สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีนโยบายในการนำการจัดการความรู้ในรูปแบบการพูดคุย สนทนา (Refresh)ไปใช้ในระดับหน่วยงาน และมีการบันทึกลงในแบบฟอร์มด้วย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่หัวหน้างานในแต่ละหน่วยงานจะต้องนำนโยบายดังกล่าวไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบุคลากรในงานของตนเอง
สำหรับงานโสตทัศนศึกษาที่ผมรับผิดชอบดูแลอยู่นี้ ก็ได้เริ่มนำเอาการจัดการความรู้ในรูปแบบการพูดคุย สนทนามาปรับใช้โดยตัวผมเองได้พยายามให้บุคลากรในงานมีความรู้สึกว่าการพูดคุย สนทนา(Refresh)ไม่เป็นการเพิ่มภาระงาน ไม่เครียด สนุกและได้อะไรดีๆจากวงสนทนา โดยจัดให้มีลักษณะดังนี้
1.หัวหน้างานจะต้องพยายามสร้างอารมณ์ให้เกิดการอยากพูดคุย สนทนาในกล่มลูกน้อง โดยเริ่มจากเรื่องการชมเชย ชื่นชมการทำงานของลูกน้องที่ทำงานดี เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูด และให้กำลังใจกับลูกน้องให้ทำงานด้วยใจ สร้างแนวคิดแข่งขันกับตัวเอง
2.ในตอนแรกๆหัวหน้าต้องพุดคุยในเรื่องที่ทุกคนจะนำไปใช้ในงานที่ตนเองรับผิดชอบ หรืองานที่ต้องส่งเมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนจะมีความรู้สึกว่าได้ประโยชน์จากการพูดคุย ไม่รู้สึกว่าเสียเวลาทำงาน
3.หัวหน้างานต้องทำเป็นแบบอย่างในการให้ความเคารพ และความไว้วางใจในลูกน้องในขณะที่เขาพูดคุย โดยจะแสดงออกในรูปแบบของการรับฟังด้วยความตั้งใจ และสนใจในเรื่องที่ลูกน้องพูดเมื่อเป็นเช่นนี้ต่อๆไป ทุกคนก็จะรู้จักการพูดและการฟังที่ดี
จากสิ่งที่ผมได้เริ่มทดลองทำโดยยึดหลักสามประการที่ได้กล่าวมาแล้วจะเห็นได้ว่าลูกน้องมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตัวหัวหน้างานมากขึ้น และได้เข้าใจว่าหน่วยงานของตนเองมีเป้าหมายอย่างไรและทุกคนจะช่วยเหลือกันอย่างไรเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายนั้น
ช่องว่างระหว่างหัวหน้างานและลูกน้องจะค่อยๆปิดลง " คำสั่งจะหายไป ความร่วมใจจะมาแทนที่" และความสามัคคี ทำงานร่วมกันฉันท์พี่น้องก็เกิดขึ้นในงาน และท้ายสุดทุกคนในงานก็ก้าวเดินไปสู่เป้าหมายพร้อมกัน
สวัสดีครับพี่คนโสด
ถ้าทุกคนได้พูดคุยอะไรที่อยู่ในใจ มันจะช่วยให้ทุกคนมีความไว้วางใจ ไว้เน้อเชื่อใจกันมากขึ้นครับ
สวัสดีครับท่านวัชรา
ผมได้รับกระแสความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ทุกคนในหน่วยงานจริงใจต่อกันในทุกๆเรื่อง แต่ที่สำคัญที่สุดผู้นำหรือหัวหน้าต้องทำเป็นตัวอย่าง ในทุกสิ่งที่อยากให้เกิดในหน่วยงานเรา..ครับ
ท้ายสุดขอขอบคุณท่านที่ช่วยแนะนำการใส่ภาพในบล็อคไว้ถ้าติดขัดอย่างไร จะสอบถามอีกนะครับ