การทำงานองค์กรสาธารณะประโยชน์ เป็นเรื่องยากและละเอียดอ่อนมากต่อความรู้สึกของทุกฝ่าย ไม่มีใครที่มีความทุกข์แล้วจะมีความสุข แต่การช่วยเหลือขององค์กรของเราจะเติมเต็มส่วนที่ขาดของเขาให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น หวังเพียงจะเพิ่มความสุขในชีวิตของคนที่ขาดหายไปนานแล้ว ดังนี้
1. ความสุขขาดหายไปนับตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าตนเองติดเชื้อเอดส์ ไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าจะเหลืออีกกี่วัน ไม่รู้ว่าถ้าจากไปครอบครัวจะอยู่อย่างไร ความหวัง ความฝันขาดหายไปนับจากวันนั้น
2. ความสุขขาดหายไปนับตั้งแต่ เงินที่จะใช้ในครอบครัวไม่มีแม้จะซื้อข้าวกิน ต้องกู้หนี้ยืมสินชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือน เพื่อให้คนในครอบครัวอยู่รอด ปัญหาอาจจะถูกมองคนละมุม เช่น มีมือมีเท้าเหมือนกันทำไมไม่ช่วยตนเอง คนบางคนเส้นผมบังภูเขา เรื่องง่ายๆแต่ไม่สามารถมองเห็นแนวทางแก้ไขปัญหาได้ตลอดชีวิตก็มี ประสบการณ์บางครั้งก็เป็นอุปสรรคที่จะทำให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ ที่เรียกว่า นวัตกรรมในการใช้ชีวิตก็เป็นได้
3. ความสุขขาดหายไปนับจากวันที่กลายเป็นที่ถูกตราหน้าว่า เป็นคนคุก เป็นนักโทษ ชีวิตหายไปเกินครึ่ง ความมั่นใจลดน้อยลงไป ขาดการยอมรับจากคนในสังคม ไม่มีเกียรติแม้จะร่วมนั่งสนทนา ซักถามพูดคุย
ในโลกของความเป็นจริง ผู้คนเหล่านี้ในสังคมมีมากมาย บางคนต้องการเงินแค่เพียง พอเลี้ยงตนเองและคนในครอบครัวไปวันๆ ไม่ต้องคิดฝันถึงเงินออมเงินเก็บ เพราะแค่จะซื้อข้าวกินยังไม่มี บางคนแค่หวังให้ตนเองมีสุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนมากกว่านี้สักหน่อย จะได้อยู่กับลูกและครอบครัวนานๆ แล้วอนาคตของพวกเขาและคนในครอบครัวอยู่ที่ไหนค่ะ เราหวังให้การศึกษาแก่คนกลุ่มนี้ให้มากๆ เพราะเป็นการสร้างโอกาสให้กับพวกเขา ถ้าเขาคิดเป็น กินเป็นอยู่เป็นอย่างพอเพียงบนความไม่มี ใช้ชีวิตจากการได้รับการสนับสนุนทุกอย่างจากภาครัฐและองค์กรแล้ว (อย่างยุติธรรม ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ)เชื่อว่า ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้ชีวิตของพวกเขาน่าจะถูกเปลี่ยนไปจากเดิม
คนที่มีเงินทองมากมายกลับหาความสุขในชีวิตไม่ได้ คนทุกคนรู้แค่วันเกิดของตัวเองแต่ไม่มีใครรู้วันตาย อยู่กับปัจจุบันและวางแผนอนาคตบนพื้นฐานของความเป็นจริงให้มากที่สุด ไม่เพ้อฝัน
เรียนรู้เรื่องของการวางแผนและสร้างเป้าหมายในชีวิต เช่น เมื่อเป็นเด็กมีการวางแผนว่าเมื่อเข้าโรงเรียนจะทำตัวอย่างไร เมื่อเป็นวัยรุ่นจะใช้ชีวิตอย่างไรให้ดีไม่สร้างปัญหาแก่ครอบครัวและสังคม และเมื่อเป็นวัยรุ่นวางแผนการใช้ชีวิตในวันที่เป็นผู้ใหญ่ และเมื่อเป็นผู้ใหญ่มีการวางแผนในการทำงานในการใช้ชีวิตครอบครัว แม้กระทั่งวางแผนชีวิตจนถึงวัยชรา..................ทุกช่วงชีวิตควรมีการวางแผน ถ้าทำได้อย่าง PDCA ตลอดน่าจะเป็นการดีไม่น้อย หลายคนอาจจะมองว่าเครียด ดิฉันว่า ความจริงไม่เครียดหรอกค่ะ คนที่ใช้ชีวิตแบบมีแบบแผน มักจะมีความผ่อนคลายในตัวเอง ถึงแม้ว่าผิดพลาด เขาจะมีช่องทางในการเชื่อมต่อระหว่างแผนกับเป้าหมายเสมอ ไม่เชื่อ ลองสังเกต ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตสักท่านดูก็ได้ หากเขาล้มเหลวเขาจะสร้างเป้าหมายและวางแผนใหม่ได้ตลอดเวลา ...................
คนชราของญี่ปุ่นหลายร้อยคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศ เพี่อมามีความสุขในบั้นปลายของชีวิต เขาย่อมมีการวางแผนมาก่อนล่วงหน้า แล้วเหตุไฉนคนไทยอย่างไร จะไม่ลองวางแผนดีดี เพื่อชีวิตของตนเองดูบ้าง สำหรับดิฉันแล้ว การวางแผนชีวิตนั่นหมายถึงการสร้างเป้าหมายในชีวิตให้กับตนเองและครอบครัว แม้จะมีผิดพลาดบ้างเราจะสามารถหาแนวทางแก้ไขปัญหาได้นะคะ แต่หากไม่วางแผนอะไรไว้เลย เมื่อมีปัญหาเราอาจจะหาทางออกไม่เจอก็เป็นได้
มาดูความสำเร็จขององค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพต่อนะคะ ณ ปัจจุบันเราเป็น 1 ใน 4 องค์กรสาธารณะประโยชน์ของจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับการรับรองจากจังหวัด(พมจ.ศก.)และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คนทำงานทุกคนเขาไม่ท้อนะคะ มีความเป็นจิตอาสาสูงมาก ผู้ประสานออย่างดิฉันเลยทำงานไม่ค่อยเหนื่อยมาก แม้จะมีงานมากมาย เพราะถือว่าให้เครือข่ายได้แสดงบทบาทของพวกเขาเอง เวลามีงานด่วนมากถึงด่วนที่สุด พวกเราจะโทรแจ้งและชักชวนกันลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพียงแต่ปัญหาที่พวกเราพบเจอ เป็นปัญหาเรื้อรังค่ะ บางครั้งก็เป็นยปัญหาโลกแตก แต่แก้ยากมาก สมาชิกองค์กรที่ติดเหล้าขาดสติสามวันดีสี่วันเมา สังคมรังเกียจ แต่เราต้องดูแลและค่อยๆแก้ค่อยๆบำบัด การเป็นที่พึ่งของผู้อื่นต้องไม่เครียด เพราะถ้าเครียดเมื่อไหร่ทุกคนจะห่างหายกันไปหมด
1. ปัจจัยความสำเร็จของการดำเนินกิจกรรม |
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมตามโครงการครอบครัวสัมพันธ์สานฝันผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเอดส์ และผู้ด้อยโอกาสในชุมชน ตำบลโคกเพชร อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ปีงบประมาณ 2552
ในฐานะของผู้ประสานงานขององค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพตำบลโคกเพชร มองประเด็นที่ทำให้องค์กรได้รับความสำเร็จ ประกอบด้วย ปัจจัยต่างๆดังนี้
1. ความร่วมมือร่วมใจของแกนนำจิตอาสาทุกคน ที่มีน้ำใจ มีความปรารถนาดีที่จะช่วยเพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน โดยให้ความช่วยเหลืออย่างมีความสุข สนุกสนานเพราะได้เพื่อนร่วมกันสานฝันอนาคตไปด้วยกัน ทั้งสมาชิกองค์กรและมีแกนนำจิตอาสาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง
2. ความเข้าใจระหว่างกันขององค์กรในชุมชน โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีความสำคัญในตำบล ได้แก่
2.1 องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเพชร มีเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบที่เล็งเห็นความสำคัญของการดำเนินกิจกรรมขององค์กรสาธารณะประโยชน์
2.2 สถานีอนามัยบ้านโคกเพชร มีเจ้าหน้าที่และบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเข้าใจในการดูแลและช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมอย่างจริงจังและจริงใจ
2.3 โรงเรียนทุกแห่งที่มีสมาชิกของครอบครัวของสมาชิกองค์กรเข้ามาเรียนด้วยต่างเข้าใจและดูแลสมาชิกองค์กรเป็นอย่างดี และมีข่าวคราวความคืบหน้าของสมาชิกองค์กรมาแจ้งให้ทราบอยู่ตลอดเวลา
3. การทำงานอย่างมีเครือข่าย องค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพมีการทำงานเชื่อมต่ออย่างเป็นเครือข่ายในหลายลักษณะ ดังนี้
