ฮอมปอย : จากวัฒนธรรมเก่าสู่แนวทางใหม่เพื่อพัฒนาการศึกษา
บทเรียน วิถีชีวิตต่าง ๆ ของผู้คนในอดีต หากคนรุ่นหลังรู้จักนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบริบท ความเปลี่ยนแปลงของสังคมจะก่อเกิดการพัฒนาที่ต่อยอด ให้คุณประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อตนเองและสังคมในภาพรวม
ผู้คนชนบทภาคเหนือในอดีต มีน้ำใจและความเอื้ออาทรมอบให้แก่กันและกันเสมอมา การมีชีวิตที่เรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติการที่ใครจะสร้างบ้านเพื่ออยู่อาศัยหรือสร้างครอบครัวใหม่ เพียงแค่เดินบอกเพื่อนบ้านก็จะมาช่วยกันทำอย่างเต็มอกเต็มใจ ใครมีฟัก มีผัก มีไก่ก็นำมาช่วยเหลือ ผู้ชายออกแรงกาย ผู้หญิงช่วยกันทำอาหาร ผู้เฒ่าผู้แก่คอยให้คำแนะนำตามประสบการณ์เดิมและคอยให้กำลังใจแก่คนรุ่นหลัง เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นและเรียนรู้สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำเพื่อนำไปใช้ในวันข้างหน้า เป็น การร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือในสิ่งที่ตนมีและทำได้คนละไม้ละมือ เรียกว่าเป็นการฮอมปอย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีงาม ควรค่าแก่การรักษาและสืบทอดไว้ในสังคมยุคปัจจุบัน
การฮอมปอย เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนล้านนา
ฮอม หมายถึง การนำปัจจัย หรือสิ่งของมารวมกัน
ปอย หมายถึง งานบุญ หรือการจัดงานในวาระเฉลิมฉลองสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีผู้คนมาร่วมงานจำนวนมาก งานปอยมีหลายชนิด ได้แก่
ปอยเข้าสังฆ์ เป็นงานบุญที่อุทิศส่วนกุศลไปหาผู้ตาย
ปอยล้อหรือปอยลากประสาท เป็นงานบุญที่จัดขึ้นในการประชุมเพลิงพระภิกษุสงฆ์ที่มรณภาพ
ปอยลูกแก้ว/ปอยหน้อย เป็นงานบุญในพิธีบรรพชาหรือบวช
ปอยหลวง เป็นงานบุญที่จัดเพื่อฉลองศาสนสถาน เช่น โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ กำแพงวัด เป็นต้น
งานปอยจะเป็นงานที่ทุกคนมีส่วนร่วมด้วยความเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นการฮอมเงิน วัตถุสิ่งของหรือแรงกายก็ตาม เพราะต่างถือว่าสิ่งที่ได้รับจากงานปอย คือ บุญ
จากการมองเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมการร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือกัน หรือที่เรียกว่า การฮอมปอย ณ โรงเรียนชีวิต (LIFE LONG LEARNING CENTER) อ.เมือง จ.ลำปาง จึงได้มีการนำวัฒนธรรมฮอมปอยมาใช้เพื่อพัฒนาการศึกษาให้แก่เด็ก ๆ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาการศึกษาที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องสร้างฝันร่วมกันเพื่อพัฒนาการศึกษา ทุกคนควรร่วมคิดร่วมสร้างแทนที่จะโยนภาระความรับผิดชอบให้แก่ผู้ใดหรือหน่วยงานใดโดยเฉพาะ ทำจากจุดเล็ก ๆ ที่เราทำได้ อยากให้สังคมเป็นอย่างไรให้ร่วมมือกันทำ ให้ทั้งแนวความคิด และหลักการทำสังคมน่าอยู่เพื่อเป็นมรดกแก่บุตรหลาน ดีกว่าโยนบาปให้เด็กหรือแค่วิพากษ์สังคมแต่เพียงอย่างเดียว กิจกรรมพัฒนาการศึกษาที่เกิดจากการฮอมปอยร่วมไม้ร่วมมือกันของทั้งผู้รับและผู้ให้ มีกิจกรรมพัฒนาเด็กและเยาวชน อาทิ กิจกรรมการเข้าค่ายลูกเสือ ,ค่ายภาษาอังกฤษและค่ายศิลปะ ค่ายภูมิปัญญาท้องถิ่น ค่ายคุณธรรม ฯลฯ ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างช่วยกัน
