ข้าราชการทั่วประเทศเตรียมปรับตัวครั้งใหญ่ หลัง ก.พ.ชง ครม.ออกกฎเลื่อนขั้นเงินเดือน ขรก.แบบใหม่ “ยกเลิกระบบขั้น” เสนอให้ “ผู้บังคับบัญชา” พิจารณาผลงานเป็นตัววัดแทน พร้อมแจ้งลูกน้องให้ทราบข้อมูลเฉพาะแต่ละบุคคล และต้องบอกเหตุผล “ขรก.แห้ว” ที่ไม่ได้ขึ้นเงินเดือนด้วย เผยตัดทิ้งวิธีหารเฉลี่ยให้แต่ละคนได้รับการเลื่อนเงินเดือนเท่ากันไปโดยปริยาย ระบุเรื่องผ่านเริ่มมีผลใช้ 1 ต.ค.นี้ทันที ขณะที่ “ก.พ.ร.” เสนอกันงบกว่า 6 พันล้านไว้จ่ายเป็นโบนัส ขรก.ปี 53
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 29 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จะเสนอเรื่องระบบการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญและร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. .....ให้พิจารณา โดยมีสาระสำคัญ อาทิ ให้มีการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญ ปีละ 2 ครั้งคือ ในวันที่ 1 เม.ย. และวันที่ 1 ต.ค. โดยมีการกำหนดกรอบวงเงินรวมของส่วนราชการและจังหวัด ในการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบของการประเมินไม่เกินร้อยละ 3 ของอัตราเงินเดือนข้าราชการในหน่วยงานนั้น ๆ ซึ่งวงเงินงบประมาณแต่ละรอบจะแยกจากกัน นอกจากนี้กำหนดกรอบวงเงินการเลื่อนเงินเดือนรายบุคคลไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานเงินเดือน และให้ยกเลิกระบบโควตา 2 ขั้นและกำหนดจำนวนร้อยละ 15 ของจำนวนคนในแต่ละหน่วยงานอีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนนั้น ให้พิจารณาตามผลการปฏิบัติราชการ แทนที่จะใช้วิธีหารเฉลี่ยให้ข้าราชการแต่ละคนได้รับ การเลื่อนเงินเดือนเท่ากันเหมือนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่ให้ยึดหลักการจ่ายค่าตอบแทนตามค่างานและผลงาน และให้เลื่อนขั้นเงินเดือนเป็นร้อยละของฐานเงินเดือนในแต่ละระดับและประเภทของตำแหน่ง จากเดิมที่การเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการจะพิจารณากำหนดให้เป็นขั้น โดยกำหนดให้ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจสั่งเลื่อนเงินเดือน จัดให้มีการแจ้งผลการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละครั้งให้ข้าราชการผู้นั้นทราบเป็นข้อมูลเฉพาะแต่ละบุคคล และกรณีมีผู้ไม่ได้รับการเลื่อนเงินเดือนให้แจ้งเหตุผลให้ผู้นั้นทราบด้วย ทั้งนี้ให้นำข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทำงาน การรักษาวินัย การปฏิบัติตนเหมาะสม และข้อควรพิจารณาอื่น ๆ มาประกอบการพิจารณา ในการเลื่อนขั้นเงินเดือนด้วย
รายงานข่าวแจ้งต่อว่า อย่างไรก็ตามห้ามมิให้นำเหตุในการถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง หรือถูกฟ้องคดีอาญามาเป็นเหตุในการไม่พิจารณาเลื่อนเงินเดือน แต่กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาเลื่อนเงินเดือน กรณีถูกสั่งลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ และถูกศาลพิพากษาในคดีอาญาให้ลงโทษตามความผิดที่กำหนดด้วย ทั้งนี้ ก.พ. จะนำหลักการของระบบการเลื่อนขั้นเงินเดือน ซึ่งจัดทำ เป็นร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. .... และหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ทำเป็นหนังสือเวียนแจ้งให้ อ.กพ. และทุกส่วนราชการรับทราบและนำไปปฏิบัติต่อไป โดยในร่างกฎ ก.พ. ดังกล่าวจะให้มีผลใช้บังคับ
ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 52 เป็นต้นไป
รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเรื่องการจัดสรร เงินรางวัล สำหรับส่วนราชการจังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2552 โดยขอให้ ครม.ให้ความเห็นชอบกับการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการ โดยใช้งบเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ 2552 ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา
ในส่วนที่เหลือนอกเหนือจากร้อยละ 50 ของ งบเหลือจ่าย แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่ ครม. เห็นชอบให้ใช้เพื่อการพัฒนาองค์การและพัฒนาบุคลากรไปแล้ว โดยให้กันงบประมาณปี 2552 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายใน ปีงบประมาณ 2553 โดยงบประมาณที่ต้องใช้สำหรับจัดสรรเป็นเงินรางวัลแก่ส่วนราชการ ดังกล่าวจำนวน 6,835 ล้านบาท
จากการศึกษาทบทวนเรื่องงบเหลือจ่ายปี 2552 ของส่วนราชการ พบว่า กรมบัญชีกลางสามารถจัดทำรายละเอียดได้ประมาณ 15-20 วันภายหลังวันสิ้นปีงบประมาณ ซึ่ง ขณะนี้มีข้อมูลงบเหลือจ่ายปี 51 ของส่วนราชการต่าง ๆ ที่กรมบัญชีกลางจัดทำไว้ ประมาณ 5,323 ล้านบาท แต่อาจมีข้อจำกัดที่บางส่วนราชการไม่มีเงินงบเหลือจ่าย
ปี 52 หรือมีแต่ไม่เพียงพอ
เดลินิวส์ แนวหน้า ไทยรัฐ 29 กันยายน 2552
ขอบคุณเช่นกันค่ะ พยายามหาร่างมาอ่านเพื่อทำความเข้าใจแต่หาไม่พบ ขอความอนุเคราะห์หน่อย