางดังเตือนใจทุกครั้งที่เธอเริ่มจะไม่พอใจแม่ผัว

แม่ผัวเริ่มยิ้มแย้มกับ ลิ เลิกจับผิด แล้วยังคอยชม ลิ กับเพื่อนบ้านว่าแสนดี ทำอาหารอร่อย ช่างเอาอกเอาใจ และเธอรัก ลิ เหมือนลูกสาวคนหนึ่ง ลิเองก็เริ่มคุ้นเคยกับการดูแลแม่ผัว และเริ่มรู้สึกเคารพรักแม่ผัวเหมือนแม่ตัวเอง

ครอบครัวไม่มีเสียงทะเลาะวิวาท ลิมีความสุข แม่ผัวมีความสุข สามีลิก็มีความสุข

พอใกล้ถึงปีใหม่ ลิ มองเห็นร่อยรอยความงกเงิ่นของแม่ผัว อากาศหนาวทำให้นางเริ่มไอ  ลิร้อนใจรีบกลับไปหา ลุงหวาง

"ท่านลุงคะ ข้าจะมาขอยาแก้พิษได้ไหม"

"ทำไมละ" ลุงหวางมองหน้า ลิ แล้วถาม

"เพราะว่าตอนนี้ข้าไม่อยากให้นางตายอีกแล้ว ข้ารักนางและนางก็รักข้า เรามีความสุขที่จะได้อยู่ด้วยกัน"

ลุงหวางตอบว่า "ไม่มียาแก้พิษหรอกนะ"

ลิ ร้อนรนในใจ ถามวิธีการจะช่วยให้นางมีชีวิตยืนยาวต่อไป 

ลุงหวางจึงตอบว่า "ยาที่ข้าให้ไปนั้นไม่ใช่ยาพิษแต่เป็นวิตามินบำรุงสุขภาพนาง แต่ยาถอนพิษนั้นเจ้าได้ผลิตขึ้นด้วยตัวเจ้าเองแล้ว เพราะพิษที่แท้จริงนั้นคือใจของเจ้าเอง เมื่อเจ้าได้ใช้ความรักความเมตตาก็เป็นยาถอนพิษออกจากใจเจ้าจนหมดสิ้นแล้ว

ต่อไปจงจำไว้ว่า ยามใดที่โกรธ เจ้าเกลียดใคร ก็คือเจ้าได้ใส่ยาพิษลงในใจเจ้าทีละน้อย ทีละน้อย ทำร้ายตัวเจ้าเองและยาพิษนั้นก็จะออกมาทำร้ายคนที่อยู่รอบๆตัวเจ้าเช่นกัน...การจะให้นางมีชีวิตยืนยาวเป็นลิขิตสวรรค์ แต่การจะให้ความสุขแก่นางจนนาทีสุดท้ายเป็นลิขิตจากใจเจ้า"

 

เรื่องนี้....มาจากสุภาษิตจีนบทหนึ่งว่า จงอย่ามอบสิ่งที่เราไม่ชอบให้กับผู้อื่น และสิ่งใดที่เราทำก็จะทำให้เราได้รับสิ่งนั้นกลับคืนมาไม่ว่าเป็นเรื่องดีหรือร้าย

.

....   ดังนั้นความรักความปราถนาดีต่อผู้อื่น จึงจะเป็นยาถอนพิษร้าย ที่แม้แต่สวรรค์ก็ไม่สามารถผลิตให้ได้ มีแต่เจ้าตัวที่จะผลิตขึ้นมาเอง และนำไปใช้เองจึงจะสามารถถอนพิษในใจของตัวเองได้นะคะ...

 

นิทานแม่ผัวกับลูกสะใภ้ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ค่ะ...

 

 นำเรื่องแม่ผัวของชาวอินเดียมาให้อ่านเล่นๆค่ะ

 

สวัสดี ผู้เยี่ยมชม [ เข้าระบบ | สมัครสมาชิก ]
หน้าแรก  , เช็ค Speed อินเตอร์เน็ต  ,  My.iD  นักเขียน  , กิจกรรม   , ไลฟ์สไตล์,โพส MSN   , เกมส์,
GAT PAT , หาหอพัก , กวดวิชา   ,  ติวเตอร์   ,  การศึกษา   ,  ทุน เรียนต่อ   ,  แอดมิชชั่น   ,  แชทรูม   , 
ช้อปปิ้ง   ,ฟังวิทยุ   ,  บอร์ด Asian Star   ,  บอร์ด Af6   ,  บอร์ด The Star5   ,  เว็บเพื่อนบ้าน
 
    Board > 2.ตามใจฉัน > 2.11 Girls เรื่องเฉพาะสาวๆ • เลขที่กระทู้ 1453470• เข้าชม 172 คน • ตอบ 3 คน • คะแนนโหวต 3 คะแนน  
   > ตั้งกระทู้ใหม่! |
ค้นหากระทู้ชื่อกระทู้ ชื่อคนตั้งกระทู้

กลุ่มพิทักษ์แม่ผัวสู้สะใภ้ใจร้าย!?

  บอร์ดมีอะไรใหม่?
 
