ธรรมะกับเบาหวาน


ธรรมะกับเบาหวาน

แสงสว่างสอดส่องเข้ามาทางหน้าต่างเป็นสัญญาณของเช้าวันใหม่ที่เมื่อคืนดำ ชายวัน 30 ปี  เข้ามารับการรักษากับหมอ  เพราะมีอาการติดสุราจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้  หลังจากได้รับการรักษาในโรงพยาบาล  1  คืน ดำก็มีอาการดีขึ้นและสามารถควบคุมตนเองได้อย่างเป็นปกติและมีภาวะทางอารมณ์เพียงพอที่จะได้รับการรักษาแล้ว  ดิฉันจึงมานั่งคุยด้วยแล้วถามถึงสาเหตุของอาการดังกล่าว  ดำเล่าว่า  ผมเป็นคนเพชรบุรีโดยกำเนิด พ่อแม่ผมแยกทางกันตั้งแต่อายุได้ 2 เดือน ตั้งแต่นั้นมาพ่อก็กลายเป็นติดเหล้าอย่างหนัก แต่พ่อผมก็ยังทำงานหนักเพื่อให้เรามีกิน สมัยก่อนผมเป็นคนเรียนเก่ง แต่พ่อผมให้ผมออกจากโรงเรียน

ดิฉันเลยถามว่า พ่อเขาบอกเหตุผลที่ให้ดำลาออกจากโรงเรียนหรือเปล่า  ดำบอกว่า  พ่อว่าให้ออกมาหางานทำเพราะพ่อไม่ไหว    ดำจึงเล่าให้ดิฉันฟังต่อว่า พ่อพาดำไปฝากให้เป็นคนรับใช้ในบ้านของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องขี้เมา  โดยคุณพ่อบอกว่ายอมเป็นขี้ข้าเขาแล้วจะสบาย ทั้งที่ในตอนนั้นผมอายุเพียง  16  ปี  ผมรับใช้อยู่บ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายปี  จนกระทั้งผมได้ภรรยาสาวที่เป็นคนทำครัวในบ้านเป็นภรรยาและมีลูกด้วยกัน  1  คน  อายุประมาณ  3  ปี  ตอนหลังภรรยาของผมบอกว่าจะกลับไปบ้านเดิมที่อยู่ทางเหนือสัก  10  วัน  ปรากฏว่าภรรยาได้ทิ้งผมและลูกไม่กลับมาหาตามที่ตกลงกันไว้  ชีวิตของผมเริ่มเลวร้ายมากขึ้นกว่าเดิม  ตกกลางคืนเวลาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลับมาก็จะมาซ้อม ตบตีผมตลอดเวลา  วันหนึ่งข้าราชการเริ่มมีอาการประสาทหลอนเนื่องจากดื่มเหล้าเหมือนเคย จนถูกออกจากราชการ  ทางครอบครัวของข้าราชการคนนั้นมารับตัวเขาไปรักษาโดยไม่สนใจใยดีว่าผมและลูกจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร

            ผมไม่มีที่ไปจึงตัดสินใจหอบลูกกลับมาอยู่ที่บ้านกับพ่อ  ในขณะนั้นยังดื่มเหล้าหนักเหมือนเช่นเคย  เวลาพ่อเมากลับมาพ่อจะมาด่าผมหรือไม่ก็ลูกผมโดยไม่สนใจว่าลูกและหลานจะตกทุกข์ได้ยาก  ผมก็เลยออกไปหางานทำถ้าเรายังอยู่แบบนี้ตลอดไปคงอดตายกันทั้งพ่อและลูกแน่ ๆ  ผมจึงสมัครเข้าทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นเด็กเสริฟให้บริการแขกที่เข้ามาในเวลากลางคืน  เป็นอาชีพที่ดำพอจะทำได้และตอนนี้เองที่ผมเริ่มติดเหล้า  ผมทำงานหนักในเวลากลางคืน  เวลากลางวันอยู่กับลูก  พูดถึงตอนนี้น้ำตาก็ไหลอาบแก้มของดำ  ดิฉันได้ส่งกระดาษเช็ดหน้าเพื่อให้ดำซับน้ำตาแล้วบอกเขาว่า คนเราย่อมมีอดีตที่ไม่ดี แต่ดำต้องผ่านมันไปให้ได้อย่างน้อยก็ต้องทำเพื่อลูก    ครับผมจะพยายามทำเพื่อลูกและเพื่อคนที่ผมรักดำตอบดิฉัน  

ดิฉันจึงแนะนำต่อว่า  ดำควรไปวัดไปนั่งสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบ บางทีมันอาจจะช่วยให้ดำรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิมก็ได้นะ ดำตอบว่า  ครับ ผมจะพยายามทำตามที่คุณบอกครับ    หลังจากนั้นอีกไม่นานดิฉันก็ได้พบกับดำอีกครั้ง แต่คราวนี้ดำพาพ่อมารักษา ซึ่งไม่ใช่ตัวของดำ ดิฉันจึงทักทายดำว่า ดำ สบายดีหรือ   ครับผมสบายดีแล้ว ตอนนี้ผมพาพ่อมาครับและกำลังจะกลับแล้ว   ดำตอบดิฉัน     

ดิฉันจึงถามดำต่อว่า  แล้วพ่อเป็นอะไรล่ะ  ดำตอบว่า เป็นเหมือนผมครับ แต่หนักกว่าเพราะพ่อเป็นเบาหวานด้วย  ดิฉันจึงแนะนำว่า  ดำน่าจะพาพ่อไปวัดด้วยกันนะ ทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง ถ้าว่างก็น่าจะพาท่านไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้างก็ได้ แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง  ดำตอบดิฉัน  ครับ  ดิฉันจึงพูดต่อว่า  แล้วอย่าลืมพาพ่อมาตรวจตามนัดล่ะ   อาการพ่อของดำก็ดีขึ้นตามลำดับดื่มสุราน้อยลง  โรคเบาหวานที่เป็นอยู่ค่าของน้ำตาลก็ลดลงเป็นปกติซึ่งผิดแต่ก่อนขนาดกินยาแล้วค่าของน้ำตาลยังไม่ยอมลด หลังจากเริ่มหันมาสนใจธรรมะ ทำบุญทุกวันพระและถือศีล  นั่งสมาธิ  ทำจิตใจให้สงบ  ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นและที่สำคัญทำให้นอนหลับอย่างปกติ ภาวะจากการติดสุราสามารถรักษาให้หายขาดได้  ขอเพียงคนในครอบครัวให้ความรัก  ดูแลเอาใจใส่อย่างพอเพียงเหมาะสมรวมทั้งหมอและเจ้าหน้าที่ด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์เปรียบเสมือนยาสามัญประจำบ้านที่อยู่ติดกับบ้านตลอดไป

หมายเลขบันทึก: 290855เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2009 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม 2012 13:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท