"ความตาย"...อีกหน้าที่ของชีวิต


"ความตาย" เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้ไม่รู้ แต่ก็อาจเป็นวาระสุดท้ายที่งดงาม สำหรับผู้ที่ดำรงชีวิตอย่างมีสติอยู่เสมอ

"ความตาย" เมื่อเห็นคำๆนี้ แต่ละคนนึกถึงอะไร? ความน่ากลัว ความเจ็บปวดทรมาน ความเสียใจของญาติพี่น้อง การจากไปอย่างไม่มีวันกลับ...

บ่ายนี้ข้าพเจ้ามีโอกาสได้พบเห็นศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ 2 ราย ผู้พบเห็นเหตุการณ์เล่าว่า เด็กทั้งคู่ขี่จักรยานยนต์แฉลบล้ม แล้วรถยนต์ที่สวนมาแล่นทับ ทำให้เด็กนักเรียนที่ทั้งคู่เสียชีวิตทันที ณ ที่เกิดเหตุ ภาพที่ไปพบเห็นชวนแก่การสลดสังเวชใจ เพราะเด็กทั้งสองนั้นคอหัก กะโหลกศีรษะยุบ มีเลือดออกจากปาก จมูกและหูทั้งสองข้าง การจากไปก่อนวัยอันควรสร้างความเสียใจแก่ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะบิดามารดาที่ร่ำไห้จากการจากไปอย่างกระทันหันของบุตรตน

หลังจากนั้น ก็ได้พบกับคนไข้ที่บ่นอยากตาย....พูดวนไปวนมาเรื่องอยากจะตายและการคิดจะฆ่าตัวตาย ในขณะที่อีกหลายคน มายังโรงพยาบาลเพราะกลัวตนเองจะตาย บางคนถึงขนาดนอนไม่หลับเพราะกลัวตายก็มี....

ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายบางราย พอรู้ว่าตนเองเป็นมะเร็ง ก็เตรียมพร้อมที่จะพบกับวาระสุดท้ายของชีวิตอย่างมีสติและพลังใจที่กล้าแข็ง มีญาติคอยให้การดูแล และให้กำลังใจใกล้ๆ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าแม้ว่าจะเป็นโรคร้ายแต่ก็ช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้พบกับวาระสุดท้ายเช่นนั้น ผิดกับบางรายที่ญาติต้องการยื้อชีวิต ให้แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ ปั๊มหัวใจ ฉีดยากระตุ้นการบีบตัวของหัวใจ ยื้อแย่งชีวิตแข่งกับมัจจุราชอย่างเต็มที่ เพียงเพื่อจะต่อเวลาให้ลมหายใจยืนยาวอีกสักครู่...

"ความตาย" ในทรรศนะของข้าพเจ้า เป็นหน้าที่หนึ่งของมนุษย์ที่ติดตัวมาพร้อมกับการเกิด ไม่ว่าใครจะกลัวตายหรือไม่ก็ตาม สักวันหนึ่งความตายก็ต้องมาเยือน (แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน) แต่จะมีสักกี่คนที่เตรียมตัวพร้อมสำหรับหน้าที่นี้ที่ ในทางพุทธศาสนาสอนให้คนหมั่นเจริญมรณานุสติ คือการระลึกถึงความตาย เพราะเราไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า เราจะตายเมื่อใด บางคนพอจะใกล้ตายก็พะวงกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่ายังไม่ได้ทำ ยังมีห่วงอีกมากมาย ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ทำปัจจุบันให้เป็นปัจจุบันที่ดีที่สุด ใช้ชีวิตให้มีคุณค่ามากที่สุด เพื่อที่ว่า เมื่อวาระสุดท้ายมาถึงจะได้ไม่ต้องเสียใจว่ายังไม่ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับความตายที่จะมาถึง

"ความตาย" เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้ไม่รู้ แต่ก็อาจเป็นวาระสุดท้ายที่งดงาม สำหรับผู้ที่ดำรงชีวิตอย่างมีสติอยู่เสมอ       

                                                                                           

จะมีสักกี่คนที่ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท  และเตรียมพร้อมที่จะตายอย่างมีคุณค่า?

 

หมายเลขบันทึก: 299025เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2009 18:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ขอกล้าเผชิญกับความตายอย่างทรนงค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับธรรมานุสติเตือนใจ

ถูกต้องแล้วคนเรามักจะกลัวในสิ่งที่เป็นจริงแท้

แต่กลับหลงระเริงกับสิ่งจอมปลอม

เมื่อพูดถึงความตายขึ้นในกลุ่มคนตัวไปเค้าจะมองคนที่พูดแบบไม่สู้ดีนัก

เพราะคิดว่า..คำนี้เป็นกาลกิณี..ไม่ควรพูด

แท้ที่จริงแล้วในสารบบแห่งพระพุทธศาสนาพระองค์พยายามตรัสสอนให้เราระลึกถึงความตาย(มรณานุสสติ)ตลอดเวลา

ทุกอย่างหากเราทำความรู้จักกับมันทุกมุมแล้ว

เมื่อวันหนึ่งมันมาหาเราหรือเราจะไปหามัน

ก็สามารถที่จะยิ้มอย่างหน้าชื่นตาบานได้ทุกลมหายใจ..

สาธุๆๆ

สวัสดีค่ะ

- น่ากลัว

- แต่ต้องยอมรับเพราะสิ่งแท้จริงแน่นอน

- คนป่วยเป็นมะเร็งมีโอกาสรู้ เตรียมสติได้ดี

- คนไม่ป่วย ไม่รู้ ทำตัวประมาท ช่างน่าสงสาร

blue_star

เมื่อ ส. 19 ก.ย. 2552 @ 22:02

#1560876 [ ลบ ]

ติดตามอ่านบันทึกค่ะ...นึกว่าตะเคียนจะมีแต่เกี่ยวกับเรื่องผีสางซะอีก เพิ่งรู้ว่าเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติด้วย

............................................................................

ใช่ค่ะ เราส่วนใหญ่จะคิดถึงเรื่องผีสาง คุณไสย ค่ะ

เมื่อก่อนกลัวตายมากค่ะ

หมายถึงหลังความตาย

แต่เพราะศึกษาพระศาสนา จึงได้รู้ว่า ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ

อ้อ ขอบคุณมากค่ะ สำหรับภาพมาลัยข้าวตอกที่ส่งให้ เลยได้เห็นเป็นครั้งแรกค่ะ

  • หากเรารู้วันตายได้ความตายคงไม่น่ากลัวนัก
  • แต่นี่วันตายเป็นวันที่ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า
  • การฝึก หมั่นเจริญภาวนาบทมรณานุสติอย่างสม่ำเสมอเตรียมพร้อมยอมรับ จึงไม่รู้ว่าจะเพียงพอหรือไม่ .....................................
  • เพราะเราไม่รู้อีกล่ะว่า  ณ วันนั้น ณ  สถานการณ์จริง พลังจิตของเราจะกล้าแข็งเพียงใด
  • เพียรพยายามต่อไป ......... กันนะเรา
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท