เทคนิคการสำรวจลูกน้ำยุงลาย
ลำดับของการดำเนินงานเพื่อการสำรวจลูกน้ำยุงลายในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกนั้นเป็นสิ่งที่บุคลากรสาธารณสุขที่รับผิดชอบงานป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกที่ต้องคำนึง คือ
ควรประสานงานกับผู้รับผิดชอบพื้นที่ก่อน เช่น สาธารณสุขอำเภอ สถานีอนามัย ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อเตรียมพื้นที่ ชี้แจงวัตถุประสงค์ โดยการประกาศทางหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน หรือแจ้งพื้นที่ทางโทรศัพท์ก่อน
ในการสำรวจแต่ละครั้ง ควรมีบุคลากรที่รับผิดชอบพื้นที่นั้นร่วมปฏิบัติงานด้วย เพื่อความสะดวกในการสำรวจ และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เรียนรู้ร่วมกันจะได้รับความร่วมมือจากประชาชนดีขึ้น
เกณฑ์การสำรวจลูกน้ำยุงลาย ควรมีการสุ่มอย่างมีระบบ ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก(3 ) ดังนี้
จำนวนบ้านที่ต่ำกว่า 100 หลัง ควรสำรวจให้ได้มากที่สุด หรือทั้งหมด
จำนวนบ้านตั้งแต่ 100-199 หลัง สำรวจ จำนวน 45 หลังคาเรือน
จำนวนบ้านตั้งแต่ 200-299 หลัง สำรวจ จำนวน 51 หลังคาเรือน
จำนวนบ้านตั้งแต่ 300-399 หลัง สำรวจ จำนวน 54 หลังคาเรือน
จำนวนบ้านมากกว่า 400 หลัง สำรวจ จำนวน 55 หลังคาเรือน
วิธีการสำรวจ(1, 2 )
1. ให้สำรวจทุกภาชนะที่มีน้ำขังทั้งภายในและภายนอกบ้าน
2 บันทึกจำนวนภาชนะโดยใช้การขีดแทนการเขียนด้วยตัวเลข ถ้าพบลูกน้ำ ยุงลายแม้เพียง 1 ตัว ให้ถือว่าพบลูกน้ำ (ลูกน้ำยุงลายทุกระยะ)
3. สำรวจภาชนะที่มีน้ำขังจากภายนอกบ้านก่อน แล้วเข้าไปสำรวจภายในบ้าน
4. เวลาสำรวจควรไปเป็นทีม( 2 คนขึ้นไป) คนหนึ่งสำรวจ อีกคนเป็นคนลงรายงาน
5. แจ้งเจ้าของบ้าน แนะนำตัวเองสถานที่ทำงาน ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการสำรวจ
6. ไม่ควรข้ามบ้านที่เลี้ยงสุนัข หรือมีป้ายบอก สุนัขดุ ถ้าสุ่มถูกบ้านหลังนั้น เพราะบ้านหลังดังกล่าวอาจมีลูกน้ำยุงลาย ให้เรียกเจ้าของบ้านจับหรือผูกสุนัขไว้แล้วสำรวจ
7. บ้านที่ปฏิเสธ ไม่ให้เข้าสำรวจควรแจ้งผู้นำในหมู่บ้านนั้นพาเข้าไปสำรวจ อาจเป็น อสม.หรือผู้นำชุมชน เป็นผู้พาเข้าสำรวจ และอธิบายวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของการสำรวจ
8. ขณะสำรวจควรให้คำแนะนำวิธีการควบคุมลูกน้ำยุงลาย แก่เจ้าของบ้านไปพร้อมด้วย
9. ผู้สำรวจให้ทำตัวคุ้นเคยหรือเป็นมิตร สร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของบ้าน เพื่อความสะดวกในการเข้าสำรวจ
