งานได้ผลคนมีสุข กรณีศึกษาบริการนวดแผนไทย
ทำงานแพทย์แผนไทยที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมา 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีมาตรฐานการจัดบริการ จนเดี๋ยวนี้มีรหัสข้อมูลสุขภาพ ตั้งแต่โครงการผสมผสานบริการแพทย์แผนไทยเข้าสู่ระบบบริการ จนกระทั่งมีกองทุนสนับสนุนการนวดไทย ของสปสช. แต่ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน คำพระว่าอนิจจังไม่เที่ยง นั้นถูกต้องแลยครับ เช่นสถานบริการที่มีการให้บริการนวดแผนไทย มาดี ดี อยู่มาวันหนึ่งหมอนวดเกิดอยากไปภูเก็ตขึ้นมา ก็ได้เลิกรากันไป ห้องนวดเลยกลายเป็นห้องเก็บเตียงไปซะ เมื่อลองมาวิเคราะห์ดู คนทำงานแพทย์แผนไทยในพื้นที่น่าจะมีแนวคิดดังนี้
1.ใบคำพรรณาการปฏิบัติงาน ขอเน้นว่าเป็นคำพรรณนา ไม่ใช่คำสั่งมอบหมายงาน ของหมอนวดต้องชัดว่ามานวด ที่เห็นบางทีบอกว่าไม่มีคนมานวดเลยให้ไปส่งหนังสือ ขับรถ หรือ ตัดหญ้า
2.เมื่อมีหมอนวดพร้อมแล้ว ก็ต้องหาคนมารับการนวด คือ คนทำงานเองก็ต้องคึดนำว่าจะมีมาจากไหนได้บ้าง นั่นคือต้องทำ แนวทางเวชปฏิบัติ ให้ชัดเจน
3.ทำมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่พอนะ เพราะคนทำงานต้องไปประชุม ไปนู่นไปนี่ โดยเฉพาะต้องไปย้าย ตรงนี้เห็นมาแยะว่าย้ายแล้วเลิก นั่นคือ ต้องมี Team Learning เรียนรู้การเป็นทีมของคนในองค์กรเดียวกัน ต้องมีการโอเคกัน ว่านวดแผนไทยเนี่ยทำอะไรได้บ้าง มีอาการป่วยไหนบ้างที่เราสามารถนวดได้
ทำ 1 2 3 แล้ว จนป่านนี้ยังไม่มีคนมาให้นวดแล้ว ลองดูข้อ 4
4.วิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับบริการนวดในชุมชนดูซิว่าทำอย่างไร
รบกวนสอบถามแลกเปลี่ยนกับพี่ต้นนะครับ
แพทยืแผนไทย จ้างเข้ามาด้วยเงินเดือน 5,700 ต่อเดือน
บ้านพักฟรี น้ำไฟฟรี
แต่ ทำงานนวดได้วันละ 1 คน เฉลี่ย 15 คน ต่อเดือน แถมมีการชักชวนให้นวดนอกเวลาราชการ และนอกสถานที่ เพื่อที่เงินจะไม่เข้าอนามัย
ถือว่าไม่ได้ยอดไม่ได้เป้า ถ้าหากทำเอกชนคงไม่ต้องบอกว่าจะเป็นการลงโทษยังไง
นี่คือปัญหาในเวลานี้ สิ่งที่ผมอยากขอซักถามคือ
1. แนวทาง ที่จะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของตัวผู้ให้บริการนวด ว่าจะต้องเป็นลักษณะ ไหนต้องทำงานได้ในขอบเขตมาตรฐานระดับใด
2. แนวทางในการบริหารจัดการ ถ้าคนนวดในปัจจุบัน ไม่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ต่อองค์กรเพียงพอ
แบบนี้ในการบริหารบุคคลเรียกว่า อันคอนโทรล ตามที่นิทานอีสปเรื่องกวางที่กินใบไม้จนต้องถูกนายพรานยิงตายไปเป็นอาหารนั้นไม่ต่างกันกับกรณีนี้ครับ เห็นว่าอาจต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อน (ลองอ่านหนังสือเรื่อง พฤติกรรมสู่ความเป็นเลิศ ของ อาจารย์ ดร.บุญทัน ดอกไธสง) เพราะดูเหมือนว่าหมอนวดของท่านยังไม่เข้าใจใน Job description ลองเอาเรื่องสมรรถนะมาคุยกันดู อาจจะเริ่มด้วยคำถามว่า "สถานการณ์เราเป็นอย่างนี้ จะแก้ไขอย่างไรดี ถ้าเพิ่มคนไข้ไม่ได้เป็น 6-8 คนต่อวัน เห็นที่อาจจะต้องเลิกจ้าง" อย่างนี้น่าจะเป็น Soft Approach ลองดูครับ หาคนไข้มาให้เขาด้วยตามแนวทางเวชปฏิบัติ เป็นกำลังใจให้นะครับ