3.1 ลักษณะของการพึ่งพา ได้แก่ โรงพยาบาลขุขันธ์ โรงพยาบาลศรีสะเกษ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอขุขันธ์ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นการทำงานอย่างเป็นเครือข่ายในการขอความช่วยเหลือด้านข้อมูลข่าวสาร ด้านความรู้ ด้านการสนับสนุนดูแลแก่สมาชิกองค์กรให้ได้รับความสะดวกสบายในการดูแลอย่างเต็มที่
3.2 ลักษณะของการเอื้ออารีย์ ได้แก่ สถานีอนามัยบ้านโคกเพชร องค์การบริหารส่วนตำบลโคกเพชร พมจ.ศรีสะเกษ กลุ่มต้นกล้าอาชีพขุขันธ์
2. จุดแข็ง/จุดอ่อน ของการดำเนินกิจกรรม |
จุดแข็งของการดำเนินกิจกรรม 1. เป็นที่กิจกรรมที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ ไม่ยากและเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน มีความสนุกสนาน และได้ทำบุญกับเพื่อนมนุษย์ 2. มีทรัพยากรที่หาได้ในชุมชน ราคาไม่แพง ได้ผลตอบแทนที่คุ้มเหนื่อย ทั้งกลุ่มแกนนำจิตอาสามและกลุ่มสมาชิกองค์กร 3. สร้างความรู้สึก และความต้องการไปสู่เป้าหมายเดียวกัน การเป็นคนที่พึ่งตนเองได้บนความพอเพียงของครอบครัว
|
|
จุดอ่อนของการดำเนินกิจกรรม 1. กิจกรรมค่อนข้างละเอียดอ่อน และต้องทำงานให้ได้มาตรฐาน สมาชิกและแกนนำหลายคนยังไม่มีความชำนาญ 2. กิจกรรมมีหลากหลายแต่กลุ่มจิต อาสามีเวลาว่างในการมาเข้าร่วมกลุ่มทำกิจกรรมน้อยส่งผลต่อรายได้ขององค์กรด้วย
|
3. วิธีแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ของการดำเนินกิจกรรม |
วิธีแก้ไขปัญหาการดำเนินกิจกรรมจากจุดอ่อนของกิจกรรม องค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพตำบลโคกเพชร ให้เวลาในการเรียนรู้ของแกนนำจิตอาสา โดยให้แกนนำผู้ที่มีความชำนาญสอนให้เพื่อนสมาชิกแกนนำที่ไม่มีความชำนาญและให้มีการเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเพื่อนสอนเพื่อน พี่สอนน้อง เชื่อว่าจะใช้เวลาในการเรียนรู้ไปเรื่อยๆ องค์กรของเราไม่จำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีความชำนาญมาก แต่ต้องการอาศัยผู้ที่มีน้ำใจ จิตใจดีเสียสละ กล้าหาญ กล้าที่จะทำความดีและมีความอดทน
4. เครือข่ายของการดำเนินกิจกรรม |
ได้ชี้แจงไว้แล้วในปัจจัยของการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ ที่สำคัญ องค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพตำบลโคกเพชร ให้ความสำคัญมากในการทำงานอย่างมีเครือข่าย เพราะเราต้องกำลังใจจากเพื่อนและทีมงาน ต้องการกำลังสนับสนุน ทั้งด้านงบประมาณ ความรู้ การเยี่ยมเยียน เพื่อแลกเปลี่ยนจะสามารถสานต่อความตั้งใจดีของแกนนำจิตอาสาและสมาชิกองค์กรให้ดำเนินการต่อไปอย่างยั่งยืน
5. งานที่สามารถนำไปต่อยอด |
การเรียนรู้การดูแลผู้ป่วยเอดส์ ผู้ติดเชื้อ ผู้ด้อยโอกาสและสมาชิกในครอบครัว เราสามารถนำกิจกรรมครอบครัวสัมพันธ์ไปใช้ในกลุ่มของเยาวชนที่มีปัญหาครอบครัว หรือปัญหาต่างๆ ในสังคม สำหรับความช่วยเหลือที่ได้ดำเนินการในปัจจุบันองค์กรสามารถช่วยครอบครัวที่มีปัญหาที่เป็นสมาชิกองค์กร จำนวน 12 ครอบครัว บรรเทาทุกข์เบื้องต้น ครัวเรือนละ 1,000 – 3,500 บาท