10. ต้องไม่ละเลยภาชนะที่คนทั่วไปมองข้าม ที่ไม่คิดว่าจะมีลูกน้ำ เช่น ที่รองน้ำหลังตู้เย็น ปากไหปลาร้า จานรองกระถางต้นไม้ ที่ให้น้ำกรงนก ที่แช่ตะไคร้ จานรองขาตู้กับข้าว แจกันดอกไม้ในหิ้งพระ ฯลฯ
11. สำรวจโดยให้ใช้ไฟฉายส่องดูลูกน้ำขณะน้ำนิ่งให้ทั่ว และเคาะภาชนะอีกครั้งเพื่อสังเกตการเคลื่อนไหวของลูกน้ำ
12. ภาชนะที่เป็นทรงเหลี่ยม เช่น อ่างอาบน้ำ อ่างราดส้วมให้ส่องไฟฉายบริเวณมุมภาชนะเป็นอันดับแรก เพราะลูกน้ำ
ส่วนใหญ่ไปกระจุกอยู่บริเวณนั้นมากกว่าที่อื่นและภาชนะทรงกลมให้ส่องไฟฉายสำรวจจนถึงก้นภาชนะ
13. การส่องไฟฉายหาลูกน้ำในภาชนะที่มีลักษณะโปร่งใส เช่น ขวดพลาสติกปลูกพลูด่าง ให้ส่องไฟจากก้นภาชนะแทนการส่องจากด้านบนหรือด้านข้างหรือดึงต้นพลูด่างออกปล่อยให้น้ำนิ่ง แล้วค่อยส่ายตาหาลูกน้ำ
14. ภาชนะขนาดเล็กที่มีลักษณะทึบ เช่น แจกันดอกไม้ ควรเทน้ำใส่ภาชนะอื่น เช่น ขัน จาน เพื่อดูลูกน้ำ
15. ถ้าหากไฟฉายมีแสงสว่างไม่เพียงพอ ควรเปลี่ยนถ่านก้อนใหม่ หรือให้ใช้ภาชนะ เช่น ขันตักน้ำ จ้วงตักลูกน้ำที่บริเวณมุมภาชนะเพื่อดูลูกน้ำ
16. กรณีบ้านมีต้นไม้ หรือกอหญ้า ให้สังเกตดูภาชนะอื่นที่ซุกซ่อนอยู่รอบๆ เช่น ถุงพลาสติกที่มีน้ำขัง เปลือกผลไม้ที่มีน้ำขัง กาบใบไม้ ภาชนะขังน้ำที่แขวนอยู่รอบบริเวณนั้นด้วย
17. กรณีบ้านมีกอไผ่ หรือรั้วบ้านที่เป็นไม้ไผ่ให้สำรวจตอไผ่ที่มีน้ำขังด้วย
18. ผู้ปฏิบัติงาน 1 คน ควรสำรวจไม่เกิน 40- 50 หลังคาเรือน /คน/วัน
ดังนั้นก่อนที่บุคลากรสาธารณสุขจะดำเนินการสำรวจควรเตรียมความพร้อมและศึกษาประเด็นที่น่าสนใจดังกล่าวก่อนจึงจะทำให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพต่อไป
เอกสารอ้างอิง 1. สีวิกา แสงธาราทิพย์. ระบาดวิทยาของโรคไข้เลือดออก. ใน:โรคไข้เลือดออก ฉบับประเกียรณก.สำนักงานควบคุมโรคไข้เลือดออก. กรุงเทพมหานคร:โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย;2545. 2. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น. คู่มือการใช้สารเคมีและการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องพ่นเคมี สำหรับผู้ปฏิบัติงานควบคุโรคไข้เลือดออกในระดับสนาม: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา ; 2551. 3. World Health Organization. Prevention and Control of Dengue and Dengue Haemorrhagic Fever. Regional Pulbication, SEARO. : New Delhi, 1999.
เข้ามาหาความรู้ค่ะ
ขอบคุณที่นำมาถ่ายทอดค่ะ
รับอาสาสมัครตรวจจับลูกน้ำมั่งมั๊ยคะ...
แบบว่า มีจิตอาสาหน่ะค่ะ
มีประโยชน์มากเลยครับ
การสำรวจลูกนำยุงลายดีมากคะ
ขอบคุณครับ * 0 *
ขอบคุณค่ะที่เข้ามาเยี่ยมชม