จบลงอย่างเป็นทางการไปแล้วสำหรับการเจรจาว่าด้วยโลกร้อน ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ องค์การสหประชาชาติ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยตัวแทนจาก 192 ประเทศ เข้าร่วมการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนยาวนานถึง 16 วัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ก่อนที่จะไปประชุมเจรจาเพื่อหาข้อสรุปครั้งสุดท้ายในเดือน ธ.ค. นี้ ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
และก็เป็นไปตามคาดยังคงหาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ต่อข้อตกลงในการลดภาวะโลกร้อน มีเพียงนอร์เวย์ประเทศเดียวที่ประกาศชัดเจน ในเวทีการประชุมเจรจาว่าด้วยโลกร้อนที่กรุงเทพฯ ว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 40% ภายในปี 2563ซึ่งเพิ่มขึ้นจากความรับผิดชอบที่มีอยู่เดิมคือ 30% (ข่าวผู้จัดการ ASTV Online)
ในบรรดาอุตสาหกรรมต่างๆ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่มีสีสัน การก้าวล้ำนำหน้าทางด้านเทคโนโลยี อีกทั้งความเปลี่ยนแปลงด้านตลาดและผู้บริโภคที่รวดเร็วที่สุด สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ล้วนแล้วแต่มีวงจรชีวิตที่สั้น มีพัฒนาการก้าวกระโดด และที่สำคัญสร้างขยะจำนวนมหาศาลให้กับโลก ดังนั้นการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นกฎกติกาที่สำคัญและท้าทายผู้ผลิตอย่างมาก
บริษัทชั้นนำหลายบริษัทของโลกเริ่มประกาศนโยบาย เป้าหมาย และแสดงความรับผิดชอบต่อสภาวะแวดล้อมของโลกได้ดีและน่าชื่นชม อาทิ บริษัท Apple Inc. ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Mac OS และอุปกรณ์พกพาที่โด่งดังถึงขั้นปฎิวัติวงการอย่าง iPod และ iPhone ดังจะเห็นได้ในเว็บไซต์ http://www.apple.com/environment/ ที่ลดการใช้วัตถุดิบและชิ้นส่วนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของการผลิต