เจ้าหญิงป่วน ณ ปัตตานี
เด็กหญิง ประเสริฐ (أُخْتٌ صَغِيْرَةٌ ) รัศมีแห่งดวงตา เจ้าหญิงป่วน ณ ปัตตานี

: ตามรอยกัลยาณชน


ฟาฏิมะฮฺ บินติ อุตบะฮฺกับความอาย
ฟาฏิมะฮฺ บินติ อุตบะฮฺกับความอาย


   ท่านนบี –ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม- ได้กล่าว่า:

ความอายนั้นคือส่วนหนึ่งของการศรัทธา


   ความอายคืออาภรณ์ที่สวยงาม คือเครื่องประดับที่เลอค่ามากที่สุดสำหรับสตรี และเมื่อใดที่เธอได้ปลดเปลื้องอาภรณ์แห่งความอายแล้วไซร้  ความเป็นกุลสตรีและเกียรติของเธอก็จะเลืองลางจางหายไปด้วย

   เมื่อครั้นท่านนบีและบรรดาชาวมุฮาญิรีนได้อพยพถึงนครมะดีนะฮฺ ชาวอันศอรฺต่างมาพบและทำสัตยาบันกับท่านนบี และหนึ่งในนั้นก็มีบรรดาสตรีร่วมอยู่ด้วย
   ฟาฏิมะฮฺ บินติ อุตบะฮฺ คือหนึ่งในบรรดาสตรีชาวอันศอรฺที่มาร่วมทำสัตยาบันกับท่าน  และท่านก็ได้ทำสัตยาบันกับพวกนาง โดยมีเนื้อหาสาระของคำสัตยาบันดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในสูเราะฮฺ อัลมุมตะหินะฮฺว่า:

  أَنْ لَا يُشْرِكْنَ بِاللَّهِ شَيْئًا وَلَا يَسْرِقْنَ وَلَا يَزْنِينَ   


พวกนางจะไม่ตั้งภาคีใด ๆ ต่ออัลลอฮฺ   จะไม่ขโมย จะไม่ทำซินา...


เมื่อนางได้ยินประโยค “จะไม่ขโมย จะไม่ทำซินา” นางก็ถึงกับเอามือกุมศีรษะ ก้มหน้าก้มตา และม้วนตัวด้วยความเขินอาย เมื่อท่านนบีเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกฉงนสนเท่กับพฤติกรรมของนางยิ่งนัก

   สุบหานัลลอฮฺ!
   เพียงแค่นางได้ยินคำว่า “ขโมยและซินา” นางก็ถึงกับม้วนตัวอาย แล้วนับประสาอะไรกับการกระทำ แน่แท้พฤติกรรมของนางดังกล่าวเกิดจากความบริสุทธิ์ผุดผ่องของจิตใจ ที่ยากนักจะมีสตรีนางไหนเสมือน ยิ่งในยุคโลกาฟิตนะฮฺที่ห้อมล้อมไปด้วยกิเลสตัณหา ยุคที่มีเสียงเรียกร้องให้ผู้หญิงใช่แค่ปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ห่อหุ้มเรือนร่างของนางเพียงเท่านั้น แต่ยังเรียกร้องให้ปลดปล่อยความอายที่ห่อหุ้มจรรยาของนางอีกด้วย และเมื่อสตรีไร้ซึ่งความยางอายแล้ว ความวิบัติก็ได้รออยู่ตรงหน้าแล้ว
   ท่านนบี –ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม- ได้กล่าวว่า:

   إِذَا لَمْ تَسْتَحْيِ فَافْعَلْ مَا شِئْتَ    
เมื่อท่านไม่มีความอายแล้ว ดังนั้นท่านก็จงทำตามความประสงค์ของท่านเถิด
บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ (3224)


โอ้มุสลิมะฮฺ !
   เธอจงรักษาเกียรติ สงวนตัว และดูแลหัวใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องเถิด และจงอย่าได้ให้จุดด่างดำได้จับเกาะอยู่บนหัวใจของเธอ เพราะหัวใจที่ขาวสะอาดมันจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอมและปฏิกูลที่พยายามจะจับเกาะอยู่บนหัวใจ และเธอก็จะได้เป็นผู้ที่ได้รับความผาสุกในโลกหน้า
   อัลลอฮฺได้ตรัสว่า :

يَوْمَ لَا يَنْفَعُ مَالٌ وَلَا بَنُونَ   إِلَّا مَنْ أَتَى اللَّهَ بِقَلْبٍ سَلِيمٍ


(วันอาคิเราะฮฺ) คือวันที่ทรัพย์สมบัติและลูกหลานจะไม่อำนวยประโยชน์ได้เลย  เว้นแต่ผู้มาหาอัลลอฮฺด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส
อัชชุอะรออฺ : 87-88



-------------------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง
เรื่องราวข้างต้นบันทึกโดยอะหฺมัด (6/151) ด้วยสายรายงานที่ถูกต้อง


<a href="http://abir.igetweb.com/index.php?mo=3&art=25592"> แหล่งข้อมูล </a>

หมายเลขบันทึก: 290819เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2009 10:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน 2012 22:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท