ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้.....
คำถามที่ใครๆ..อยากรู้ เมื่อเห็นถุงผ้าใส่ยาสำหรับผู้ป่วยวัณโรค
จ่ายๆไปเดี๋ยวผู้ป่วยก็กินตามนั้นอยู่แล้ว.... ( ความเชื่อใจในตัวคนไข้จริง หรือไม่ใส่ใจ?? )
หนึ่งเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก นัดครั้งต่อมา
ทำไมยาเหลือ? ยาหมดก่อนนัด? ลืมทานยาทาน? ไม่มั่นใจว่าวันนี้ทานยาแล้วหรือยัง? โดนดุ...ไม่บอกความจริง...รักษาไม่ได้ผล...เชื้อดื้อยา...คนไข้เอง...คนรอบข้าง?
จาก....กลยุทธ์การรักษาวัณโรคแบบมีพี่เลี้ยง DOTS ต้องอาศัยความร่วมมือในการรักษาจากผู้ป่วย ญาติ เจ้าหน้าที่ ในการควบคุม กำกับการกินยาอย่างถูกต้อง ทุกอย่างน่าดีแล้ว?
แต่ในความเป็นจริง ผู้ป่วยมักจะไม่ได้กินยาตรงตามเวลา เนื่องจากการลืมกิน / ลืม DOTS ของผู้ป่วยและญาติ บ้างไม่แน่ใจว่าวันนี้ทานไปแล้วหรือยัง เลยไม่ทาน...ขาดยา หรือทานอีก...ได้ยาเพิ่มเป็นสองเท่า
สู่...เครื่องมือช่วยเตือนให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างถูกต้อง และต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา และสามารถลดปัญหาเชื้อวัณโรคดื้อยาในอนาคต
ลำดับการพัฒนา
1. จัดยา Package / 1 มื้อการกินยา ตามจำนวนวันนัด.....ลืมกินยา การบันทึกในสมุด ไม่ตรงตามเวลาที่กินยาจริง
2. ปฏิทินการกินยา ที่ทำจากกระดาษ ...... การฉีกขาดง่ายจากการดึงซองยา
3. กระดานแผงถั่ว(การจัดยาติดไวท์บอร์ด).....ไม่สะดวกในการพกพา
4. กระเป๋าผ้า รักษาวัณโรค ....
เตือนการกินยาตามเวลาอย่างต่อเนื่อง
ง่ายต่อการตรวจสอบ / ติดตามการกินยาตามแผนการรักษา
คงทนถาวร / สะดวก / สวยงาม / พกพาติดตัวง่าย
ถุงใส่ยานี้จึงไม่ใช่แค่ถุงใส่ยาให้คนไข้กลับบ้านไป....แต่มันได้เอาความใส่ใจใส่ลงไปด้วย
มือใหม่หัดแบ่งปัน.....ห้องยา
เยี่ยมเลย....
ทีม SHA-SONG
เป็นอีกนวัตกรรมที่ทีมร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้เกิดกับผู้ป่วยและรพ.ก็สนับสนุนให้แนวคิดดีๆเป็นจริงได้ตามฝัน...สุดท้ายผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือผู้ป่วย น่าภูมิใจจริงๆค่ะ/พี่ต๊ะ
ดีใจแทนคนไข้ที่โรงพยาบาลนี้จัง...ตั้งใจทำงานต้อไปนะจ๊ะ
สุดยอด นวัตกรรมเลยเจ้าค่ะ../juey
ขอบคุณทุกกำลังใจ และทีมงานคลินิควัณโรคด้วยนะครับ ที่เป็นคนจุดประเด็นเรื่องกระเป๋ายา / ห้องยา
เป็นกำลังใจให้ทีมดูแลผู้ป่วย TB และ HIV ที่คิดเนวตกรรมรื่องนี้ /