กิจกรรมดังกล่าวก่อเกิดขึ้นจากวิถีชีวิตและจิตใจแห่งความเอื้ออาทรของผู้คนที่มีให้แก่กัน ทุกคนผลัดกันเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ที่สมดุล ซึ่งหาได้ไม่ง่ายนักในสังคมยุคปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่ให้คุณค่าของเงินที่เชื่อว่าสามารถบันดาลทุกอย่างให้เกิดขึ้นตามต้องการ แต่บางครั้งคุณค่าด้านจิตใจยิ่งใหญ่กว่า “เงิน”
ณ ที่แห่งนี้ จะมีภาพกิจกรรมที่เกิดจากการฮอมปอยทางการศึกษาเกิดขึ้นเป็นประจำและอย่างต่อเนื่อง มีผู้ใจบุญในสังคมต่างมาช่วยกันถ่ายทอดความรู้และสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นแรงกาย แรงใจและกำลังทรัพย์ เช่น ขนม อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น ลักษณะการจัดกิจกรรมจะเลือกจัดตามความสนใจของผู้เรียน และความพร้อมของวิทยากรผู้มาให้ความรู้ อาจเรียนใต้ต้นไม้ กลางทุ่งนา จะนั่งหรือนอนได้ตามความเหมาะสมของกิจกรรม
นักเรียนที่มาเรียนห่อข้าวมากินเองแล้วได้ความรู้กลับไป ภายใต้ความเชื่อที่ว่า ทุกคนต้องรับผิดชอบชีวิตตนเอง ส่วนสิ่งที่ได้รับจากผู้อื่นคือของแถม
วิทยากร สละเวลา กำลังกาย กำลังทรัพย์ สิ่งที่ได้ คือ บุญ หรือความสบายใจ
คุณครู ได้ทำหน้าที่ของการเป็นผู้ชี้แนะและผู้ให้
สิ่งเหล่านี้ คือ การฮอมปอย เป็นวัฒนธรรมเก่าสู่แนวทางใหม่เพื่อการพัฒนาการศึกษา
ผอ.วิรัตน์ มาน้อย จากโรงเรียนบ้านทุ่งฝาย อ.เมือง จังหวัดลำปาง ผู้มีบทบาทสำคัญและให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรม และพานักเรียนมาเรียนรู้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียนชีวิตเป็นประจำ กล่าวว่า
“ตอนเป็นเด็กนักเรียนรู้สึกอึดอัดและกดดันในการเรียนหนังสือที่ต้องนั่งเรียนอยู่แต่ในห้อง คุณครูก็ดุ อยากออกไปเรียนรู้นอกโรงเรียนบ้างแต่ไม่เคยได้ออกไป พอมีโอกาสเป็นผู้บริหารโรงเรียนจึงได้จัดทำโครงการที่มีกิจกรรมให้เด็กเรียนรู้นอกสถานที่ ได้มีโอกาสฝึกประสบการณ์และเรียนรู้ด้วยความสนุกสนาน เด็กนักเรียนชอบที่จะมาเรียนที่โรงเรียนชีวิตแห่งนี้ เพราะมีบรรยากาศที่ร่มรื่นสวยงาม สนุกสนานและได้รับความรู้กลับไปด้วย”
นักเรียนที่เข้ามาเรียนรู้ร่วมกันต่างกล่าวว่า ชอบและสนุกที่ได้มาเรียนรู้ที่นี่ เพราะมีบรรยากาศของการเรียนที่ทำให้ไม่เบื่อ การสอนของวิทยากรก็ไม่ต้องมีคะแนนมาขู่ให้กลัว ความรู้ที่ได้รับมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับศักยภาพของผู้เรียนและความต้องการที่จะรับ