 
 
  
 
 
Tag คือ การสรุปคำสำคัญ เพื่อบอกว่ากระทู้นี้เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง

[ เปิดใหม่ บอร์ด Asian Star สำหรับแฟนคลับ ดารานักร้อง เกาหลี ญี่ปุ่น จีน! ]

จากมติชน

คอลัมน์ ไฮไลต์โลก

โดย มนต์ทิพย์ ธานะสุข [email protected]



http://allindiadaughtersprotectionforum.blogspot.com/2009/09/all-india-daughters-protection-forum.html

"All India Mother-in Law Protection Forum" เป็นชื่อกลุ่มรณรงค์ในประเทศอินเดีย ที่เหล่าผู้หญิงซึ่งดำรงสถานะ "แม่ผัว" ร่วมกันก่อตั้งขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่ไม่เพียงแต่จะใช้เป็นเวทีต่อสู้กับทัศนคติเชิงลบในสังคมที่มีต่อคำว่า "แม่ผัวลูกสะใภ้" เท่านั้น แต่ยังจะใช้เป็นเวทีในการผลักดันให้มีการพิทักษ์คุ้มครองสิทธิของ "แม่ผัว" ที่เป็นตัวบทกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้เป็นรูปธรรมมากขึ้นด้วย

นีนา ธูเลีย หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่ม บอกว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมอินเดียคือ คนที่เป็นแม่ผัวกำลังตกที่นั่งลำบากจากการถูกลูกสะใภ้ข่มเหงรังแก ซึ่งเรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ เพียงแต่ปัญหานี้ไม่ได้ถูกตีแผ่ในสังคมวงกว้างเท่านั้น

"ผู้หญิงที่มีสถานะเป็นแม่ผัวยังลังเลที่จะลุกขึ้นมาเปิดเผยความจริง เพราะสังคมไม่ยอมรับไม่ยอมฟังพวกเธอ ทำให้พวกเธอต้องนิ่งเงียบ" นีนากล่าวถึงทัศนคติของสังคมที่มักตราหน้าว่าแม่ผัวใจร้าย ชอบข่มเหงกดขี่ลูกสะใภ้

เครือข่ายของกลุ่มรณรงค์กลุ่มนี้ในเมืองบังกาลอร์ ทางตอนใต้ของอินเดีย เพิ่งเริ่มดำเนินกิจกรรมเคลื่อนไหวเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกร่วมเคลื่อนไหวราว 50 คน การประชุมเป็นประจำทุกสัปดาห์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมของกลุ่มและยังมีการตั้งโทรศัพท์สายด่วนคอยให้คำปรึกษาช่วยเหลือแก่แม่ผัววัยชราภาพที่ถูกลูกสะใภ้ใจร้ายข่มเหงรังแกไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ

เหตุผลสนับสนุนการตั้งกลุ่มพิทักษ์แม่ผัวขึ้นมานี้มีการอ้างอิงถึงผลสำรวจของสำนักสาธารณสุขครอบครัวแห่งชาติ (เอ็นเอฟเอชเอส) ของอินเดีย ที่ทำการศึกษาไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2550 พบว่า กว่า 1 ใน 3 ของผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 15-49 ปี ต้องเผชิญกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว แต่ความรุนแรงในครอบครัวที่ผู้หญิงกลุ่มนี้เผชิญกลับเกิดจากน้ำมือของ "แม่เลี้ยง" มากกว่า "แม่ผัว" ถึงกว่า 8 เท่า 

http://www.worldlawdirect.com/forum/indian-law/29687-all-india-mother-law-protection-forum-www-aimpf-org.html

ปูรู จิตทิวาเดีย จากกลุ่มสิทธิสตรีกลุ่มหนึ่ง กล่าวถึงปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ในอีกแง่มุมหนึ่ง โดยยอมรับว่าแม่ผัวบางคนก็อาจเป็นต้นเหตุของปัญหาการกระทบกระทั่งกันของแม่ผัวลูกสะใภ้ แต่ปัญหาที่น่าห่วงอยู่ที่ลูกสะใภ้ยังคงตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ เมื่อต้องแต่งงานแล้วย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของแม่ผัว ไม่ว่าจะเป็นการถูกดุด่าว่ากล่าวหรือการถูกใช้เยี่ยงทาสในเรือนเบี้ย

"มันเป็นการต่อสู้ทางอำนาจ บางครั้งแม่ผัวอาจจะรู้สึกว่าพวกเธอกำลังเผชิญกับการช่วงชิงอำนาจนั้นอยู่กับลูกสะใภ้ พวกเธอคิดว่านี่เป็นบ้านของเธอและไม่ต้องการให้ลูกสะใภ้มาเปลี่ยนแปลงอะไร" ปูรูกล่าว และว่า ทัศนคติของวัยรุ่นหญิง รวมถึงความไม่พึงปรารถนาที่จะอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกับครอบครัวของสามี ยังมักเป็นเหตุปัจจัยใหญ่ที่ทำให้ลูกสะใภ้หันหลังให้กับแม่ผัว

เชื่อว่าปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ หรือไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรที่เกิดขึ้นในครอบครัว จะยังเป็นปัญหาที่บั่นทอนทำลายสถาบันครอบครัวต่อไป หากสมาชิกทุกคนในครอบครัวไม่ยึดหลักเคารพกันและกันในการใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน
คำสำคัญ (Tags): #ลูกสใภ้#แม่ผัว
หมายเลขบันทึก: 309200เขียนเมื่อ 28 ตุลาคม 2009 15:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ในเมืองไทย แม่ผัวก็ยังมีอำนาจมากกว่า แม่ผัว ร้ายๆตายแล้วคงไปเกิดที่อินเดีย สลับกันให้ลูกสะใภ้ ทำร้ายบ้าง ก็เป็นเช่นนี้แล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท