การขึ้นรูป
การขึ้นรูปแบ่งได้ดังนี้
การปั้นด้วยมือ ( Building by Hand ) การปั้นวิธีนี้ส่วนมากเป็นการปั้นให้มีรูปเหมือนของจริงหรือปั้นภาชนะเครื่องใช้ต่างๆด้วยมือและมีเครื่องมือใช้สำหรับตกแต่งในการปั้น เช่น การปั้นหม้อดินหุงข้าวปั้นขึ้นรูปด้วยมือ และมีเครื่องใช้ คือ ไม้สำหรับตีให้มีรูปกลมมีก้อนหินสำหรับรองรับภายในดินที่ใช้ปั้นนั้นเป็นพวกดินเหนียว (Stiff – Mud )
การปั้นบนแป้นหมุน( Throwing on
the Potter’s Wheel )
การปั้นวิธีนี้เข้าใจว่าเป็นวิธีแรกทีใช้แป้นเป็นเครื่องประกอบ
แป้นหมุนอันแรกทำด้วยหิน ซึ่งสลักให้มีรูปกลม ตั้งอยู่บนก้อนหิน
หมุนด้วยมือ ซึ่งเป็นการยากลำบากมากกว่าจะทำให้แป้นหมุนได้เที่ยง
ครั้นต่อมาแป้นได้ถูกดัดแปลงจากหินมาทำด้วยไม้ ซีเมนต์ แผ่นเหล็ก
ปูนพลาสเตอร์ หรือทำด้วยล้อรถยนต์ มีเพลาเหล็กและลูกปืนรองรับ
ทำให้หมุนได้เที่ยงแน่นอน
ใช้หมุนด้วยมือหรือฝ่าเท้าหรือหมุนด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้า
การปั้นบนแป้นหมุนนี้จะได้เฉพาะภาชนะที่มีรูปกลมและปั้นด้วยดินเหนียว
ทำให้เป็นรูปภาชนะต่างๆได้
โดยการรีดบีบเนื้อดินเหนียวด้วยมือบนแป้นหมุน
ใช้หมุนด้วยเครื่องเครื่องยนต์ไฟฟ้าเรียกว่า Jiggering
ทำได้เฉพาะเครื่องปั้นขนาดเล็กที่มีรูปแบนกลมหรือกลมรี เช่น ถ้วย ชาม
จานถ้าเป็นเครื่องปั้นขนาดใหญ่ยังต้องใช้แป้นแบบหมุนโดยเท้าถีบ
เช่นโอ่ง ไห
การปั้นแบบอัดลงแบบ( Pressing
into Mould)
การปั้นวิธีนี้ต้องทำด้วยไม้ ปูนซิเมนต์ ปูนพลาสเตอร์หรือโลหะต่างๆ
และปั้นดินผสมลงในแบบ ทำให้เป็นรูปต่างๆได้
การปั้นอัดดินผสมลงในแบบนี้ จะใช้อัดด้วยมือหรือเครื่องมือก็ได้ ทั้งนี้ต้องประกอบบกับคุณภาพของเนนื้อดินปั้นด้วย เครื่องปั้นที่ทำโดยใช้อัดดินปั้นด้วยมือลงในแบบ ส่วนมากเป้นพวกเครื่องปั้นชนิดที่มีคุณภาพเลว มีขนาดเล็ก เช่นของเด็กเล่นใช้ปั้นอัดด้วยดินเหนียวหรือปั้นอัดด้วยดินเหลว ลงในแบบ และจำพวกอิฐก่อสร้าง กระเบื้องมุงหลังคาเป็นต้น
เครื่องปั้นที่ทำโดยใช้อัดเนื้อดินด้วยเครื่องมือในแบบ
เป็นเครื่องมือชนิดที่มีคุณภาพดีมีเนื้อแน่น
เช่นท่อน้ำอิฐก่อสร้างอิฐทนไฟ
เหล่านี้ใช้ปั้นอัดด้วยดินเหนียวและถ้าจะทำกระเบื้องห้องน้ำ
ลูกถ้วยไฟฟ้าใช้ปั้นอัดด้วยดินชื้น
การปั้นด้วยแบบ( Slip Casting
)
การปั้นภาชนะต่างๆ ด้วยวิธีนี้ต้องมีแบบ
ทำด้วยปูนพลาสเตอร์เพราะมีคุณภาพดูดน้ำได้ดี
และเนื้อดินปั้นที่จะใช้ต้องเป็นน้ำเนื้อดินข้นๆ มีน้ำอยู่ไม่มากกว่า
40 % น้ำเนื้อดินปั้นต้องมีความเหลวพอดี
ไม่เหลวหรือข้นจนเกินไปเนื้อดินปั้นควรลอยตัวอยู่กับน้ำ
ไม่จมนอนก้อนเร็วเกินควรก่อนที่จะปั้นโดยหล่อเป็นภาชนะต่างต้องผูกแบบปูนพลาสเตอร์ให้แน่น
แล้วเทน้ำเนื้อดินปั้นลงในแบบให้เต็ม แบบจะดูดน้ำในเนื้อดินปั้น
ซึมเข้าไปในแบบ เนื้อดินปั้นจะเกาะติดกับเนื้อแบบ
น้ำเนื้อดินปั้นในแบบจะยุบน้อยลงไป
ต้องคอยเติมน้ำเนื้อดินปั้นให้เต็มแบบอยู่เสมอ
การเทแบบ
มี 2 ลักษณะคือ
1.การเทแบบโดยให้น้ำดินแข็งตัวอยู่ในแบบ เรียก Solid Casting ซึ่งเหมาะกับการเทแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความหนาและรูปร่างแปลกๆ
2.การเทแบบโดยมีการเทน้ำดินที่เหลือทิ้ง เรียก Drain Casting ซึ่งเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่ต้องการผนังบางและต้องการความหนาสม่ำเสมอ
การขึ้นรูปโดยใช้แรงอัด
การขึ้นรูปโดยวิธีการนี้ใช้แพร่หลายในการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ชนิดพิเศษ
แรงอัดจะอัดลงบนแบบซึ่งมีผงเนื้อดินปั้นแห้งๆ
หรือความชื้นเล็กน้อยอยู่ภายในแบบ แบบที่ใช้เป็นโลหะแข็ง
การขึ้นรูปโดยวิธีนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องคำนึงถึง
ขนาดและรูปร่างและการกระจายตัวของอนุภาคของเนื้อดินปั้น
การขึ้นรูปโดยวิธีการอัดเนื้อดินปั้นแห้งๆ( Dry and Dust Pressing ) ใช้กับการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ที่ใช้ในงานประยุกต์ทั้งทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้า เป็นวิธีการอัดผงกลมๆของเนื้อดินปั้นแห้งภานในแบบโลหะด้วยแรงอัดที่สูง ความชื้นภายในผงเนื้อดินปั้นไม่เกิน 4 % ผงเนื้อดินปั้นกลมๆเคลื่อนที่ได้อิสระแต่มีความเหนียวไม่ดีเท่าที่ควร แต่เมื่อถูกแรงอัดจะอัดตัวกันได้หนาแน่นดี
การขึ้นรูปผลิตภัณฑืโดยการหลอมเหลวแล้วเทลงแบบ
การขึ้นรูปวิธีนี้จะใช้ในการทำให้ผลิตภัณฑ์วัสดุทนไฟมีความหนาแน่นสูงและทนทานต่อการกัดกร่อนของขี้ถลุง โดยหลอมเนื้อผลิตภัณฑ์ด้วยเตาไฟฟ้า แล้วเทลงในแบบโลหะหรือ แบบทราย แต่จะเกิดช่องว่างขึ้นในระหว่างปล่อยให้ผลิตภัณฑ์เย็นตัวลง
ไม่มีความเห็น