“ มาเรียนที่นี่ทำให้หนูชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษที่วิทยากรสอน ทั้งที่แต่ก่อนหนูไม่ชอบเลย ทำให้คิดว่าภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิดอีกต่อไป หนูจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษให้ดีกว่าเดิม” น้องหมี เด็กนักเรียนหญิงชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านทุ่งฝาย กล่าวหลังจากได้มาเข้าค่ายภาษาอังกฤษเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
อาจารย์รัศมี โคคา อาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตหนึ่งในทีมวิทยากรที่มักจะเข้ามาช่วยเหลือกิจกรรมในโรงเรียนชีวิต บอกว่า “จะมาช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กับน้อง ๆ นักเรียน และคุณครูที่นี่อีก และจะชวนเพื่อน ๆ มาช่วยด้วย เพราะมาที่นี่รู้สึกว่ามาเติมเต็มชีวิต สบายใจและมีความสุขจากการให้”
ผู้ปกครองนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลทิวฟ้า ที่เห็นความสำคัญของการศึกษา มักจะพาลูกมาเรียนรู้กิจกรรมร่วมกับพี่ ๆ นักเรียนระดับประถมศึกษา กล่าว่า “ลูกชายชอบที่จะมาเรียนที่นี่ เพราะว่าสนุก มีที่ให้วิ่งเล่น ลูกชายกล้าแสดงออกมากขึ้นเมื่อคุณครูจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ให้เด็กได้ฝึกและเห็นจากสภาพจริง อยากให้มีแหล่งเรียนรู้เหมือนโรงเรียนชีวิตนี้มาก ๆ จะทำให้เด็กมีความสุขจากการเรียนแทนที่จะเรียนจนเครียดเหมือนเด็กนักเรียนในปัจจุบัน”
ครูเพ็น หรือ อาจารย์วาจิส กันทะวัง อาจารย์ผู้สอนรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ศูนย์ลำปาง ผู้ก่อตั้งโรงเรียนชีวิต กล่าวถึงเหตุผลที่จัดกิจกรรมพัฒนาเด็กและเยาวชนว่า “ การศึกษาเป็นกระบวนการในการพัฒนาคนเพื่อให้เต็มตามศักยภาพการศึกษาช่วยสร้างคน และสร้างชาติ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญและช่วยเติมความเป็นมนุษย์ของเราให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การศึกษาเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีความแตกต่างกับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ทำให้มนุษย์เกิดการเรียนรู้เพื่อการแก้ไขปัญหา และค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ดังนั้นการจะพัฒนาประเทศและทำสังคมให้น่าอยู่ สิ่งแรกที่ควรให้ความสนใจ คือ พัฒนาการศึกษา”
เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนต่างมาร่วมแรงร่วมใจถ่ายทอดประสบการณ์ ความชำนาญที่มีมาตลอดชีวิตเพื่อเก็บไว้เป็นองค์ความรู้ถ่ายทอดให้กับเด็กรุ่นต่อไป มีการจัดกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดการทำเครื่องมือเครื่องใช้ในท้องถิ่น และวิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้าน เช่น สานตระกร้า ทำน้ำคอก(ภาชนะบรรจุน้ำที่ทำจากไม้ไผ่) ทำกลองขุม ห่อขนมจอก คนขนมปาด การขับจ้อย ขับซอและเล่นดนตรีพื้นเมือง สะล้อ ซอ ซึง เป็นต้น
ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาร่วมกิจกรรมในวันนั้นบอกว่า มีความสุขที่มีโอกาสมาถ่ายทอดความรู้ที่ตนมี เพราะปกติลูกหลานไม่ค่อยสนใจให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ พวกเขาจะสนใจในสิ่งที่ทันสมัย สิ่งที่ปู่ย่าตายายคิดและทำเป็นสิ่งล้าหลังและไม่น่าสนใจสำหรับพวกเขา ผู้เฒ่าทั้งหลายจึงอยู่เหมือนดอกไม้พลาสติกใช้ประดับบ้านไม่มีชีวิตชีวาและผู้คนให้ความสำคัญน้อยลง เมื่อมาที่นี่รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า อยากมีชีวิตต่อให้ยาวนานเพื่อเป็นประโยชน์แก่ลูกหลานสืบไป
โรงเรียนชีวิต ให้โอกาสทุกคนในการเรียนรู้ จึงเปรียบเสมือนเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การถ่ายทอดสิ่งดี มีประโยชน์ให้กับผู้อื่น คนเราทุกคนมีศักยภาพและความพร้อมที่แตกต่างกันไป ทุกคนมีดีของตนเองเสมอแต่ส่วนใหญ่ขาดโอกาสและการยอมรับจากสังคม
โรงเรียนชีวิต ได้นำแนวคิดเรื่องการฮอมปอยมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีการประสานความร่วมมือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการช่วยเหลือกันเพื่อพัฒนาสังคมให้น่าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้ในสังคม ผู้ทรงภูมิปัญญาท้องถิ่นมาถ่ายทอดความรู้แก่เด็กและเยาวชน เป็นการมอบสิ่งดี ๆ ที่สั่งสมมาตลอดชีวิต เพื่อเป็นมรดกแก่ลูกหลานในท้องถิ่นต่อไป เพื่อให้เด็กเหล่านี้เกิดความรักในท้องถิ่นของตนเองแทนการละทิ้งสิ่งดีงามในท้องถิ่น เหมือนนิทานเรื่องหมากับเงาที่สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้น โรงเรียนชีวิตจึงเป็นการรวมคนที่มีจิตใจเดียวกันมาช่วยเหลือสังคมในสิ่งที่ตนทำได้ ใครมีความรู้ให้ความรู้ ใครมีกำลังกายให้กำลังกาย ใครมีใจให้ใจ ใครมีทรัพย์ให้ทรัพย์ ผลัดกันรับและให้ด้วยความสมัครใจ ไม่มีการบังคับ ทุกอย่างเกิดจากความพร้อมของทุกฝ่าย กิจกรรมในลักษณะนี้ดำเนินมาได้นับ 10 ปี โดยเริ่มมีกิจกรรมมาตั้งแต่ปลายปี 2542 จนถึงปัจจุบัน มีการปรับเปลี่ยนกิจกรรมและการดำเนินงานให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทและความเปลี่ยนแปลงของสังคม
การฮอมปอย จะเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่อผู้ให้ต่างให้ด้วยความเต็มใจ โดยไม่หวังปัจจัยอื่นเป็นสิ่งตอบแทนเป็น นอกเหนือจาก “บุญ”
วัฒนธรรมการฮอมปอย จะถูกนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้คน และโรงเรียนชีวิตจะยังดำเนินต่อไป ตราบเท่าที่ผู้คนในสังคมพร้อมที่จะเป็นผู้รับและผู้ให้ในระดับที่สมดุล เป็นกิจกรรมเล็ก ๆ ของกลุ่มคนจำนวนหนึ่ง ที่มีใจพร้อมที่จะช่วยพัฒนาสังคมแทนการกล่าวโทษถึงความย่ำแย่ของสังคมแต่เพียงอย่างเดียว
***
-สวัสดีครับอาจารย์
-เพิ่งทราบว่าอาจารย์ก็เป็นสมาชิก G2K
-แม้ว่าบันทึกนี้จะผ่านมา 8 ปี แล้วแต่ก็ยังมีคุณค่าและสร้างแรงบันดาลใจได้มากทีเดียวครับ
-ยินดีต้อนรับอาจารย์สู่ G2K อีกครั้งนะครับ
-ต่อไปคงได้เรียนรู้และขอคำปรึกษาต่างๆ อีกมากทีเดียวครับ
-ขอบคุณสำหรับมิตรภาพดีๆ ที่ได้สัมผัส ณ โรงเรียนชีวิต ด้วยนะครับ..
ขอบคุณเช่นกันค่ะ