"เบอร์มิวดา"...จุดเชื่อมต่อระหว่างโลกและห้วงจักรวาล!!!
ตั้งแต่ตอนที่ข้าพเจ้ายังเด็ก...นิสัยอย่างนึงของข้าพเจ้าที่แก้ไขไม่ได้ซักทีคือ...
การเป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน หนังสืออ่านเล่น หนังสือนิยาย หรือหนังสือ
การ์ตูนก็ตาม หากไม่มีภาพที่สวยๆ น่าสนใจแล้ว ข้าพเจ้าก็มักไม่สนใจที่จะอ่าน
ข้าพเจ้าเบื่อเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้ว จะต้องนั่งรอเวลาเพื่อนสนิทของข้าพเจ้าไปขลุกอยู่ที่ร้าน
หนังสือ
เพื่อนสนิทของข้าพเจ้าบอกกับข้าพเจ้าว่า...
"รู้มั้ย??...เค้าสามารถอยู่ในนี้ได้เป็นวันเลยนะ สวรรค์เล็กๆเลยล่ะ"
ข้าพเจ้าคิดในใจว่า...
"ใช่สิ!! สวรรค์ของเธอ...แต่นรกของชั้นเลยล่ะ"
ข้าพเจ้าแปลกใจมากว่าทำไมเพื่อนของข้าพเจ้าถึงอยู่ในร้านหนังสือได้เป็นวันๆ...
เพราะสำหรับข้าพเจ้าแล้ว แค่สิบนาทีหลังจากเดินสำรวจบริเวณร้านรอบๆแล้ว...
ข้าพเจ้าก็ต้องหาทางออกจากที่นั่น
จนเมื่อข้าพเจ้าได้มาเจอหนังสือเล่มหนึ่งระหว่างที่นั่งรอเพื่อนในร้านหนังสือ...
"The Bermuda Triangle"
...หนังสือ THE BERMUDA TRIANGLE...
ข้าพเจ้าก็พอจะเคยได้ยินเรื่องของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดามาบ้างในรายการสารคดีและค่อนข้างสนใจ
เรื่องนี้จึงเปิดดูข้างในก็รู้สึกว่าเป็นหนังสือที่น่าอ่านทีเดียว...ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจซื้อหนังสือเล่มนั้นกลับมา
อ่าน
เนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องเกี่ยวกับความลี้ลับที่ยังรอการค้นหาคำตอบของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
ซึ่งเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมในทะเลซึ่งมีเนื้อที่1.5ล้านตารางไมล์ซึ่งอยู่ในบริเวณหมู่เกาะในมหาสมุทร
แอตแลนติกเหนือไปจนถึงตอนใต้ของฟลอริดามุ่งตรงไปทางตะวันออก ทำมุมสี่สิบองศากับเส้นรุ้งผ่านบา
ฮามัสและเปอร์โตริโกจากนั้นก็ย้อนเฉียงกลับไปสู่ทางใต้ตอนเหนือของเบอร์มิวดาทำให้อาณาบริเวณแห่ง
นี้กลายเป็นรูปสามเหลี่ยมและเป็นแหล่งกำเนิดของปรากฏการณ์ลึกลับและเหลือเชื่อต่างๆขึ้น เช่น การหาย
ไปอย่างลึกลับของเครื่องบินและเรือเดินสมุทร รวมทั้งชีวิตของลูกเรือหลายชีวิต รวมไปถึงมีคนพบเห็น
การปรากฏตัวของวัตถุไม่ปรากฏสัญชาติหรือUFOอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งทุกวันนี้สามเหลี่ยมเบอร์มิวดายังคงเป็นดินมรณะที่มีปริศนามากมายที่มนุษย์ยังหาคำตอบแท้
จริงไม่ได้ มีแค่เพียงทฤษฎีที่วิเคราะห์ตามหลักวิทยาศาสตร์เท่านั้น ที่มาใช้อธิบายปรากฏการณ์ต่างๆที่
เกิดขึ้น
เมื่อใดก็ตามที่เราล่วงล้ำเข้าไปในอาณาเขตแห่งนี้...