ในระยะยาว เมื่อครอบครัวของสมาชิกสามารถยืนอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง เงินที่องค์กรหาได้ ช่วยเหลือครัวเรือนละ 200 -300 บาทต่อเดือน (อาจจำเป็นต้องใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น มีอาการป่วยหนักต้องส่งตัวด่วน ต้องส่งผู้ป่วยอนาถาเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ หรือความช่วยเหลือเร่งด่วนอื่นๆ) องค์กรจำเป็น จะต้องมีการพัฒนาระบบการผลิตให้มีความเป็นมาตรฐานมากขึ้น มีอุปกรณ์ในการผลิตดำเนินการอย่างเพียงพอและสวยงาม ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ และมีกลุ่มอาสาที่มาทำงานให้กับองค์กรมากขึ้น มีเงินค่าตอบแทนที่ไม่มากมายแต่สามารถเลี้ยงแกนนำจิตอาสาได้ ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือนต่อคน เพราะจากแกนนำที่เข้มแข็งจะส่งผลต่อการดูแลสมาชิกองค์กรที่เป็นระบบต่อไป
ปัจจุบันมีสมาชิกที่มาขอเป็นสมาชิกองค์กรมากขึ้น ปัญหาที่พบมีมากมาย บางคนอาจไม่ได้จำเป็นในเรื่องของเงิน แต่อยากมีเพื่อน มีกลุ่ม มีความหวัง การทำอย่างไรให้องค์กรมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องย่อมเป็นผลดีต่อหลายๆภาคส่วน และองค์กรของเราอาจจะเป็นที่พึ่งของคนที่สังคมมองว่าไร้ค่า มองว่าเป็นตัวปัญหา.................................................
6. ข้อเสนอแนะต่อไป |
การดำเนินงานขององค์กรสาธารณะประโยชน์ ที่ตั้งมาจากพื้นฐานของความเสียสละของคนที่มีจิตอาสา เมื่อก่อนไม่มีงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ทุกคนก็ต้องทำงาน มาระยะหลังมีค่าตอบแทนบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ได้มากมาย แต่มีความ เพียงพอและพอเพียง เพราะเป็นรายได้ที่มาจากน้ำพักน้ำแรงของจิตอาสาเอง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
1. ส่วนแรก ให้องค์กรบริหารจัดการเพื่อช่วยเหลือสมาชิก
2. ส่วนที่สอง แบ่งเป็นรายได้ของแกนนำจิตอาสา
3. ส่วนที่สาม เก็บไว้ยามจำเป็นและฉุกเฉิน
องค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพตำบลโคกเพชร เป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่ก่อตั้งใหม่ แกนนำจิตอาสาและสมาชิกองค์กรทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์กรของเราจะสามารถดำเนินกิจกรรม เพื่อช่วยเหลือสมาชิกอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพราะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกๆด้าน
มีองค์กรบางองค์กรที่ได้รับการก่อตั้ง แต่ไม่มีการสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่อง คนทำงานขาดขวัญกำลังใจ แนวคิดและสิ่งที่จะพัฒนาต่อไปให้เป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่เข้มแข็ง สามารถพึ่งได้ใกล้ชิดประชาชน เพราะมีคนมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ขาดโอกาส
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์กรใจสู้รู้รักสุขภาพตำบลโคกเพชร จะได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนากิจกรรมต่างๆให้เป็นระบบ มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ สามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงและเป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่ทุกคนในตำบลหรือตำบลใกล้เคียงสามารถพึ่งได้อย่างแท้จริงต่อไป
7. ผู้รายงานผลการดำเนินงาน
นางเพ็ญทิวา สารบุตร นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สถานีอนามัยบ้านโคกเพชร ตำบลโคกเพชร อำเภอขุขันธ์
อีเมลล์ [email protected] สาธารณสุขศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2540 ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต ปี 2551
ไม่มีความเห็น