โรงเรียนเปี่ยมสุข


งานเกิดผล คนเป็นสุข คิดบวก ผนวกแจ่มใส จริงใจต่อกัน หมั่นประนีประนอม พร้อมสร้างสัมพันธ์ ฝ่าฟันความเครียด

 

 

การพัฒนาสถานศึกษาให้เป็นองค์กรที่เปี่ยมสุข

โดย พรชัย   ภาพันธ์
ผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา๖๓(ชุมชนบ้านคำแดง)
อำเภอเมือง  จังหวัดยโสธร 35000

 

    ความสุขถือได้ว่าเป็นพลังขับเคลื่อนให้มนุษย์มีความอยากที่จะใช้ชีวิตในโลกนี้ต่อไปโลกยุคใหม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมือง รวมทั้งการไหลบ่าของวัฒนธรรมอื่น ทำให้มนุษย์ใฝ่หาความสุขมากยิ่งขึ้น  องค์กรยุคใหม่จึงตระหนักถึงการจัดการมนุษย์  (Human Management) และประสิทธิภาพขององค์กร ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของบุคคลและกลุ่มบุคคลจะกระทำการต่าง ๆ เพียงผลประโยชน์ของตน  การเป็นผู้นำจึงต้องเรียนรู้พฤติกรรมของมนุษย์โดยปฏิบัติหน้าที่หลัก คือ นำองค์กรสู่ความสำเร็จและรักษาผลประโยชน์ของผู้ร่วมงาน พัฒนาผู้เรียนให้
เป็นคนดี  เป็นคนเก่งและมีความสุข  สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองและชุมชน  ได้มีส่วนร่วมสร้างความสำเร็จ การสร้างองค์กร ให้มีสุขภาพดีและเปี่ยมสุข จึงเป็นภารกิจที่ท้าทายความสามรถของผู้บริหารที่ต้องเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 แนวคิดพื้นฐานเกี่ยวกับความสุข

      คนเราจะมีความสุขและดำรงตนอยู่ได้จะต้องเกิดจากการได้รับการตอบสนองความต้องการพื้นฐาน คือ ชีพรอด ปลอดภัย ใฝ่รัก พรรคนิยม อุดมการณ์ ซึ่งเป็นความสุขภายนอก ส่วนความสุขที่ยั่งยืนตามหลักธรรมเกิดจากความสุขจากการมีทรัพย์ สุขจากการใช้ทรัพย์  สุขจากการไม่เป็นหนี้และสุขจากการประพฤติดี ซึ่งพระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตฺโต)( 2546 ) ได้กล่าวถึง ความสุข 5  ชั้น ดังนี้

      ชั้นที่1 ความสุขจากการเสพวัตถุหรือสิ่งบำรุงบำเรอกายภายนอกที่นำมาปรนเปรอ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ของเรา ทำให้เกิดความคิดที่จะได้จะเอา จึงควรฝึกตัวเองอย่าให้ความสุขต้องขึ้นอยู่กับวัตถุมากเกินไป โดยฝึกคิดว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้

      ชั้นที่ 2  ความสุขจากการเมตตา การให้แบ่งปันแก่บุคคลอื่นทำให้คนอื่นมีความสุข ย่อมทำให้เกิดสุขในใจของเรา

      ชั้นที่3  ความสุขจากการดำเนินชีวิต จงมีความสุขจากธรรมชาติของภารกิจที่ตนทำ เช่น ครูควรมีความสุขจากความสำเร็จ ความเจริญงอกงาม ของศิษย์มากกว่ารายได้จากการทำงาน

      ชั้นที่ 4 ความสุขจากความคิดสร้างสรรค์ คิดสร้างคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อปรุงใจให้เป็นสุขอยู่เสมอ 5  ประการ คือ

         4.1 ปราโมทย์ ความร่าเริงเบิกบานใจ

        4.2 ปิติ ความอิ่มใจ

        4.3 ปัสสัทธิ ความสงบเย็น ผ่อนคลายกายใจ ไม่เครียด

        4.4 ความสุข ความโปร่งโล่งใจ คล่องใจ สะดวกใจ ไม่มีอะไรมาบีบคั้น

        4.5 สมาธิ ภาวะจิตอยู่กับสิ่งที่ต้องการ  ได้ตามต้องการไม่มีอะไรมารบกวน จิตอยู่ตัวของมัน

