เมื่อคืนนอนประมาณสามชั่วโมงให้อาหารสมองสลับกับวิจัยลมเข้าออกนานไปหน่อย
แต่ตื่นเวลาเดิมประจำปกติ เวลานอนไม่กะเกณฑ์ แต่จะตื่นตรงเวลาทุกวัน
ทำกิจวัตรเสร็จสรรพแล้ว จึงมาเขียนบันทึกต่อจากบันทึกก่อน
(http://gotoknow.org/blog/032012/295293)
บางคนตั้งเป้าหมายชีวิตไปเรื่อยอยากเป็นนั่นเป็นนี่
เคยถามหลายคนว่าตั้งจุดหมายหรือเป้าหมายของชีวิตอย่างไร
บ้างก็ว่าต้องการเป็นหมอ
บ้างก็ว่าต้องการเป็นครู
บ้างก็ว่าต้องการเป็นนักการเมือง
ทั้งนี้สิ่งต่างๆที่ต้องการนั้นยังไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริง เพราะใช่ว่าจะได้เป็นจริงตามต้องการเสมอไปและใช่จะสุขทุกคนที่ได้เป็น
และสิ่งที่กล่าวมานั้นก็มีจำนวนจำกัดที่จะให้ทุกคนได้เป็นตามต้องการ
(บางทีสิ่งที่ต้องการกับเป้าหมายคนละเรื่องกันเลย)
ดังนั้นโดยสรุปไม่ว่าเราจะได้ตามต้องการที่หวังหรือไม่ก็ตามหากไม่มีความสุขเราก็ยังไม่เข้าใกล้จุดหมายชีวิตที่แท้จริง จะยากดีมีจนมีเกียรติ์ในทางสังคมหรือไม่เราก็มีสุขได้ทุกคน แต่บางคนต้องคอยให้มีเงินมีทองมีหน้ามีตาทางสังคมก่อนจึงจะมีความสุข พอมีแล้วกลับกลายเป็นทุกข์กว่าไม่มีเสียอีก คนบุราณว่าไว้ว่าอยู่เย็น..เป็นสุข..แต่เดี๋ยวนี้พูดว่า..มั่งมี..ศรีสุข
ต่างกันนะลองพิจารณาดู
แต่พูดถึงความสุขมันก็มีระดับชั้นของมัน
หากพูดตามพุทธศาสนา อาจจะเป็นสามระดับคือ
-กามสุข..สุขแบบวัตถุในระดับประสาทสัมผัสเอนไปทางสุขเชิงบริโภค
-สมาธิสุข..สุขแบบสงบนิ่ง เบิกบานแจ่มใส
-นิพพานสุข..สุขแบบความมีอิสรภาพทางใจอย่างรู้เท่าทันสิ่งที่มากระทบ
ที่นี้ลองมาเทียบดูความต้องการของมนุษย์ที่ เอบราแฮม มาสโลว์
ปรมาจารย์ทางด้านจิตวิทยา แบ่งไว้ ๕ ระดับคือ
ขั้นที่ 1 ความต้องการทางกาย (Physiological Needs)
คือความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต
ขั้นที่ 2 ความต้องการความ มั่นคงปลอดภัย
(Safety and Security Needs)
คือความต้องการที่จะมีชีวิตที่มั่นคง ปลอดภัย
ขั้นที่ 3 ความต้องการความรักและการเป็นที่ยอมรับของกลุ่ม
(Love and Belonging Needs) มนุษย์เมื่อเข้า
ไปอยู่ในกลุ่มใดก็ต้องการให้ตนเป็นที่รักและยอมรับในกลุ่มที่ตนอยู่
ขั้นที่ 4 ความต้องการได้ รับการยกย่องจากผู้อื่น (Self -Esteem Needs) เป็นความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งความต้องการในชั้นนี้ถ้าได้รับจะก่อให้เกิดความภาคภูมิใจใจตนเอง
ขึ้นที่ 5 ความต้องการในการเข้าใจและรู้จักตนเอง
(Self-Actualization Needs) เป็นความต้องการชั้นสูง
ของมนุษย์ ซึ่งน้อยคนที่จะประสบได้ถึงขั้นนี้
(ที่มา http://www.seal2thai.org/sara/sara134.htm)
ในขั้นที่ ๑-๔ คนในสังคมโดยทั่วไปสามารถที่จะไต่เต้าได้ไม่ยากนัก
แต่คนเราต้องพัฒนาตนให้เข้าสู่ขั้นที่ ๕ ให้จงได้
แล้วเมื่อนั้นเราอาจจะกำลังก้าวเข้าสู้เป้าหมายชีวิตที่แท้จริงก็เป็นได้
ธรรมะสวัสดีขอรับ..
มารับธรรมะยามเช้าขอรับ
(กราบ 3 หน)
ขออนุโมทนาขอรับ..
กราบสามหน สาธุ สาธุ สาธุ...
มารับธรรมะยามเช้า...ค่ะ...
ขออนุโมทนาขอรับพี่แดง