เราคงจะได้พบคำตอบที่แท้จริง หรือไม่ก็หายไปจากโลกนี้ตลอดการ
จากการที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเปลี่ยนแปลงความคิดของข้าพเจ้า จากที่เคยคิดว่า
วิทยาศาสตร์คือคำตอบ สามารถอธิบายทุกสิ่งได้ และจากที่เคยเชื่อว่ามนุษย์สามารถกำหนด หยุดยั้ง และ
หาคำตอบสำหรับทุกสิ่งในธรรมชาติทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่มนุษย์หาคำตอบไม่ได้
วิทยาศาสตร์อาจไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งเสมอไป บางอย่าง...แค่วิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียวก็
ไม่สามารถอธิบายได้
และเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างเสมอไป...เพราะมันคงไม่คุ้มค่านัก หากการที่จะได้มาซึ่งความ
รู้นั้นต้องแลกด้วยชีวิตและความสูญเสีย
ความเห็น (28)
หนังสือเล่มที่แยมพูดถึง เค้าว่าเป็นหนังสือที่เนื้อหาสนุกมาก
เพราะถึงเราไม่รู้ความจริงว่าเป็นอย่างไร แต่ก็เป็นเหมือนกับนิยายที่อ่านได้เพลินๆ
อย่างน้อยก็จุดประกายให้เจ้าของบล็อกนี้เกิดปัญญาขึ้นมาได้เลยทีเดียว
หนังสือน่าอ่านจัง
เอามาอ่านด้วย555
หนังสือ เล่มนั้นพี่ก็ชอบอ่านมากเหมือนกัน
ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีเหตุผลของมัน
บางอย่างอาจพิสูตรได้ บางอย่างอาจพิสูตรไม่ได้
ขอให้แยมตั้งใจอ่านหนังสือมากๆแหละกานน
หนังสือคือครู ....อิอิ
เคยเหนอ่ะเล่มนี้ แต่ไม่เคยอ่าน
อยากอ่านแหม เอามายื๊มดรู๊หล่ะ
อิอิ "^^
เคยอ่านเหมือนกันครับ เรื่องนี้สนุกดี
น่าสนใจนะครับ
ไม่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน
เห็นแบบนี้แล้วน่าอ่านจริงๆ
เผื่ออะไรๆจะดีขึ้น
ฮ่าๆๆ
ใครอยากอ่าน...ยืมเค้าก็ได้นะ
เดี่ยวเอาไปให้ยืม
สนุกจริงๆ
น่าสนใจดีอ่ะ
อยากรู้เหมือนกันว่าความจริงมันเป็นยังไง
เรื่องสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา น่าสนใจมากครับ
เป็นเรื่องที่น่าหาข้อพิสูจน์ครับ
ข้อคิดโดนใจมากเลย
จริงๆด้วยแหละที่คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่างน่ะแหละเนอะ
นาย ตฤณ งามดี
เรามาจัด Trip ไปทัวร์สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า กันเหอะ
น่าสนุกนะ ดูตื่นเต้นดี
แหม ~ วิทยาศาสตร์มันก็ต้องมีความเสี่ยงบ้าง ถึงจะตื่นเต้นที่ได้ค้นหาไง เนอะๆ ๆ ^^''
น่าหนุกดี
ยืมอ่านหน่อยนะ
เค้าสงสัยอยู๋ว่ามันมีเรื่องอารายที่นั้น
จะได้รู้เรื่องซักที
นายวรภูมิ ตั้งใฝ่คุณธรรม
หนังสือน่าอ่านน่าติดตามจัง
เดี๋ยวต้องไปหาอ่านมั้งแล้ว เพื่อจะได้เป็นคนรักการอ่านขึ้นมากับเขากันบ้าง
โอ้
ชอบเเนวนี้หรอ
สนุกดีๆ
เเต่ก่อนเคยจะทำวิจัยด้วยละ
เกี่ยวกับพวกนี้อ่า
หนุกๆ
ดีๆ
เปนหนังสือที่ดีมาก
นางสาวเศร้าใจ สลดจิต
ใช่ค๊ะ เราก็คิดว่ามีอยู่หลายเรื่องที่วิทยาศาสตร์ยังไม่มีคำตอบ
แต่บางเรื่องก็มีคำตอบน๊ะ แต่ต้องใช้เวลาหาคำตอบนานหน่อย
อาจเป็นปี สองปี หรืออีกเป็นร้อยปีเลยก็ได้
แต่ยังไงบางครั้งก็ยังไม่ครอบคลุมเรื่องลึกลับที่ธรรมชาติสร้างมาหรอกค๊ะ
แหม..คนเขียนเรื่องนี้เขียนได้ดีจริงๆ น่าจะไปเป็นนักเขียนน๊ะค๊ะ ดูเป็นผู้มีความรู้มาก
^*^
เค้าก็เคยอ่านนะแต่ก็ไม่จบ
มันก็สนุกดี
มีประโยชน์ด้วย
เล่มนี้เค้าก็อ่าน
ชอบมากๆๆๆ
แหยมน้อยยย
อิอิ
คิดถึงมนุษย์ต่างดาวขึ้นมาทันที
alzheimer's
wow!!