     ชั้นที่5 ความสุขจากการมีปัญญา รู้เท่าทันความจริงของโลกและชีวิต  การเข้าถึงความจริงด้วยปัญญาเห็นแจ้ง จะทำให้อยู่อย่างผู้เจนจบชีวิต

พฤติกรรมของผู้บริหารที่จะสร้างความสุขในสถานศึกษา

       ผู้บริหารคือผู้นำองค์กรสู่ความสำเร็จ   ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จจึงเกิดจากการสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ให้ผู้ร่วมงาน ซึ่งประหยัด  กองศรีมา( 2537 : 1 -  69 )ได้เสนอแนะแนวทาง การบริหารเพื่อสร้างความสุขในสถานศึกษา  ดังนี้

      1.  ผู้บริหารต้องเรียนรู้จิตใจ  หรือมีกลยุทธ์ที่จะคบกับบุคคลอื่นดังคำกล่าวของ  ซุนวู  ที่ว่า  รู้จักข้าศึกและรู้จักตนเองแม้รบร้อยครั้งก็ไม่อันตราย

       2. จงจูงใจด้วยความจริงใจ  ผู้บริหารต้องแสดงออกถึงความจริงใจ จึงจะได้รับความจริงใจตอบ ดังคำกล่าวที่ว่า  อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเราเช่นไรเราก็ควรปฏิบัติต่อผู้อื่นเช่นนั้น

       3. จงพูดให้ประทับใจ  ความสามรถในการพูดสร้างความสำเร็จได้พอ ๆ กับความสามารถในการทำงาน

      4.  จงซื้อใจเพื่อนร่วมงานโดยใช้หลัก  เมตตาธรรม  ความยุติธรรม  และโอบอ้อมอารี  ต้องเข้าใจและเห็นนอกเห็นใจคนอื่น

      5.  สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน  บรรยากาศโรงเรียนสะอาดร่มรื่น   ผู้บริหารทักทายยิ้มแย้ม  ไม่จ้องจับผิด  ยุยงให้เกิดความแตกแยกและที่สำคัญต้องมีศิลปะในการชมเชย ที่หลากหลาย

      6. ควบคุมอารมณ์ในขณะทำงาน แม่ทัพที่สามารถไม่แสดงตนเป็นผู้กล้าหาญ นักรบที่สามารถไม่โกรธง่าย  ผู้รบที่ชนะได้ดีเยี่ยมนั้น คือ ผู้ที่ไม่ต้องรบ  ผู้ที่บังคับบัญชาคนได้ดีเป็นผู้ที่มีความ อ่อนโยนต่อผู้น้อย

      7. มองโลกในแง่ดีทำให้มีความสุข  คนที่มีสุขภาพที่ดีจะมีลักษณะ ท่าทางกระฉับกระเฉง  หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส  อิ่มเอิบ  การมองโลกในแง่ดีทำให้สุขภาพจิตดี  มีความสุข  และยังมีกำลังใจเข้มแข็งที่จะต่อสู้และฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ดังคำกล่าวของ  ดร.ซุนยัดเซน  ถ้าใจเราเชื่อมั่นว่าเราจะทำได้ต่อให้ย้ายภูเขาถมทะเล  ในที่สุดก็สำเร็จจนได้  แต่ถ้าใจเราคิดว่า  ทำไม่ได้  แม้จะง่ายแค่พลิกฝ่ามือก็ยังไม่มีวันประสบความสำเร็จ

      8. ผู้บริหารจะทำงานที่เพื่อนร่วมงานทำไม่ได้เท่านั้น   ผู้บริหารจะต้องจัดลำดับความสำคัญของงานก่อน  ผู้บริหารที่ดีคือ  คนที่ทำให้บุคคลธรรมดา ๆ  สามารถทำงานที่เหนือธรรมดาได้สำเร็จด้วยดี  หน้าที่ของนักบริหาร คือ การมองอนาคตขององค์กรและสร้างผู้นำในอนาคตขึ้นมา

      9.  ผู้ริหารคือเซลแมนของความก้าวหน้า  ผู้บริหารนั้นดูให้ลึกซึ้งก็เหมือนเซลแมนขายบรรดาพวกนามธรรมทั้งหลาย เช่นขายความกระตือรือร้น ความคิดริเริ่ม  มีความขยันอดทนเสนอขายสินค้าไม่หยุดยั้งเพื่อให้เพื่อนร่วมงานยอมรับให้ได้

