มิติใหม่กับการบริหารอย่างมืออาชีพ ของหัวหน้าโครงการ ซี.ซี.เอฟ.ระดับภูมิภาค
เมื่อวันที่ 24-25 กันยายน 2552 ที่ผ่านมา นายจักรพันธ์ ศักยพันธ์ ตำแหน่งผู้ประสานงานอาวุโสภาค 4 ตัวแทนของมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟ.ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับผิดชอบโครงการซี.ซี.เอฟ 6 จังหวัด 7 โครงการ ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม สกลนคร 2 โครงการ บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองบัวลำภู จัดการประชุมเจ้าหน้าที่โครงการระดับภาค จำนวน 45 คน ณ โรงแรมบุญเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร โดยเจ้าหน้าที่ ซี.ซี.เอฟ. แยกเป็นตำแหน่งต่าง ๆ ได้แก่ ระดับผู้บริหารหรือที่เรียกว่าหัวหน้าโครงการ ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ ตำแหน่งผู้ทำงานด้านความสัมพันธ์กับผู้อุปการะ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่บัญชีและธุรการ และตำแหน่งเจ้าหน้าที่โครงการ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ได้เน้นสาระสำคัญในเรื่องการคิดนวัตกรรมต่าง ๆ ที่คนทำงานต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้านความต้องการของผู้อุปการะที่มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ด้านการพัฒนาโครงการให้มีคุณภาพความเป็นมืออาชีพ และด้านการรับมือกับสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง นอกจากนั้นยังเน้นไปที่การประชาสัมพันธ์งานโครงการ การสื่อสารอย่างไรให้มีคุณภาพ และจุดมุ่งหมายของการทำงานเป็นทีม ที่มาจากคำว่า “PAK” หรือ “ปาก” โดยมีที่มาจาก PARTICIPATION คือความร่วมมือ ATTITUDE คือทัศนคติและKNOWLADGE คือความรู้ความเข้าใจ
การประชุมครั้งนี้ หัวหน้าโครงการฯได้จับเข่าคุยกัน ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละโครงการและตกผลึกถึงแนวคิดในการทำงานที่มองผ่านเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มีความละเอียดอ่อน และได้จัดเป็นภารกิจเร่งด่วนที่จะต้องกลับไปทำคือ
* การเสริมกำลังใจของทีมทำงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การสังสรรค์เนื่องในโอกาสวันสำคัญ การทัศนศึกษานอกสถานที่แบบซำเหมา (ไปพร้อมกับการเปิดใจ) การเชิญชวนครอบครัวของคนในทีมมากินข้าวร่วมกัน(ตุ้มโฮม) การดูแลครอบครัวของทีมงาน ในโอกาสเกิด แก่ เจ็บ ตาย
* การทำงานแทนกันได้ในบางโอกาส การแบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน การให้ความสำคัญกับปริมาณงาน
* การใช้คนให้เหมาะสมกับงาน ให้ความสำคัญกับทักษะของเจ้าหน้าที่ในการเสริมและเพิ่มเติม
* การรับฟังลูกน้องอย่างเปิดใจ และพร้อมที่จะให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ และแก้ไขปัญหา ประสานงานขอความช่วยเหลือจากภาคีเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
* การเรียนรู้สถานการณ์ร่วมกัน มีการคุยกันอย่างสม่ำเสมอเป็นกิจจะลักษณะแต่ใช้เวลาไม่นานเกินไป
* กินข้าวร่วมกัน ทำอาหารกินร่วมกันบ้างที่มีโอกาส หมายถึงในสำนักงานมื้อเที่ยง
และนี่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดีกับการเริ่มต้นที่มีการให้สัญญาประชาคมระหว่างหัวหน้าทั้งเจ็ดคน ที่จะมีการปรับเปลี่ยนทัศนะคติเพื่อให้นำไปสู่การร่วมมือ ร่วมใจ และถือเป็นวัฒนธรรมขององค์กร “ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้น”
การอบรมพัฒนาในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดใหม่ ๆ ในการทำงาน
เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่
ขอเป็นกำลังใจ ในการก้าวต่อไปของ นักพัฒนา ซีซีเอฟ ทุกท่านค่ะ