cool girl =]]
นางสาว วริษา ตยางคนนท์
เรื่องนี้เค้าก็สนใจเหมือนกัน
วันหลังจายืมอ่านเน้อ ^^
ชอบอ่านอะไรลึกลับเนาะแหยม
มาเล่าให้ฟังหน่อย
ขี้เกียจอ่าน
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าติดตามจริงๆ
อยากรู้ว่าอะไรแปลกๆเกิดขึ้นได้ยังไง
เป็นเพราะวิทยาศาสตร์หรือไสยศาสตร์!!!
ว้าวๆๆๆๆ สามเหลี่ยมทองคำ
เอ๊ย.. สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ^^"
หนังสือเล่มนี้เค้าก็เคยเห็นมานานแล้วแหละ
แต่ยังไม่ได้อ่านสักที มีแต่เพื่อนเค้าอ่าน
ตอนนี้รูมเมทเค้าก็กำลังอ่านอยู่นะ จะบอกให้^^"
เออ สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านี่ เค้าก็เคยได้ยินแต่ชื่อ
ไม่เคยลองไปดูสักที แต่ก็อยากเห็นของจริงอยู่นะ
อยากรู้ว่ามันเป็นยังไง อยากรู้ว่าเครื่องบินมันบินหายไปได้ยังไง
เป็นเพราะกระแสลมที่แปรปรวน หรือเป็นเพราะแรงแม่เหล็กที่ลึกลับอะ
แต่อันที่จริงเค้าก็อยากหาคำตอบอยู่นะ ^^"
ถึงแม้จะบอกว่าวิทยาศาสตร์หาคำตอบไม่ได้
แต่บางทีการจะได้มาซึ่งอะไรที่คุ้มค่ามันก็ต้องแลกกับสิ่งที่สำคัญ
การที่จะได้มาซึ่งแผ่นดิน ต้องแลกด้วยชีวิตของนักรบ
ไม่เสียสละ ชัยชนะก็ไม่เกิด จริงปะ 55+ ^^" (เกี่ยวมั้ย--")
พอแค่นี้แหละเดี๋ยวเยอะไป55+ ^^"
วงศ์ธนาวัฏ ถือธรรม
น่าสนแหะ
เคยได้ยินมาบ้างแต่ยังไม่ได้อ่านจริงจัง
อยากลองอ่านดูบ้างจัง
ตกลงมานเป็นอะไรเหลอ บักแยมคอมมิวนิส เห็นว่ามีเครื่องบินไม่ก็เรือลงไปกองเต็ม
รึป่าว 55+
อะเบ๊ยยย
นี่มาอ่านของ อะเดย์ ดิ
ม่วนๆๆ
안녕하세요!!
แยมมี่
ถ้าว่างๆ เราลองไปท้าพิสูจน์กันดีมั๊ย
ก็ไหนๆ วิทยาศาสตร์ให้คำตอบที่ถูกใจไม่ได้
เราก็ลองไปเองเลยไง แบบว่าใช้ทั้งชีวิตเพื่อหาคำตอบ...อิอิ
แต่จะว่าไปก็เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วเพลินเหมือนกันเนอะ
สนกดีเคยอ่านของเพื่อนนิดนึง(งก..ไม่ซื้อเอง)
ธัญญา พาณิชพันธุ์
น่าสนอ่ะแยม..
เค้าเคยอ่าน..อ่านแล้วมีไรให้คิดดี..
นิสิตวิศวะ จุฬาฯ
เค้ากำลังสนใจเรื่องสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาพอดี
เอามายืมอ่านได้ปะ แงมมม