    10. ผู้บริหารจะต้องดูคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น เล่นให้ถูกบท ในขณะเดียวกันผู้บริหารจะต้อง ดูตนออก บอกตนได้ ใช้ตนเองเป็น เห็นตนเอง คิดวิเคราะห์รอบด้าน บางโอกาสต้องโง่เป็นเพราะคนที่โง่ไม่เป็นเป็นใหญ่ยาก  ดังคำกล่าวของเล่าจื้อว่า ผู้นำที่จัดว่าดีที่สุดนั้น ผู้คนรอบข้างจะไม่สังเกตเห็นว่ามีผู้นำ

ครูกับเคล็ดลับการทำงานให้มีความสุข

         การทำงานให้สนุกและมีความสุขกับงาน เราต้องเปลี่ยนแปลงทัศนคติต่องานว่าความสุขไม่ใช่การทำสิ่งที่อยากทำแต่ความสุขกับงานต้องมีความสุขกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำ ซึ่งรัชเขต  วีสเพ็ญได้เสนอเคล็ดลับการทำงานให้มีความสุข ดังนี้

        1. คิดบวก ความคิดของเราเป็นแรงจูงใจให้เกิดความสุขหรือความทุกข์ หากเราคิดว่าความสุขหรือความทุกข์เปรียบเสมือนเหรียญที่มีสองด้าน ท่ามกลางความทุกข์เราจะมีความสุขซ่อนเร้นอยู่ การสร้างทัศนคติในการคิดทางบวกคือการฝึกคิดให้ยืดหยุ่น คิดอย่างมีเหตุผล คิดหลายแง่มุม คิดแต่เรื่องดีๆ ที่สำคัญเราต้องคิดถึงคนอื่นบ้าง

        2. ผนวกความแจ่มใส การสร้างบรรยากาศที่ชดชื่นแจ่มใส จะเกิดรอยยิ้มเกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รอยยิ้มเริ่มจากยิ้มเล็กๆ ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ จนถึงยิ้มกว้างใหญ่ การยิ้มเป็นการสร้างมิตรภาพที่ไม่ต้องลงทุนแต่คุณที่ได้อนันต์

        3. จริงใจต่อกัน ท่ามกลางภาวะการทำงานที่ต้องแข่งขัน ยิ่งต้องใช้ความจริงใจต่อกันเพื่อร่วมมือกันสร้างองค์การให้ประสบความสำเร็จ ผู้นำต้องมีพรหมวิหาร 4  คือ ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ส่วนเพื่อนร่วมงานจงแสดงความเป็นเพื่อนยามยาก เมื่อประสบเพื่อนทุกข์หรืออุปสรรคจงแสดงความเห็นใจและให้กำลังใจ การเป็นมิตรในยามยากสัมพันธภาพอันลึกซึ้งจะเกิดขึ้นได้

        4. หมั่นประนีประนอม คนที่จะเป็นนักประนีประนอมเปรียบได้เสมือนนักการทูต สามารถประสานงานได้กับทุกคน ผู้นำองค์การต้องมีทักษะในการประนีประนอมและควรมีทัศนคติแห่งการประนีประนอม ดังนี้

                                ฉันดี                       เธอเลว

                                ฉันเลว                   เธอดี

                                ฉันเลว                   เธอเลว

                                ฉันดี                       เธอดี

         5. พร้อมสร้างสัมพันธ์  การสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานเป็นทักษะที่จำเป็นของบุคคลในองค์การ การฝึกตนเองให้เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ เราควรแสดงพฤติกรรมต่อไปนี้ คือ แย้มยิ้มพิมพ์ใจ ปราศัยทักทาย พร้อมพรักเอ่ยนาม ติดตามช่วยเหลือ เหนือชั้นยกย่อง ถูกต้องอารมณ์ขัน มุ่งมั่นเอาใจใส่  เข้าใจอ่อนน้อม เพียบพร้อมการฟัง กำลังใจให้เธอ

         6. ฝ่าฟันความเครียด ความเครียดในที่ทำงานเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่องานเร่งด่วนหรือขาดข้อมูลในการตัดสินใจ เราจึงหาวิธีคลายเครียดโดยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฝึกการหายใจทำสมาธิ การจินตนาการเพื่อคลายเครียดจากใจสู่กาย ถ้ามีโอกาสก็ควรหาทางนวดคลายเครียด

 การจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข

        คนทุกคนต้องการความสุขโดยเฉพาะเด็กการที่เขาจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ  อย่างมีความสุข เป็นสิ่งที่เขาปรารถนาที่สุด ทำให้เด็กมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ การที่เด็กจะเรียนรู้อย่างมีความสุขจะต้องได้เรียนรู้ภายใต้บรรยากาศ  ที่ครูให้การยอมรับในในความสามารถ การได้รับประสบการณ์ของความสำเร็จอยู่เสมอจนเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง การได้รับการพัฒนาความสามารถที่มีอยู่อย่างแตกต่างเต็มศักยภาพ ครูต้องรับรู้ความถนัดและความสนใจของเด็กดึงสิ่งที่เด็กมีเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ทันที ความเป็นกัลยาณมิตรของครูและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ครูยุคใหม่ต้องให้ความเมตตา จูงใจให้เด็กตื่นเต้นไปกับบทเรียนแต่ละบทมีกำลังใจที่จะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ อันเป็นบทเรียนที่น่าสนุกน่าสนใจชวนให้ติดตาม บทเรียนที่ดีที่สุดคือบทเรียนที่เด็กเป็นผู้สร้างขึ้นอย่างมีความหมายและนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการดำรงชีวิต หลักสูตรที่ดีที่สุดคือ ประสบการณ์จากชีวิตจริงในชุมชนซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ( 2541 : 22 - 24 ) ได้เสนอแนวทางในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข ดังนี้

         1. บทเรียนต้องเป็นเรื่องใกล้ตัว มีความหมายมีประโยชน์ เริ่มจากง่ายไปหายาก มีความต่อเนื่องในเนื้อหาและขยายวงไปสู่แขนงอื่น ๆ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจต่อชีวิตและธรรมชาติรอบตัว

         2. กิจกรรมการเรียนต้องมีความหลากหลายสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม มุ่งพัฒนากระบวนการคิด มีอิสระ เด็กกับการเล่นเป็นของคู่กัน การเอาการเล่นและการเรียนรู้แฝงเข้าไปในการเรียน ทำให้เด็กตื่นเสมอกับการเรียนรู้ ให้เด็กได้ลองทำอะไรเองให้มากที่สุด เด็กได้ลองคิด ลองทำ ลองแก้ปัญหาเองโดยครูช่วยตั้งโจทย์

         3. สื่อการเรียนต้องน่าสนใจ สื่อสารสร้างความเข้าใจได้ชัดเจน ตรงประเด็นเชื่อมโยงสาระที่เรียนจนนักเรียนได้ความคิดรวบยอดในเรื่องนั้น ๆ จนรู้ชัด สื่อควรเป็นสิ่งรอบกายซึ่งเด็กสนใจที่จะเรียนรู้

         4. การประเมินผล มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนเป็นรายบุคคล ไม่เป็นการกดดันหรือสร้างความเครียด ประเมินเพื่อเพิ่มพูนพัฒนาการ เปิดโอกาสให้นักเรียนประเมินตนเอง เปิดใจรับการประเมินซึ่งกันและกัน เป็นการประเมินเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและเติมพลังในการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน

         5. ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียน ในระหว่างเรียนครูต้องแสดงออกด้วยความนิ่มนวล เป็นมิตร มีเมตตา อบอุ่น เข้าใจและยอมรับกันและกันให้กำลังใจกัน ร่วมมือในเชิงสร้างสรรค์ ไม่เข้มงวดจนนักเรียนเกิดความเครียด ซึ่งเป็นการสกัดกั้นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และการแสดงความคิดที่หลากหลาย ครูควรมีบุคลิกลักษณะเหมาะสมในด้านต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อนักเรียนอย่างชัดเจน ดังนี้

               ถ้าครูแสดงงความเป็นมิตร จะทำให้นักเรียนรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย

               ถ้าครูยิ้มแย้มแจ่มใส จะทำให้นักเรียนแจ่มใส ร่าเริง

               ถ้าครูมีอารมณ์ขัน จะทำให้นักเรียนสนุกสนาน

               ถ้าครูกระตือรือร้น จะทำให้นักเรียนกระปรี้กระเปร่า อยากเรียนรู้

               ถ้าครูมีน้ำเสียงนุ่มนวล จะทำให้นักเรียนนักเรียนสุภาพอ่อนน้อม

               ถ้าครูแต่งตัวเรียบร้อย จะทำให้นักเรียนทำตามแบบอย่าง

               ถ้าครูให้ความเมตตาปราณี จะทำให้นักเรียนมีจิตใจอ่อนโยน เยือกเย็น สุขุม

               ถ้าครูให้ความยุติธรรม จะทำให้นักเรียนศรัทธา เชื่อมั่นในการทำความดี

            สถานศึกษาเป็นสถาบันที่มุ่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาทั้งมวล คนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนามีความก้าวหน้าที่ยั่งยืน โลกในอนาคตมีการแข่งขันที่สูงยิ่ง คนมีทางเลือกที่จะแสวงสิ่งที่ดีกว่าเสมอและมีความต้องการอย่างไม่มีขีดจำกัด การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความรู้คู่ความดี เป็นที่พึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จึงเป็นทางเลือกและทางรอดในอนาคต ผู้บริหารจะต้องเรียนรู้ที่ปรับเปลี่ยน ให้เกิดการบริหารเพื่อการเปลี่ยนแปลงอย่างมีกลยุทธ์ บทบาทของครูว่า ควรเป็นผู้ชี้นำให้ผู้เรียน เกิดความรู้ด้วยตนเองมากกว่า  การเป็นผู้สอน จะต้องกระตุ้นให้นึก   ฝึกให้คิด  สะกิดให้ปฏิบัติ  ฝึกหัดจนชำนาญ จัดการอย่างเป็นระบบ ในขณะที่ชุมชนควรจะมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของสถานศึกษา โดยสร้างความรู้สึกให้ทุกฝ่ายเป็นเจ้าของร่วมกัน งานของเราจึงมีเป้าหมายอยู่ที่เด็ก  ความสุขจากความสำเร็จของงานคือความเบิกบานที่ฝังแน่นในจิตใจทุกคน

 เอกสารอ้างอิง

คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ,  สำนักงาน. ก้าวสูมาตรฐาน การเรียนรู้…
           
สู่ทักษะชีวิต. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2541

ประหยัด   กองศรีมา. การบริหารงานหนึ่งนาที อุบลราชธานี : หน่วยศึกษานิเทศก์
            กรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 10 , 2537

พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตฺโต). คู่มือชีวิต กรุงเทพฯ : กองทุนวุฒิธรรมเพื่อการศึกษาและ
            การปฏิบัติธรรม,2546

รัชเขต  วีสเพ็ญ.  ทำงานให้สนุกและมีความสุขกับงาน

 

บทความนี้ ได้รับการเผยแพร่ทางวาสารวิชาการ ปีที่ 12 ฉบับที่2 (เมษายน - มิถุนายน 2552)

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 300119เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2009 13:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • สวัสดีค่ะ คุณครูพรชัย
  • แวะมาชื่นชมผลงานดี ๆ 
  • แบบอย่างดีที่สุดแล้ว อยู่ที่ว่าใครจะเก็บเกี่ยวได้มากกว่ากันต่างหาก

สวัสดีค่ะ ท่านผอ.

ชื่นชมค่ะ

ครูอ้อยเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ อ่านชีวิตครูอ้อยที่ ครูสิริพร กับบันทึก

เรียน คุณครูสิริพร / ครูอ้อย ที่หวานตลอดเวลา(น้ำอ้อยน้ำตาล)

อ่านบันทึกครูอ้อยที่ไร ทำให้อยากอ่านนักจิตวิทยาเขาบอกว่าสีและการเคลื่อนไหว มีอิทธิพลต่อความสนใจ

วันนี้จะก้าวสู่บทเรียนที่ครูอ้อยบอก เย็นนี้จะรายงานการประเมินผลงานตนเอง พร้อมครับ สู้

สวัสดีครับท่านผอ.พรชัย

ถ้าโรงเรียนมีผู้นำที่มีความเป็นผู้นำทางวิชาการอย่างท่าน

เชื่อว่าจะนำไปสู่โรงเรียนเปี่ยมสุขได้ไม่ยาก

ขอชื่นชมครับ

ขอบคุณครับ

เรียนคุณบินหลาดง

บทความเรื่องนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการฉบับล่าสุดครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท